ข่าวเด่น เย็นนี้ 24 มี.ค.2567
การเมืองสัปดาห์นี้ จับตา สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. เปิดอภิปรายทั่วไป รัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ในวันที่ 25 มี.ค.2567
เรื่องที่ 4,170 นับเป็นครั้งแรกที่ สว.เปิดอภิปรายรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้ รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สว.ชุดนี้ ไม่ได้เปิดอภิปรายเลยแม้แต่ครั้งเดียว
สำหรับญัตติของ สว.ในการเปิดอภิปรายครั้งนี้ มองว่า การเข้าบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ภายหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2566 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาสำคัญตามนโยบายที่แถลงไว้ รวมถึงปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นในภายหลังการแถลงนโยบาย ประกอบด้วย
1. ปัญหาด้านเศรษฐกิจของชาติ และปัญหาปากท้องของประชาชน
2. ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย
3. ปัญหาด้านพลังงาน
4. ปัญหาด้านการศึกษาและสังคม
5. ปัญหาด้านการต่างประเทศ และการท่องเที่ยว
6. ปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
และ 7. ปัญหาการดำเนินการปฏิรูปประเทศและการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ
จึงได้เปิดอภิปราย เพราะถือเป็นเป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่เร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการและแก้ไขโดยทันที อันจะส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนและยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งไม่บรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีรายได้เพิ่มขึ้น
งานนี้ไม่มี สส.เข้าร่วมประชุมด้วย แน่นอน นายกฯ เศรษฐา ไม่มีองครักษ์ ก็ต้องรอดูว่า จะหาทางรอดจากการถล่มของ สว.ได้อย่างไร
เรื่องที่ 4,171 ตามปกติเราจะเห็นกันแต่ความอารมณ์ดี ขี้เล่น เป็นกันเองกับทุกคนสำหรับพี่ปุ้ย “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จนถึงขนาดที่พ่อค้า แม่ค้าในกระทรวงอุตฯต่างยกให้เป็นขวัญใจ
เพราะ รมว.พี่ปุ้ยชอบเดินซื้อของกินในตลาดด้วยตนเอง โดยมีเมนูโปรดคือหมูทอดหม้อ ซึ่งไม่ว่าะเจอะเจอใครเป็นต้องแนะนำ แต่คราวนี้ส่งสัยพี่ปุ้ยคงโมโห และไม่พอใจกับการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาจริง
เมื่อล่าสุดได้เกิดเรื่องที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท. ออกมาให้ข้อมูลว่า เวลานี้ภาคเอกชนหลายแห่งได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากปัญหาในการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) ทั้งในส่วนของประกอบกิจการใหม่ และการขออนุญาตขยายโรงงานล่าช้า
จากข้อมูลพบว่ามีไม่ต่ำกว่า 200 ราย งานนี้พี่ปุ้ยถึงกับเดือดปุดๆสั่งการให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และอธิบดี กรอ. รวบรวมข้อมูลการขออนุญาตที่ค้างอยู่ในระบบทั้งหมดว่าอยู่ในระบบนานเท่าไร สาเหตุของการตกค้าง และเรื่องดังกล่าวอยู่ที่ใด
โดยสั่งเน้นๆด้วยว่าต้องกำหนดแนวทางในการจัดการคำขออนุญาต มาแจ้งตนในการประชุมวันที่ 26 มี.ค. ที่จะถึงนี้ เนื่องจากขัดแย้งกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการอำนวยความสะดวกในการลงทุนให้กับนักลงทุนทุกรายที่ทำทุกอย่างถูกต้องแล้ว
เรียกว่าเป็น รมว. มือใหม่ที่ทำงานเข้าตาเหลือเกินขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 4,172 ธอส. อยากให้คนไทยมีบ้าน โดย นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการลดภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ลดต้นทุนทางการเงิน เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และช่วยประคองภาระหนี้สินภาคประชาชน ธอส. จึงได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือลูกค้า รวม 2 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการบ้าน ธอส. สุขสบาย ปี 2567 กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 20 มี.ค. 2567 มีลูกค้ายื่นขอสินเชื่อดังกล่าวรวม 241 บัญชี คิดเป็นวงเงินยื่นขอสินเชื่อ 213 ล้านบาท ทำนิติกรรมแล้ว 13 บัญชี คิดเป็นวงเงินนิติกรรม 6.2 ล้านบาท และ 2. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2567 กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยข้อมูล ณ วันที่ 20 มี.ค. 2567 มีลูกค้ายื่นขอสินเชื่อรวม 215 บัญชี คิดเป็นวงเงินยื่นขอสินเชื่อ 195 ล้านบาท ทำนิติกรรมแล้ว 89 บัญชี คิดเป็นวงเงินนิติกรรม 82.7 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2567 ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ
เรื่องที่ 4,173 ร้อน ๆ แบบนี้รับไอศกรีมสักถ้วยมั้ยจ๊ะ ดับร้อนกันสักหน่อย โดย นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้ติดตามข้อมูลการค้าและสถานการณ์การส่งออกสินค้าไอศกรีม พบว่า มูลค่าการส่งออกไอศกรีมของไทย เติบโตต่อเนื่องติดต่อกันตลอดช่วงระยะเวลา 7 ปี (2560 – 2566) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 12.43% โดยล่าสุด ปี 2566 มีมูลค่าการส่งออกไอศกรีมรวม 148.21 ล้านเหรียญสหรัฐ (5,099 ล้านบาท) ขยายตัว 7.3% ทั้งนี้ หากพิจารณารายประเทศ พบว่าไทยเป็นผู้ส่งออกไอศกรีม อันดับที่ 11 ของโลก แต่ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของเอเชีย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสภาพอากาศที่ร้อน ความนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และไลฟ์สไตล์ที่ต้องเดินทาง (On The Go Lifestyles) เพิ่มขึ้นของคนไทย
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 4,174 “รัสเซีย” รายงานผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิงมอสโก ตายแล้วกว่า 115 คน บาดเจ็บ 140 คน คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากอยู่ระหว่างการเข้าค้นหาในกองเพลิง
นอกจากนี้ หน่วยความมั่นคงกลางรัสเซียแจ้งไปยัง วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เกี่ยวกับการจับกุมผู้ต้องสงสัยพัวพันเหตุโจมตีในครั้งนี้เอาไว้ได้ 11 คน ซึ่งในจำนวนนี้ 4 คน ต้องสงสัยเป็นมือปืน พร้อมทั้งเปิดเผยด้วยว่าผู้ก่อเหตุติดต่อกับบุคคลในยูเครนและตั้งใจจะหลบหนีข้ามพรมแดนไปยังยูเครนหลังลงมือ ส่วนท่าทีของ ปูติน จนถึงขณะนี้ผ่านมาแล้ว 12 ชั่วโมง ยังไม่ได้แถลงต่อสาธารณะเกี่ยวกับเหตุโจมตีครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ
เรื่องที่ 4,175 ตลาดหุ้นไต้หวันพุ่งสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ เนื่องจากอุปสงค์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่งช่วยหนุนให้กลุ่มนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อบริษัทเทคโนโลยีของไต้หวัน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไต้หวันจะพุ่งทะยานขึ้นอีก โดยแฟ็กต์เซต (FactSet) ระบุว่า ดัชนี Taiwan Weighted Index ของตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 20,296 จุดก่อนลดช่วงบวก ขณะที่นายพอล โหย่ว ประธานบริษัทเฟิร์สต์ ซีเคียวริตีส์ อินเวสต์เมนต์ คอร์ปอเรชัน (First Securities Investment Corporation) คาดการณ์ว่า ดัชนีดังกล่าวอาจพุ่งสู่ระดับ 24,000 จุดก่อนสิ้นปีนี้
เรื่องที่ 4,176 นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตากล่าวเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) ว่า ขณะนี้เขาคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพียงครั้งเดียวในปีนี้ เทียบกับเขาเคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสองครั้งในปีนี้ โดยการคาดการณ์ของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายบอสติกได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมมีความมั่นใจน้อยลงกว่าในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังคงลดลงต่อเนื่องสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%” ซึ่งเป็นเหตุให้เขาปรับลดแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเลื่อนกำหนดวันเริ่มต้นสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปในช่วงปลายปี จากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มปรับลดในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ทั้งนี้ การคาดการณ์ของนายบอสติกสวนทางกับรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเฟดในสัปดาห์นี้ที่บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดยังคงคาดการณ์ว่า คณะกรรมการเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งในปีนี้
เรื่องที่ 4,177 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าแห่งชาติของมาเลเซีย (MATRADE) ประกาศจัดกิจกรรมทางการค้าหลายรายการเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปีของสายสัมพันธ์จีน-มาเลเซีย
แถลงการณ์จากสำนักงานฯ ระบุว่า โครงการเหล่านี้มุ่งให้ข้อมูลเชิงลึกของตลาดแก่ผู้ส่งออกมาเลเซีย เอื้อการเข้าถึงผู้ซื้อชาวจีน ตลอดจนมอบโอกาสการจัดตั้งความเป็นหุ้นส่วน โดยคาดว่าจะเอื้อประโยชน์ต่อผู้ส่งออกมาเลเซียมากกว่า 500 ราย นอกจากนี้ สำนักงานฯ ยังจะกำกับดูแลพาวิลเลียนมาเลเซียที่งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) ในนครเซี่ยงไฮ้ของจีนในเดือนพ.ย.นี้ โดยมุ่งใช้ประโยชน์จากงานดังกล่าวในการเข้าถึงตลาดจีน ส่งเสริมการเปิดเสรีทางการค้า และความร่วมมือระหว่างประเทศ
เรื่องที่ 4,178 กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของฮ่องกงมีผลบังคับใช้ในวานนี้ (23 มี.ค.) โดยกำหนดให้มีบทลงโทษที่รุนแรงถึงจำคุกตลอดชีวิตสำหรับการก่ออาชญากรรมต่างๆ รวมถึงการก่อกบฏและการก่อจลาจล กฎหมายดังกล่าว ซึ่งโดยทั่วไปเรียกว่ามาตรา 23 มุ่งเป้าไปที่อาชญากรรมด้านความมั่นคงของชาติ 5 ประเภท และได้ผ่านความเห็นชอบอย่างรวดเร็วโดยสภานิติบัญญัติของฮ่องกงเมื่อวันอังคาร (19 มี.ค.)
สหรัฐ, สหภาพยุโรป, ญี่ปุ่น และอังกฤษ ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายนี้อย่างรุนแรงที่สุด โดยนายเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษกล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวจะ ทำลายสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในฮ่องกงต่อไป
เรื่องที่ 4,179 อินเดียขยายเวลาการห้ามส่งออกหัวหอมใหญ่อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าประหลาดใจที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไป และคาดว่าจะทำให้ราคาหัวหอมใหญ่ในตลาดต่างประเทศบางแห่งพุ่งสูงขึ้น
อินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกหัวหอมใหญ่รายใหญ่ที่สุดของโลกได้สั่งห้ามการส่งออกในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา และคำสั่งห้ามจะหมดอายุลงในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ทั้งนี้ บรรดาผู้ค้าคาดการณ์ว่าจะมีการยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกเนื่องจากราคาหัวหอมใหญ่ในประเทศได้ลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้วนับตั้งแต่มีการห้ามส่งออก และพืชผลในฤดูกาลนี้กำลังให้ผลผลิตใหม่
โดยนพวัชร์