ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 27-28 ต.ค.2566
ไม่เหนือความคาดหมาย สำหรับการขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคดเพื่อไทยของ “แพทองธาร ชินวัตร” เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร หมายมั่นจะให้เธอขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค รอสานต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อจากเศรษฐา ทวีสิน
เรื่องที่ 3,138 พรรคเพื่อไทยใต้เงาของแพทองธาร มีโจทย์ใหญ่คือการชนะเลือกตั้งอีกครั้ง หลังจากการเลือกตั้งในช่วงปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ประสบกับความพ่ายแพ้อย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน
ในฐานะหัวหน้าพรรค อุ๊งอิ๊ง ประกาศ 4 แนวทางในการขับเคลื่อนพรรคที่จะทำนับจากนี้คือ
1.การทำ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ นำข้อมูลทุกอย่างให้อยู่ในระบบดิจิทัล เพื่อที่ไม่ว่าคณะเข้ามาทำงานอย่างไร ก็จะได้มีการต่อยอดและพัฒนาได้อย่างง่ายขึ้น ข้อมูลสมบูรณ์แบบมากขึ้น
2.สร้างองค์กรแนวราบ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของทุกๆ คน ทำให้พรรคได้เกิดประสบการณ์ มีกระบวนการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3.จะทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ Learning Organization ที่จะมีศูนย์ข้อมูล ศูนย์วิจัย เพื่อที่จะพัฒนานโยบาย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อปรับใช้ตามยุคสมัยให้ทันท่วงที และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างเท่าทัน โดยจะมีการฝึกอบรมศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นยุวสมาชิกหรือสมาชิกทั่วไป แบ่งพื้นที่ให้คนทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ได้สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แชร์ไอเดียซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาของประชาชนได้ครอบคลุมทุกพื้นที่
และ 4. จะสร้างเครือข่าย ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ ให้แข็งแรงและมีในทุกๆ พื้นที่ของประเทศไทย เพื่อที่จะได้รับฟังเสียงของพี่น้องประชาชนที่สะท้อนมา ของตัวเองและของครอบครัวได้อย่างชัดเจน ให้มาถึงพรรคเพื่อไทยได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
เรื่องที่ 3,139 ต้องขอแสดงความยินดี และชื่นชมองค์กรอย่าง บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอย่างมาก จนทำให้สามารถคว้าการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization) ประจำปี 2566
และการรับรองความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก.ได้เป็นผลสำเร็จ และไม่ใช่เพิ่งทำในปีนี้ แต่เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
โดยที่ทางบีซีพีจี มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมทั้งหมดภายในประเทศไทยครอบคลุม 3 สโคป ได้แก่ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรงขององค์กร ,การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก 2 สโคปแรก จำนวนทั้งสิ้น 1,825 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ส่วนคนนี้ก็สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องไม่มีตกสำหรับ พี่ปืน “นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์” เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ล่าสุดก็ไปดึงเอาบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลกจากประเทศญี่ปุ่นมาลงทุนในไทยได้สำเร็จ
คงต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิดว่าพี่ปืน ซึ่งไม่นานมานี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเลขาฯบอร์ดอีวี จะมีผลงานอะไรออกมาให้พวกเราได้ชื่นชมกันอีก
เรื่องที่ 3,140 หลังจากรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” เข้ามาทำงานยังไม่ถึง 2 เดือนเต็ม ก็เจอปัญหาสารพัด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางการเมือง ปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ขณะนี้ยังกลับมาเจอกับปัญหาภายในการทำงานของรัฐบาลเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาภายในแต่ละกระทรวง
โดยมีข่าวแว่วออกมาว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอี ของ “ท่านประเสริฐ จันทรรวงทอง” ส่อเค้าว่าจะวุ่นวายซะแล้ว หลังมีข่าวว่าท่านที่ปรึกษาใหญ่คนหนึ่ง เข้ามาล้วงลูกข้าราชการหางบประมาณ โดยบางโครงการถึงขั้นเรียกให้เอกชนที่ต้องการรับงานในกระทรวงมาพบ ยิ่งทำให้ข้าราชการลำบากใจเสียแล้ว
และที่สำคัญ ได้มีการอ้างถึง “นายใหญ่” และ “นายหญิง” แม้กระทั่งมีการโชว์ “ไลน์” ส่วนตัวอ้างตนเองเป็น “สายตรง” และที่ผู้ใหญ่ในพรรคหลายคน ไม่สบายใจ คือชอบอ้าง “อดีตนายกฯหญิง” หวังว่าเรื่องนี้ “นายกฯ เศรษฐา” คงจะต้องลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้อาจจะกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลได้
เรื่องที่ 3,141 “ผอ.เต๋-วิทัย รัตนากร” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผย วันออมแห่งชาติปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ออมดี มีสุข” ธนาคารได้จัดแคมเปญเงินฝากกระตุ้นการออม อาทิ 1.เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 10 เดือน ดอกเบี้ยเทียบเท่าฝากประจำ 2.11% ต่อปี ไม่เสียภาษี 2. สลากออมสินพิเศษ เพิ่มดอกเบี้ยครบอายุ สูงสุด 1.20 บาท/หน่วย และเพิ่มรางวัลพิเศษ สูงสุด 50 ล้านบาท รวมถึงโปรโมชันประจำวันออมแห่งชาติที่จัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ผู้ฝากเงิน 500 บาทขึ้นไป มีสิทธิ์รับกระปุกดีไซน์พิเศษเป็นที่ระลึกอีกด้วย
เรื่องที่ 3,142 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ถึง 138,184 บัญชี 174,272 ล้านบาท คิดเป็น 74% ของเป้าหมายในปี 2566 ที่ตั้งไว้ 235,480 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 มียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,669,492 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,721,295 ล้านบาท เงินฝากรวม 1,475,077 ล้านบาท หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล 70,809 ล้านบาท คิดเป็น 4.24% ของยอดสินเชื่อรวม
เรื่องที่ 3,143 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้รับคัดเลือกโดยสถาบันไทยพัฒน์ ให้เป็น 1 ในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 จาก 888 หลักทรัพย์จดทะเบียน ที่มีการดำเนินงานโดดเด่น ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และยึดมั่นธรรมาภิบาล(Environmental Social and Governance : ESG) เป็นปีที่ 7 ตอกย้ำวิสัยทัศน์องค์กรยั่งยืน ที่มุ่งมั่นสู่การเป็น “ครัวของโลก”
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 3,145 หนังสือพิมพ์มารีฟของอิสราเอลรายงานผลสำรวจในวันนี้ (27 ต.ค.) ระบุว่า ชาวอิสราเอลเกือบครึ่งหนึ่งที่ได้รับการสำรวจ ต้องการให้ชะลอการบุกฉนวนกาซาออกไปก่อน โดยผลสำรวจนี้บ่งชี้ให้เห็นว่า แผนการโจมตีตอบโต้กลุ่มฮามาสที่จับกุมตัวประกันไว้ราว 200 คนในระยะต่อไปนั้น อาจได้รับการสนับสนุนน้อยลง
ทั้งนี้ ผลสำรวจบ่งชี้ว่า เมื่อถูกถามว่ากองทัพควรยกระดับไปสู่การโจมตีภาคพื้นดินขนาดใหญ่โดยทันทีหรือไม่ ชาวอิสราเอล 29% ตอบว่าเห็นด้วย ในขณะที่ 49% ตอบว่าควรรอไปก่อน และอีก 22% ตอบว่ายังไม่แน่ใจ โดยผลสำรวจดังกล่าวตรงกันข้ามกับการสำรวจความเห็นเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ซึ่งพบว่ามีผู้สนับสนุนการโจมตีภาคพื้นดินครั้งใหญ่มากถึง 65%
เรื่องที่ 3,146 ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้มีมติเห็นชอบการห้ามมีความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันภายในกองทัพ โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อความพร้อมรบของกองทัพ ซึ่งถูกนักเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิเกย์
รายงานระบุว่า ภายใต้กฎหมายดังกล่าว สมาชิกของกองทัพจะต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี หากมีความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน ซึ่งกฎหมายนี้ผ่านการทบทวนของศาลมาแล้ว 4 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2545
ในคำตัดสินเมื่อวานนี้ (26 ต.ค.) ที่ลงมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 4 ศาลระบุว่า การอนุญาตให้มีความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันอาจบ่อนทำลายวินัยภายในกองทัพ และเป็นอันตรายต่อความสามารถในการสู้รบ
เรื่องที่ 3,147 หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จากจีน เปิดเผยในวันนี้ (27 ต.ค.) ว่า รายได้เพิ่มขึ้นเพียง 1% สู่ 145,700 ล้านหยวนในไตรมาส 3/2566 จาก 144,200 ล้านหยวนในปีก่อนหน้า แม้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่น Mate 60 Pro ในช่วงปลายเดือนส.ค. ซึ่งสามารถขายได้ถึง 1.6 ล้านเครื่องใน 6 สัปดาห์แรกของการเปิดตัวในจีนและยอดขายของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้นก็ตาม
ขณะเดียวกัน หัวเว่ยระบุว่า รายได้สำหรับช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ปรับตัวขึ้น 2.4% สู่ระดับ 456,600 ล้านหยวน (62,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2563 โดยสหรัฐเริ่มออกมาตรการคว่ำบาตรหัวเว่ยในปี 2562
โดยนพวัชร์