ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 15-16 ก.ย. 2566

พิธา ลื้มเจริญรัตน์ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล

เรื่องที่ 2,855 พิธา ลื้มเจริญรัตน์ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อเปิดทางให้พรรคเลือก สส. ที่สามารถทำหน้าที่ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ในสภาฯ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทนตนเอง
เพราะขณะนี้นายพิธา ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จึงไม่สามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้
ดังนั้น เกมนับจากนี้ ชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกล เลือกที่จะเป็นผู้นำฝ่านค้าน โดยหลังจากนี้ ปดิพัทธ์ สันติภาดา คงต้องลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เพราะคนที่จะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน จะต้องมาจากพรรคที่ไม่มีตำแหน่ง ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร
สิ่งที่ต้องจับตา คือใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล คนใหม่ โดยขณะนี้มีอยู่ 4-5 ชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค , พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค , พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฯลฯ ส่วน ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ออกตัวแล้วว่า อยากนั่งในตำแหน่งเดิมมากกว่า
สำหรับพรรคก้าวไกล จะมีการประชุมใหญ่ ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ เพื่อเลือกตั้งกรรมการยบริหารพรรคชุดใหม่ และในวันที่ 24 ก.ย. จะมีการจัดงาน “ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 เขตดินแดง กรุงเทพฯ

เรื่องที่ 2,856 การมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมที่อายุไม่มากอย่าง พี่ปุ้ย “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” ซึ่งถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ก็ช่วยทำให้เกิดความสดใสขึ้นมาได้อีกรูปแบบหนึ่ง ด้วยความที่วัยของ รมว.อุตสาหกรรมเองก็ไม่ได้ห่างกันมากนัก
จุดนี้เลยทำให้เกิดความเป็นกันเองในการพุดคุย ถามไถ่ข่าวสารความคืบหน้าทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปด้วยความสนุกสนาน นอกจากนี้ ด้วยความที่เป็นยุคสมัยใหม่ โลกของโซเชียลมีเดีย รมว.ปุ้ยเองก็ไม่พลาดที่จะชวนสื่อมมวลชนไถ่คลิปเพื่อลงติ๊กต๊อกไปด้วย
เรียกว่างานนี้ทำเอาสื่อมวลชนประจำกระทรวงเป็นที่รู้จักในสังคมวงกว้างไปด้วยเลย เพราะบัญชีติ๊กต๊อกของ รมว.ปุ้ย มีคนติดตามค่อนข้างมาก และส่วนใหญ่ก็มีแต่เสียงคอมเม้นท์ชื่นชมในความเป็นกันเองของท่าน รมว.ปุ้ย
ได้ทั้งใจสื่อมวลชน และแฟนคลับไปแล้ว 1 ต่อไปก็มาติดตามผลงานของท่านรมว.ปุ้ยกันต่อว่าจะเด็ดแค่ไหน

เรื่องที่ 2,857 กระทรวงการต่างประเทศได้ยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารเดินทางจีนและคาซัคสถาน ให้สามารถเข้ามาและพำนักในราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.2566 ถึงวันที่ 29 ก.พ.2567 เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและความเชื่อมโยงระดับประชาชน รวมทั้งมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐคาซัคสถาน โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2566
สรุปข่าวต่างประเทศ

เรื่องที่ 2,858 ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนไว้ที่ระดับ 2.5% ในวันนี้ (15 ก.ย.) ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบจำนวน 591,000 ล้านหยวนในวันนี้ ผ่านทางโครงการ MLF และกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 2.5% โดยอัตราดอกเบี้ย MLF เป็นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายเมื่อมีการกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางจีน โดยมีระยะเวลาการกู้ยืม 6 เดือน-1 ปี เพื่อเสริมสภาพคล่องระยะสั้นให้กับธนาคารพาณิชย์
เรื่องที่ 2,859 ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 10 ติดต่อกัน
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากดีดตัวสู่ระดับ 4.00% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 4.75% ส่วนอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์อยู่ที่ระดับ 4.50%
ทั้งนี้ ECB ได้เริ่มวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนับตั้งแต่เดือนก.ค.2565 เพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยล่าสุด ECB คาดการณ์เงินเฟ้อในยูโรโซนแตะระดับ 5.6% ในปีนี้ และ 3.2% ในปีหน้า และ 2.1% ในปี 2568 โดยสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของ ECB ที่ระดับ 2%

เรื่องที่ 2,860 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เข้าพบประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.ย. มุ่งสานต่อความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่าง 2 ประเทศ หลังสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และบิดาของนายฮุน มาเนต ปกครองกัมพูชามาเกือบ 4 ทศวรรษ และได้ส่งต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับลูกชายเมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ภายใต้รัฐบาลของสมเด็จฮุนเซน กัมพูชากลายเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของจีนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับเงินลงทุนจำนวนมหาศาลจากจีน
ทั้งนี้ ภายหลังจากการพบปะกับปธน.สี นายฮุน มาเน็ตจะเดินทางไปยังเมืองหนานหนิงทางตอนใต้ของจีนเพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาเซียน-จีน ครั้งที่ 20
กระทรวงกลาโหมจีนได้ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ว่า การฝึกซ้อมทางทหารร่วมกับกัมพูชา ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางการแพทย์ จะมีขึ้นในเดือนนี้
เรื่องที่ 2,861 เยอรมนีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์จากจีนเพิ่มขึ้นถึง 75% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของเยอรมนีไปยังจีนกลับลดลง 21% คิดเป็นสัดส่วนถึง 3 ใน 4 ของการลดลงในยอดส่งออกไปยังจีนทั้งหมดกว่า 8% แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อเยอรมนี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงรายงานของสถาบันเศรษฐกิจเยอรมนี (IW) ว่า มีรถยนต์จีนหลายแบรนด์ได้เข้าสู่ตลาดเยอรมนีในปีนี้ รวมเป็นทั้งหมด 8 แบรนด์ แต่ยังคงคิดเป็นสัดส่วนแค่ 1.5% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในเยอรมนี
รถยนต์ที่ผลิตในประเทศจีนที่ไม่ใช่แบรนด์จีน เช่น รถยนต์ไฟฟ้า iX3 ของบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ก็มีส่วนทำให้การนำเข้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน
รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลายวันให้หลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้เริ่มพิจารณาจะกำหนดพิกัดอัตราภาษีศุลกากรรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ราคาถูกที่นำเข้าจากจีน เพื่อปกป้องผู้ผลิตยานยนต์ในสหภาพยุโรป โดยระบุว่า รถ EV จีนได้รับประโยชน์จากเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีน

เรื่องที่ 2,862 สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียรายงานว่า อินโดนีเซียนำเข้าข้าวในปริมาณมากในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 เนื่องจากรัฐบาลอินโดนีเซียเร่งเติมสต็อกข้าว หลังราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นทั่วโลกจากผลพวงของการจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดียและปรากฎการณ์เอลนีโญ
ทั้งนี้ นางอมาเลีย อดินิงการ์ วิดยาซานตี รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียระบุว่า อินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ 270 ล้านราย ได้ทำการนำเข้าข้าวจำนวน 1.59 ล้านตันในเดือนม.ค.-ส.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 237,146 ตันในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นางวิดยาซานตีระบุว่า การนำเข้าข้าวมากกว่าครึ่งหนึ่งมาจากไทยที่ 802,000 ตัน ตามมาด้วยเวียดนามที่ 674,000 ตัน รวมถึงอินเดียที่ 66,000 ตัน และปากีสถานที่ 45,000 ตัน
รัฐบาลอินโดนีเซียสั่งให้บริษัทบูล็อก (Bulog) ซึ่งเป็นผู้จัดซื้ออาหารของภาครัฐ ดำเนินการนำเข้าข้าว 2.3 ล้านตันในปีนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านสภาพอากาศที่เกิดจากปรากฎการณ์เอลนีโญ ซึ่งทำให้เกิดภัยแล้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของบูล็อกเปิดเผยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า ยังไม่ได้ทำสัญญานำเข้าข้าวอีก 453,000 ตัน
โดยนพวัชร์