ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 20-21 มิ.ย 2566
พรรคก้าวไกล ออกประกาศแต่งตั้ง ‘ภคมน หนุนอนันต์’ เป็นรองโฆษกพรรคก้าวไกล ด้วยประสบการณ์งานในวงการสื่อสารมวลชนและประสานสื่อมากกว่า 10 ปี
เรื่องที่ 2,275 พรรคก้าวไกล ออกประกาศแต่งตั้ง ‘ภคมน หนุนอนันต์’ เป็นรองโฆษกพรรคก้าวไกล ด้วยประสบการณ์งานในวงการสื่อสารมวลชนและประสานสื่อมากกว่า 10 ปี เชื่อมั่นเสริมทัพกองโฆษกและยกระดับการทำงานร่วมกับสื่อมวลชนและการสื่อสารภายในพรรคให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
‘ภคมน หนุนอนันต์’ หรือ ‘ลิซ่า’ เคยทำงานเป็นสื่อมวลชนจนกระทั่งเกิดรัฐประหาร 2557 จึงตัดสินใจลาออก จากนั้นลิซ่าได้เข้ามาทำงานร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคในตำแหน่ง ‘ประสานงานสื่อ’ โดยรับผิดชอบการทำงานต่างๆ ของกองโฆษกพรรค
ในการเลือกตั้ง 2566 ลิซ่าลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 39 มีเป้าหมายในการเป็นตัวแทนสื่อมวลชน ผลักดัน พ.ร.บ.สื่อมวลชนฉบับพรรคก้าวไกล ที่จะเปลี่ยนวิธีคิดจากการปิดกั้นสื่อเป็นการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสารและสวัสดิการ-ความปลอดภัยในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยเฉพาะสื่อมวลชนระดับปฏิบัติงาน
ในฐานะทีมสื่อสารของพรรค ลิซ่าทำงานในตำแหน่ง ‘ประสานงานสื่อ’ ซึ่งรับผิดชอบการเผยแพร่ข่าวสารของพรรคและอำนวยการให้การประสานงานของพรรคและสื่อมวลชนเป็นไปโดยราบรื่น ด้วยประสบการณ์การทำงานร่วมกับสื่อมวลชนมากกว่า 10 ปี และทำงานมาตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล จึงมีความเชื่อมั่นว่าการมีภคมนเป็นรองโฆษกพรรค จะไม่เพียงยกระดับงานสื่อสารของพรรคเท่านั้น แต่จะทำให้การทำงานร่วมกันของสื่อมวลชนและพรรคก้าวไกลเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
เรื่องที่ 2,276 ได้มีโอกาสเดินทางมาเยือนจังหวัดขอนแก่นกับกระทรวงพลังงาน ทำให้ได้พบกับความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีของพลังงานยจังหวัดที่น่าทึ่ง เมื่อทางจังหวัดขอนแก่นเดือนหน้าส่งเสริมสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนหรือเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานประมาณ 2,882,975 กิโลวัตต์-ชั่วโมง(kWh)ต่อปี หรือเทียบเท่า 245.94 toe9ต่อปี คิดเทียบเป็นค่าใช้จ่ายสามารถลดต้นทุนการผลิตให้แก่กลุ่มเกษตรกรต่อวิสาหกิจจำนวน 14,126,577 บาทต่อปี สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 482.04 tons of CO2eต่อปี
โดยต้องบอกว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเดินหน้าดันขอนแก่นใมห้กลายเป็นเมืองพลังงานอัจฉริยะ คาร์บอนต่ำ อย่างยั่งยืนและปลอดภัย โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการเข้าถึงนวัตกรรมและการบริหารจัดการด้านพลังงานที่ทันสมัยเชิงพื้นที่ ซึ่งก็เป็นตามแผนปฏิบัติราชการด้านพลังงาน พ.ศ. 2566-2570 ถ้าระดับจังหวัดยังมาได้ขนาดนี้ ระดับประเทศก็คงจะเป็นลำดับต่อไปใช่ไหมขอรับเจ้านาย ถ้าเป็นวัยรุ่นสมัยนี้ก็คงจะต้องใช้คำว่า “ได้กลิ่นความเจริญ”
ส่วนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นี่ก็เดินเครื่องแบบเต็มสูบรุกธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ล่าสุดร่วมมือกับบริษัท อีแกท ไดมอนด์ เซอร์วิส จำกัด หรือ EDS พัฒนาเครื่องอัดประจุไฟฟ้า DC Fast Charger ที่มีกำลังไฟสูงสุดถึง 150 kW สามารถชาร์จไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว นำร่องติดตั้งเป็นแห่งแรกที่โรงไฟฟ้าวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่แรก
เรียกว่าเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการด้านการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า และผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของผู้ผลิตเครื่องอัดประจุไฟฟ้าภายในประเทศ และเกิดประโยชน์ด้านธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า นำไปสู่การสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมแก่ประเทศไทยในอนาคต มีหน่วยงานที่ใส่ใจพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรถอีวีขนาดนี้ ชาวอีวีสบายใจกันได้เลยจ้า
เรื่องที่ 2,277 สถาบันการพัฒนาการจัดการนานาชาติ หรือ IMD เปิดเผยรายงานขีดความสามารถในการแข่งขันโลกประจำปี 2566 (The World Competitiveness Yearbook – WCY) ระบุว่า ประเทศไทยติดอยู่ในอันดับที่ 30 จากทั้งหมด 64 อันดับ ขยับขึ้น 3 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2565
ทั้งนี้ IMD ได้นำปัจจัย 4 ประการมาคำนวณเป็นคะแนนได้แก่ สมรรถนะทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพภาครัฐ ประสิทธิภาพภาคธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐานด้านสมรรถนะทางเศรษฐกิจไทยอยู่ในอันดับ 16 ขยับขึ้น 18 อันดับจากอันดับที่ 34 ในปีที่แล้วด้านประสิทธิภาพภาครัฐ อยู่ที่อันดับ 24 ขยับขึ้น 7 อันดับจากอันดับที่ 31 ในปีที่แล้ว
ด้านประสิทธิภาพภาคธุรกิจ อยู่ที่อันดับ 23 ขยับขึ้น 7 อันดับจากอันดับที่ 30 ในปีที่แล้ว
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน อยู่ที่อันดับ 43 ขยับขึ้น 1 อันดับจากอันดับที่ 44 ในปีที่แล้ว
ขณะที่เดนมาร์กติดอันดับ 1 ในรายงานขีดความสามารถในการแข่งขันโลกประจำปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปีที่ผ่านมา ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ไอร์แลนด์ ซึ่งขยับขึ้นจากอันดับ 11 ในปีที่แล้ว อันดับ 3 ได้แก่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งขยับลงจากอันดับ 2 ในปีที่แล้ว
ส่วนสิงคโปร์ติดอันดับ 4 ขยับลงจากอันดับ 3 ในปีที่แล้ว และอันดับ 5 ในปีนี้ได้แก่เนเธอร์แลนด์ ซึ่งขยับขึ้นจากอันดับ 6 ในปีที่แล้วไต้หวันติดอันดับ 6 ซึ่งขยับขึ้นจากอันดับ 7 ในปีที่แล้ว ฮ่องกงติดอันดับ 7 ในปีนี้ ซึ่งขยับลงจากอันดับที่ 5 ในปีที่แล้ว สหรัฐติดอันดับ 9 ซึ่งขยับขึ้นจากอันดับ 10 ในปีที่แล้ว ส่วนจีนติดอันดับ 21 ซึ่งขยับลงจากอันดับที่ 17 ในปีที่แล้ว, มาเลเซียติดอันดับ 27 ซึ่งขยับขึ้นจากอันดับ 32 ในปีที่แล้ว, เกาหลีใต้ติดอันดับ 28 ซึ่งขยับลงจาก 27 ในปีที่แล้ว, ญี่ปุ่นอยู่ที่อันดับ 35 ซึ่งขยับลงจาก 34 ในปีที่แล้ว และอินโดนีเซียติดอันดับ 34 ซึ่งขยับขึ้นจาก 44 ในปีที่แล้ว
ส่วนลาว, กัมพูชา และเวียดนามไม่ได้รวมอยู่ในการจัดอันดับในปีนี้
เรื่องที่ 2,278 “อู๊ดด้า-จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ มั่นใจว่า ในปี 2566 ไทยจะส่งออกข้าวได้เกินกว่า 8 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่ส่งออกได้ 7.7 ล้านตัน เนื่องจากไทยมีข้าวหลากหลายสายพันธุ์ ที่สนองตอบต่อความต้องการของตลาดมากขึ้น เป็นผลจากภาครัฐและเอกชนร่วมกันพัฒนาสายพันธุ์ข้าวเพิ่มขึ้น ภายใต้ยุทธศาสตร์ข้าวไทย 5 ปี (ปี 63-67) ที่กำหนดจะพัฒนาข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์ให้ได้ 12 สายพันธุ์ แบ่งเป็นข้าวพื้นแข็ง 4 พันธุ์, ข้าวพื้นนุ่ม 4 พันธุ์, ข้าวหอม 2 พันธุ์ และข้าวโภชนาการสูง 2 พันธุ์
แต่ขณะนี้ เพียง 3 ปี ไทยพัฒนาได้แล้ว 21 สายพันธุ์ โดยพันธุ์ข้าวที่ชนะการประกวดก่อนหน้านี้ กรมการข้าว ได้รับรองสายพันธุ์ เพาะเมล็ดพันธุ์ และส่งให้เกษตรกรปลูกแล้ว ส่วนพันธุ์ที่ชนะรางวัลครั้งนี้ ได้เร่งรัดให้กรมการข้าว รับรองพันธุ์ ทดลองปลูก และผลิตเชิงพาณิชย์โดยเร็ว ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่ากว่าปีก่อน และความต้องการข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น”ปีนี้ เราน่าจะส่งออกได้ทะลุ 8 ล้านตัน ทำให้กลับมาเป็นอันดับ 2 ของประเทศที่ส่งออกข้าวได้มากที่สุดในโลก จากที่ผ่านมา บางปีเราอยู่อันดับ 2 บางปีอันดับ 3 และภายใต้ยุทธศาสตร์ข้าวนี้ ที่ทำให้ไทยมีพันธุ์ข้าวใหม่ๆ จำนวนมาก ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด ไทยจะกลับมาเป็นแชมป์ส่งออกข้าวได้อีกแน่นอน”
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,279 ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ (NHC) เปิดเผยในการให้คำแนะนำครั้งล่าสุดว่า พายุโซนร้อน “เบร็ต (Bret)” ซึ่งก่อตัวอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนกลาง อาจทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคนในอีก 2-3 วันข้างหน้านี้
“พายุโซนร้อนคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้หมู่เกาะเลสเซอร์แอนทิลลีส (Lesser Antilles) ภายในช่วงปลายสัปดาห์นี้” NHC ระบุ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ของ NHC ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองไมอามีระบุว่า พายุโซนร้อนเบร็ต ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่เกาะวินด์วาร์ดตอนใต้ไปทางตะวันออกประมาณ 1,210 ไมล์ (1,945 กิโลเมตร) มีกำลังลมอยู่ที่ 40 ไมล์ต่อชั่วโมง (65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
เรื่องที่ 2,280 สำนักข่าวเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล (WSJ) รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐเมื่อวัน ที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า จีนและคิวบากำลังปรึกษาหารือกันเรื่องการสร้างค่ายฝึกทหารร่วมในคิวบา หลังก่อนหน้านี้ทำเนียบขาวกล่าวหาว่า จีนมีฐานสอดแนมอยู่ในคิวบา ซึ่งเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ห่างจากสหรัฐประมาณ 145 กิโลเมตร (90 ไมล์)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า จีนและคิวบาอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสูงเกี่ยวกับการเปิดค่ายฝึกทหารในพื้นที่ทางตอนเหนือของคิวบา พร้อมระบุว่า กรณีดังกล่าวจะเปิดทางให้จีนสามารถวางกำลังทหารที่คิวบาได้แบบถาวร และขยายกิจกรรมด้านการจารกรรม
เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยกับ WSJ ว่า สหรัฐได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่คิวบา เพื่อยับยั้งการเดินหน้าแผนการเปิดค่ายฝึกทหารร่วมจีนและคิวบา
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศจีนยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว เช่นเดียวกับสถานทูตสหรัฐและคิวบาในกรุงปักกิ่ง
เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของสหรัฐออกมาระบุโดยอ้างอิงข้อมูลข่าวกรองว่า จีนมีฐานจารกรรมหลายแห่งในคิวบามานานแล้วและเพิ่งขยายฐานเหล่านั้นในปี 2562
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ฐานสอดแนมดังกล่าวจะเปิดทางให้หน่วยข่าวกรองจีนสามารถดักฟังการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ทั่วพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ซึ่งเป็นจุดที่สหรัฐตั้งฐานทัพทหารเอาไว้จำนวนมาก และสามารถจับตาการจราจรของเรือได้อีกด้วย
เรื่องที่ 2,281 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลนอร์เวย์บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มธุรกิจที่เป็นล็อบบี้ยิสต์และสหภาพแรงงาน โดยมีคำสั่งให้บริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ต้องทยอยปรับโควตาให้มีผู้หญิงอย่างน้อย 40% อยู่ในคณะกรรมการบริหารบริษัท ภายในระยะเวลา 5 ปี
คณะรัฐมนตรีระบุว่าแผนการดังกล่าวนับเป็นแผนการแรกของโลก โดยในแผนการขั้นต้นจะครอบคลุมบริษัทประมาณ 8,000 แห่ง ภายในปีหน้า และจะขยายไปครอบคลุมบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 30 คน ประมาณ 20,000 แห่ง ภายในปี 2571
บริษัทที่มีกำไรจากการดำเนินงานและกำไรทางการเงินโดยรวมมากกว่า 100 ล้านโครน (9.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะอยู่ในแผนการขั้นต้น และในอนาคตจะครอบคลุมถึงบริษัทที่มีกำไรเกิน 50 ล้านโครนด้วยรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่นำโดยพรรคแรงงานของนอร์เวย์กล่าวว่า การปรับปรุงความสมดุลทางเพศในตำแหน่งคณะกรรมการบริษัทนั้นช้าเกินไป โดยจำนวนตัวแทนผู้หญิงเพิ่งเพิ่มขึ้นแตะระดับ 20% ในปัจจุบัน จากที่ระดับ 15% เมื่อ 2 ทศวรรษก่อน
เรื่องที่ 2,282 ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส (PwC) บริษัทตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ของโลกเปิดเผยผลสำรวจล่าสุดพบว่า พนักงาน 25% คาดว่าจะเปลี่ยนงานในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 19% จากปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
“การสำรวจความหวังและความกลัวในแรงงานทั่วโลกประจำปี 2566” (2023 Hopes and Fears Global Workforce Survey) ของ PwC ซึ่งสำรวจพนักงาน 54,000 คนใน 46 ประเทศทั่วโลกพบว่า แม้ว่ากระแสการลาออกจากงานครั้งใหญ่ยังคงดำเนินอยู่ แต่พนักงานประมาณ 42% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 35% เมื่อปีที่แล้วนั้นกล่าวว่า พวกเขากำลังวางแผนเรียกร้องให้มีการขึ้นค่าแรงเพื่อรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น
พนักงานประมาณ 46% กล่าวว่า ครอบครัวของพวกเขาประสบความเดือดร้อนในการชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในทุก ๆ เดือน หรือไม่มีเงินมากเพียงพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ได้
ส่วนพนักงาน 38% ระบุว่า พวกเขามีเงินเหลือใช้จนถึงสิ้นเดือน ซึ่งน้อยกว่าระดับ 47% ของปีที่แล้ว นอกจากนี้ พนักงานราว 20% กล่าวว่าทำงานหลายงาน ซึ่ง 69% ของพนักงานกลุ่มนี้กล่าวว่า ต้องการทำงานมากขึ้นเพื่อหารายได้เพิ่ม
“ด้วยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง เราพบว่าพนักงานทั่วโลกต้องการค่าแรงมากขึ้น และต้องการเป็นที่ยอมรับหรือได้รับการมองเห็นคุณค่าในที่ทำงานของพวกเขา” นายภูชาน เสธี ผู้นำร่วมระดับโลกฝ่ายบุคคลและองค์กรของ PwC กล่าว
โดยนพวัชร์