ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 3-4 ม.ค.2566
ถ้าถามว่าอะไรจะเป็นไฮไลท์การเมืองในปี 2566 คำตอบก็คงหนีไม่พ้น การเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง นั่นจะเป็นข่าวใหญ่ที่สุดแห่งปี 2566 เลยก็ว่าได้
เรื่องที่ 1,691 แต่สิ่งที่จะต้องจับตามองในการเลือกตั้งปี 2566 คือการเคลื่อนย้ายพรรคของนักการเมือง และการต่อสู้แย่งชิงว่าที่ผู้สมัคร ซึ่งจะมีการดุเดือดมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา
การเลือกตั้งปี 2566 คาดว่าจะมีการซื้อเสียงกันอย่างอึกทึกครึกโครม นำมาซึ่งวงจรอุบาทว์ ที่ว่า เมื่อเป็นผู้แทนแล้ว ก็จะเข้ามาถอนทุน กอบโกย ไม่ใช่การเมืองเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง
เหตุที่มีการประเมินอย่างนั้น เพราะเห็นตัวอย่างแล้วในการดูด ส.ส. ที่เกิดขึ้นปัจจุบัน ข่าวที่ว่า ใช้เงินหัวละ 50-70 ล้าน เพื่อซื้อตัว ส.ส.แลกการโหวต หรือเพื่อดึงให้เข้าร่วมกับฝั่งของตน มีให้เห็นในการเมืองปัจจุบัน ถามว่าเงินนั้น เอามาจากไหน คำตอบคือ คงไม่มีใครใช้เงินของตัวเองเพื่อการนี้แน่นอน
เรื่องที่ 1,692 วันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.66) สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) จะมีการจัดงานแถลงข่าว ผลการดำเนินงานจากการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2565 และทิศทางปี 2566 โดยมี “วิศักดิ์ วัฒนศัพท์” ผู้อำนวยการ สกนช. เป็นผู้แถลง ที่ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน ในเวลา 10.00 – 11.00 น. บก.ชวนคุยเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ทิศทางของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเป็นอย่างไรในปีนี้ จะทนยืนหยัดแบกรับภาระตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ระดับเท่าเดิมอีกหรือไม่
ในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ทยอยเก็บเงินนำส่งเข้ากองทุนฯ จากน้ำมันดีเซล 5.82 บาทต่อลิตร กลุ่มเบนซินในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91 เก็บได้ 2.30 บาทต่อลิตร E20 และ E85 เก็บได้ 51 สตางค์ต่อลิตร โดยมีข่าวแว่วมาว่า กบน.จะติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด หากราคามีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง อาจจะมีการพิจารณาลดเพดานราคาขายปลีกดีเซลลงมาได้บ้างจากปัจจุบันอยู่ที่ 34.94 บาทต่อลิตร ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตรตามนโยบายของรัฐบาล
เอาเป็นว่าจะทำอะไรก็ขอให้มีแนวทางที่ชัดเจน และช่วยคิดถึงประชาชนในทุกกลุ่ม อย่าเจาะจงแค่เฉพาะกลุ่ม เพราะเวลานี้บอกได้คำเดียวว่าเดือดร้อนกันถ้วนหน้าแหละขอรับเจ้านาย
โดยนพวัชร์