ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 11-12 ก.ย.2565
อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิดใจในรายการโทรทัศน์ครั้งแรก หลังก้าวสู่เส้นทางการเมือง ตามรอยบิดาและน้าปู
เรื่องที่ 1,390 โดยรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ช่องไทยรัฐทีวี ได้สัมภาษณ์ลูกสาวคนเล็กของทักษิณ ชินวัตร เธอยอมรับว่า อยากให้พ่อกลับบ้านทุกวัน
“อิ๊งอยากให้พ่อกลับบ้านทุกวันตั้งแต่วันที่พ่อออกนอกประเทศ เราอยากให้พ่อกลับบ้านทุกวันนั่นคือตัวเรา ถ้าตาม Instagram จะเห็นว่าวันเกิดของคุณพ่อ อิ๊งจะอวยพรให้ท่านกลับมาจัดงานวันเกิดที่บ้านทุกปี เพราะนั่นคือความหวังที่ทำให้เราและครอบครัวอยู่ได้ อิ๊งพูดอย่างนี้ทุกปี ไม่เคยพูดเลยว่าปีหน้าโอกาสจะน้อยลง”
อย่างไรก็ตาม “อุ๊งอิ๊ง” บอกว่า ปัญหาของทักษิณผู้เป็นพ่อนั้นคือปัญหาของครอบครัว เธอไม่ได้คิดว่าจะเอามาเป็นปัญหาของประเทศ เพราะปัญหาของประเทศในวันนี้คือเรื่องปากท้อง พี่น้องประชาชนไม่มีหนทางที่จะทำให้เงินในกระป๋องมีมากขึ้น
“คุณพ่อก็มีความหวังที่จะกลับประเทศ ลองคิดว่าถ้าเราออกนอกประเทศโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับเมื่อไหร่ ถ้าไม่มีความหวัง ก็ไม่รู้จะไปต่ออย่างไร”
อุ๊งอิ๊ง บอกด้วยว่า พ่อของเธอในวัย 73 ทุกวันนี้ยังว่ายน้ำ ออกกำลังกาย หัวเราะ เพราะเขาต้องการแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ และอยู่ได้ด้วยความหวัง
“ใครสักคนที่คิดว่าตัวเองหมดหวัง ถ้าเราคิดอยู่นั่นว่าเราหมดหวัง สุขภาพคงแย่ไปด้วย” อุ๊งอิ๊ง ทิ้งท้าย
เรื่องที่ 1,391 “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ผ่านคลื่นวิทยุ FM 92.5 MHz รวมถึงเครือข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊ก Radio Thailand Live ในประเด็น”โครงการพัฒนาอาชีพเสริม (อาชีพดีพร้อม) และความคืบหน้ามาตรการส่งเสริมรถยนต์ EV” กับรายการ “คุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี” โดยประเด็นที่ ท่าน รมว. พูดก็ไล่เรียงไปตามสคริป และข้อมูลที่ได้เตรียมมา
สำหรับเนื้อหาหลักก็คือ กระทรวงอุตสาหกรรมจะเดินหน้ากระจายความสุขสู่ประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการทั่วประเทศผ่านแคมเปญเด่น 3 โครงการ ส่งเสริมสนับสนุน SMEs เพิ่มรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งของประชาชนระดับชุมชนและประชาชนทั่วประเทศ ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV หลังความต้องการใช้ของประชาชนเพิ่มขึ้น และช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรด้วยการลดต้นทุนจากสถานการณ์ราคาปุ๋ยแพง ด้วยการเพิ่มศักยภาพแร่โพแทชนำมาสกัดเป็นปุ๋ยโพแทช เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยการดำเนินการก็จะผ่านหน่วยงานในสังกัดที่ช่วยลงมือทำตามนโยบาย ฟังไปโครงการก็เข้าท่าดี แต่ถ้าจะให้ดีมากขึ้นไปกว่านี้ก็คือ การทำได้จริง ไม่ใช่เป็นแค่นโยบายสวยหรูที่ผุดออกมาแต่ทำไม่ได้ หรือไม่ได้ืนะครับผม
เรื่องที่ 1,392 ยังต้องลุ้นกันต่อไปสำหรับตำแหน่ง อธิบดีกรมธนารักษ์ ที่มานั่งแทน “พี่ภาส-ประภาส คงเอียด” เกษียณสิ้นเดือนก.ย.นี้ ล่าสุด ศุลกากรรักษ์ รุ่น 20 รุ่นสุดท้ายของกรมศุลฯ ที่ยังเหลือเพื่อนร่วมรุ่นอีกไม่เกิน 30 คน หมุนรอบนี้ คงเป็นรอบสุดท้าย ก่อนที่จะทยอยเกษียณกันหมดในปี66 ไม่เกินปี67 โดยเฉพาะว่าที่ “อธิบดีกรมธนารักษ์” เดาว่า มาจากศุลการักษ์รุ่น 20 นั้น ความจริงแล้ว เกิดปลายปี2506 ได้ฟรีอีก 1 ปี เกษียณปี2567 ครับ
ส่วนบรรยากาศภายในกรมต่างๆ ไม่ร้อนเท่าสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ล่าสุดมีผู้ตรวจฯ คนดัง ขอลุง (ป้อม) ดันขึ้นเป็นอธิบดีกรมธนารักษ์ แต่ “พี่อาคม-อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ขุนคลัง และ “ปลัดพี่ตู่” ไม่เอาด้วย งานนี้ ขุนคลังถึงขั้นขอชี้แจงเรื่องกับลุงเอง อธิบายถึงความเหมาะสมทุกประการ สุดท้ายแล้ว เป็นยังไงต้องติดตามอย่ากระพริบตา โดยเฉพาะอังคารนี้ (13ก.ย.) ไม่เกินอังคารหน้า (20 ก.ย.) รู้ผลแน่นอนว่า ผู้ตรวจน้อยฯ ขึ้นแทรกนั่งแท่นอธิบดีกรมธนารักษ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หรือกรมเล็ก อย่าง สบน.ที่ลือกันลั่นทุ่ง
แต่ต้องไม่ลืมผู้ตรวจอาวุโส 2 คนคือ “บุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์” หัวหน้าผู้ตรวจราชการ และ “พี่หลี-วิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย” ผู้ตรวจราชการ กระทรวงการคลัง ไม่ให้ขึ้นรองปลัดกระทรวงการคลัง ต้องตามหาธรรมาภิบาลอีกครั้ง เพราะเรื่องเล่าอดีต “พี่นวย-อำนวย ปรีมนวงศ์“ ผู้ตรวจ 7-8 ปี สุดท้ายได้กลับบ้านในฐานะอธิบดีกรมธนารักษ์ เพียงปีเดียว หากไม่ร้องถามถึงธรรมาภิบาลในวันนั้น วันนี้ คงไม่เกษียณให้จารึกบนผนังตึกเป็นอธิบดีกรมธนารักษ์ คนที่ 32
ส่วนกรมอื่นเช่น กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร ยังไม่มีส่งใครประกวดขึ้นเป็นผู้ตรวจ แต่ต้องแสดงความยินดีกับ “รองอวบ-อัครุตม์ สนธยานนท์” จะขึ้นที่ปรึกษากรมเร็วๆ นี้ ขณะที่กรมสรรพากร ถ้าหากไม่ส่ง “ปิ่น-ปิ่นสาย สุรัสวดี” และ “โก้-เกรียงศักดิ์ ประสงค์สุกาญจน์“ ขึ้นเป็นผู้ตรวจแล้ว ก็หมดเสน่ห์
สำหรับกรมศุลกากรช่วงนี้ เขาดังจริงๆ ปีหน้า ปีสุดท้ายของศุลการักษ์รุ่น 20 ล่าสุดได้ยินว่า “พี่ตรง-สุรเดช ตรงศิริวิบูลย์” จากนายด่านท่าเรือแหลงฉบังฯ จะขึ้นเป็นผู้อำนวยการสำนักกองสืบสวนและปราบปรามแทน “พี่ถวัล-ถวัลย์ รอดจิตต์” จะขึ้นเป็นรองอธิบดี และสุดท้าย “รองพงศ์เทพ-พงศ์เทพ บัวทรัพย์” ทำว. ขึ้นเป็นที่ปรึกษากรมฯ ก่อนเกษียณปีหน้า เพื่อให้โลกรู้ว่าคนชื่อพงษ์เทพ นามสกุล บัวทรัพย์ เกษียณซี 10 ตามรอยพี่สมชาย พี่หยิม นักเรียนศุลการักษ์ เกษียณซี 10 เท่ากัน ส่วนตำแหน่งผู้ตรวจนั้น มีเพียง “น้องขร-พันธ์ทอง ลอยกุลนันท์” น่าจะขึ้นมาเสียบได้ แต่อายุน้อยเพิ่งจะ43 เกิดปี2521 ปล่อยให้พวกเกิดก่อน เกษียณก่อนเขาสู้กัน
ส่วนที่เหลือ กรมบัญชีกลาง กรมธนารักษ์ สศค.และสบน.ได้ยินว่า มีคนต่อแถวเรียงคิวขึ้นผู้ตรวจฯ เยอะมากๆ โดยเฉพาะพวกเกิดปี 13-14-15 เก้าอี้ร้อนเป็นไฟ เพราะหากไม่ทันรอบนี้ รอบหน้า พวกเกินปี 16-17 แซงหน้าหมด สุดท้ายเกษียณที่ปรึกษาเช่น กรมบัญชีกลางมีปรึกษาถึง 5 คน ไม่รู้ชื่นชม “พี่เขียว-มนัส แจ่มเวหา” หรือด่าตามหลังคนรุ่นก่อนกันแน่น ด้านกรมสรรพากร ถ้าหากไม่ส่ง “ปิ่น-ปิ่นสาย สุรัสวดี” และ “โก้-เกรียงศักดิ์ ประสงค์สุกาญจน์“ ขึ้นเป็นผู้ตรวจแล้ว ก็หมดเสน่ห์ไปเลยครับคนกรมนี้
พรุ่งนี้ อย่าพลาด “เอกนิติ” เปลี่ยน!!! ไป ทำเสียงสูงๆ ด้วย
โดยนพวัชร์