ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 1-2 ส.ค.2565
พรรคสำรอง แก๊ง 3 ป เริ่มทยอยเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
เรื่องที่ 1,295 วันนี้ (1 ส.ค.) พรรครวมแผ่นดิน นำโดย บิ๊กน้อย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตห้วหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดย บิ๊กน้อย ที่ว่ากันว่า เป็นคนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน คนแรก
โดยแนวทางการขับเคลื่อนพรรครวมแผ่นดิน มุ่งหมายจะเป็นพรรคการเมืองขนาดกลาง คาดหวังจะได้ ส.ส.25 คน เป็นอย่างต่ำ เพื่อจะมีอำนาจต่อรอง และเสนอแคนดิเคตนายกรัฐมนตรีได้
อีกพรรคคือพรรครวมไทยสร้างชาติ คาดว่าจะมี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ส.ค.นี้
ล่าสุด เอกณัฎ พร้อมพันธุ์ หรือขิง อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และ ดวงฤทธิ์ เบญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง หรือ ดร๊าฟ อดีตสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้เขียนใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคเป็นที่เรียบร้อย
ว่ากันด้วยพรรครวมไทยสร้างชาตินี้ จะเป็นแหล่งรวมพรรคการเมืองขนาดเล็ก ที่เป็นแนวร่วมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอาไว้ด้วยกัน ดีไม่ดี อาจยุบบางพรรค เพื่อรวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้มีความแข็งแกร่งขึ้นในเวลาไม่นานนับจากนี้
เรื่องที่ 1,296 สงสัยน่าจะเป็นแฟนพันธุ์ของ บก.ชวนคุยสำหรับกระทรวงอุตสาหกรรม เพราะเพิ่งเขียนถึงผลงานอันเงียบสงบเป็นป่าช้าไปเมื่อวันก่อน วันนี้ (1 ส.ค.) ท่านรัฐมนตรีว่ากรกระทรวงอุตสาหกรรม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” จัดให้เลย 2 ประเด็นรวดเต็มๆ เน้นๆ เริ่มต้นจากการเดินหน้าจัดตั้งกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท ตามมติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อกระตุ้นการลงทุนและเพิ่มสภาพคล่องให้เอสเอ็มอี รวมถึงพัฒนาและเพิ่มผลิตภาพให้ 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และอุตสาหกรรมอื่นตามนโยบายรัฐบาล อาทิ BCG Model ยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์และบริการทางการแพทย์
นอกจากนี้ ท่าน “รมว.สุริยะ” ยังออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเพิ่มเติม กรณีผู้ส่งออกของไทยที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ไม่สามารถส่งสินค้าเข้าประเทศปลายทางได้ และจำเป็นต้องนำสินค้ากลับเข้ามาในประเทศ โดยให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ออกมาตรการช่วยเหลือโดยเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ส่งออก ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้
ได้เห็นผลงาน เห็นชื่อท่าน “รมว.สุริยะ” ปรากฏเป็นข่าวบ้างก็ชื่นใจ หายคิดถึง ยังไงก็ขอให้ท่านผลิตผลงานออกมาเรื่อยๆนะขอรับ เดี๋ยวประชาชนเค้าจะลืมไปว่ามี รมว.อุตสาหกรรมชื่อว่าอะไรครับท่าน
เรื่องที่ 1,297 วันเวลาผ่านไปเร็วจัง!! เผลอแป๊บเดียวเข้าเดือน7 (ส.ค.) ต่อเนื่องไปเดือนก.ย. สิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 เริ่มต้นใหม่ ปีงบประมาณ 2566 แต่ก่อนจะถึงช่วงนั้น รู้กันแล้ว หรือยังว่า ตำแหน่งใหญ่ๆ ของกระทรวงการคลังปีนี้ มีใครไปนั่งที่ไหนกันบ้าง ล่าสุด ดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไร แต่ได้ยินว่า “พี่หนุ่ย-ปานทิพย์ ศรีพิมล” ผอ.สคร.มีสิทธิ์ย้ายไปนั่งกรมที่ใหญ่กว่าเดิม ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ไม่ทราบ อยากรู้ต้องคุยกับป๋าดัน “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คลัง
หากเป็นจริงดังนั้น ปีงบประมาณ2566 เรียกว่า ย้ายเล็กไม่แล้ว ต้องเรียกว่า “ย้ายใหญ่” ส่วนจะกระทบใครบ้าง ภาพที่เห็นยังเลือนลาง เห็นหน้าน้องหญิง อายุน้อย อาจย้ายไปกรมธนารักษ์ที่เว้นว่างอยู่ก็เป็นไปได้ ส่วนศุลการักษ์ รุ่น 20 พิจารณาตามเหตุผลแล้ว ได้ขึ้นเป็นอธิบดีอย่างแน่นอน แต่จะเป็นกรมไหน ยังต้องหารือกันอีกหลายรอบกว่าจะลงตัว
แต่ประวัติศาสตร์ ในอดีตกาลทั้งปลัดกระทรวงการคลังหลายท่าน อธิบดีหลายคนรู้จักกับ ”นพวัชร์” ได้ขึ้นเป็นใหญ่ทุกคน ครั้งหนึ่งต้องไปถาม “ปลัดถิด-สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” ร้อยวันพันปีไม่เคยตีกอล์ฟ แต่มีอยู่วันหนึ่งในรอบปีนั้น ที่ต้องจดจำไปตีกอล์ฟอยู่กับใครถึงได้เป็นปลัด เค้าเรียกว่า “ดวงสมพงษ์” หรือดวงดี ไม่ทราบ
อีกคนที่น่าจับตาคือ “พี่ตุ่ย-ธีรัชย์ อัตนวานิช” รองปลัดกระทรวงการคลัง คนนี้ ก็น่าลุ้น แต่จะไปได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ รมว.คลัง เพียงคนเดียวจะกล้าง้าง รมช.คลัง “สันติ พร้อมพัฒน์” หรือไม่ เพราะหลังผ่านพ้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นอกจาก “พี่สันติ” จะโด่งดังเรื่องการเมืองแล้ว ทางด้านเศรษฐกิจถือว่า สอบผ่านเรียบร้อยโรงเรียนจีน เพราะวันที่ 3 ส.ค.นี้ บริษัทวงษ์สยาม จะลงนามสัมปทานน้ำภาคตะวันออกกับกรมธนารักษ์ มูลค่า 25,000 ล้านบาทครับท่าน
โดยนพวัชร์