ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 3-4 ก.ค.2565
การเมืองสัปดาห์นี้จับตา ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา คือ ส.ส.-ส.ว. พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง คาดว่าจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 ก.ค.นี้
เรื่องที่ 1,223 ไฮไลท์อยู่ที่สูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามการปรับแก้ของกรรมาธิการฯ โดย ส.ส.จะมีทั้งสิ้น 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน
การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะหารด้วย 100 ตามจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งจะต้องเฉลี่ย จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมดจากผลคะแนนการเลือกตั้ง แบบบัญชีรายชื่อทั้งประเทศ เพื่อให้ทราบจำนวนคะแนนเฉลี่ย ต่อ ส.ส. 1 คน
สูตรนี้เป็นที่รู้กันว่ามีพรรคการเมืองเดียวที่ได้เปรียบคือพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นพรรคใหญ่ ฐานเสียงแน่น ส่วนพรรคพรรคการเมืองอื่น ไม่ว่าจะเป็น พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ก้าวไกล ล้วนเสียเปรียบได้กันทั้งสิ้น เพราะจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะหดหายไปอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้การเลือกตั้งครั้งใหม่ หลากหลายพรรคจึงหันไปให้ความสนใจกับ ส.ส.เขต ซึ่งหากได้คนที่มีความแข็งแกร่งลง ก็จะการันตีที่นั่งในสภาได้ในระดับหนึ่ง ไม่ต้องไปรอลุ้นว่าจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อมากเท่าใด
นอกจากนี้ที่แน่ๆ สูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อนี้ ยังจะทำให้พรรคเล็กหายไปด้วย เพราะบรรดาพรรคเล็ก แทบจะไม่มีโอกาสได้ ส.ส.แม้แต่คนเดียว
เรื่องที่ 1,224 ระยะหลังไม่ค่อยปรากฏชื่อเป็นบุคคลในข่าวสักเท่าไหร่สำหรับท่านรมว.อุตสาหกรรมอย่าง “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” กลับมาอีกทีคราวนี้กลายเป็นข่าวใหญ่เลย เมื่อท่าน รมว. ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยตามรายงานข่าวคือ ท่านสุริยะมีอาการเพียงเล็กน้อย และเข้าสู่กระบวนการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์เรียบร้อย โดยยืนยันพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปในรูปแบบของการ work from home เฝ้าดูอาการจนกว่าแพทย์จะยืนยันให้ทำงานได้ตามปกติ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ บก.ชวนคุย ถึงประวัติการรับวัคซีนของท่าน รมว.อุตสาหกรรม พบว่า ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 3 เข็ม ประกอบด้วย แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) 2 เข็ม และตามด้วยไฟเซอร์ (Pfizer) อีก 1 เข็มเมื่อเดือนธ.ค. 64 ยังไงก็ต้องขอเป็นกำลังให้ท่าน “สุริยะ” ปลอดภัย และหายป่วยโดยไว เพื่อกลับมาทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มรูปแบบนะครับผม
เรื่องที่ 1,225 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นกับกระทรวงการคลัง เพราะเพียงแค่ประเด็นเดียวก็สะท้านไปธรณี กรณีผู้หญิงสวย วัยสาวหน้าตาคล้ายภรรยาผู้ใหญ่ในกระทรวงการคลังที่รู้จักกันทั่วประเทศ โพสต์ภาพรับของขวัญชิ้นใหญ่กับคนหน้าเหมือนเจ้าของบริษัทขายสินค้าประเภทที่ได้รับยกเว้นภาษี แถมยังมีสำนักข่าวใหญ่ขุดคุ้ยเรื่องราวต่อคือ การโพสต์ภาพอาหารหรู ที่รับประทานอาหาร พร้อมเผยค่าอาหารแต่ละจาน ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้ เกิดขึ้นในคราวเดียวในช่วงเวลาเดียวกันคือ “เทศกาลสงกรานต์” หยุดยาวของประเทศไทยกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ประเด็นนี้ กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้ใหญ่ในกระทรวงการคลังและนอกกระทรวงการคลัง ให้ความสนใจอย่างมาก ส่วนบุคคลที่ “นพวัชร์” กล่าวถึงคือใครและเป็นใคร ไม่อยากจะเอยถึงเพราะทั้งหมดนี้ เกิดจากความคึกคะนอง ของภาพที่เจ้าตัวเอาไปลงแล้วเกิดเป็นดราม่า ในสังคมไทยที่ถูกแบ่งขั้วอย่างชัดเจนระหว่าง “ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่” กับ “ข้าราชการชั้นผู้น้อย” เพราะ “ข้าราชการผู้น้อย” ไม่เคยหรือแม้แต่ที่จะได้รับสิ่งที่ดีๆ เท่ากับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กระแสที่เกิดขึ้นจึงถูกกระพื่อไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
ส่วนผลลัทธ์จะเป็นเช่นใด ไม่ทราบจริงๆ รู้แต่ว่า ณ วันนี้ เวลานี้ ทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบ!!
บทเรียนสอนให้รู้ว่า โลกโซเชียลอันตรายยิ่งนัก!! ไปไหนมาไหน กินไรทำอะไรที่ไหน อยู่อย่างเงียบดีที่สุด.
อีกประเด็นก็น่าสนใจ เรื่องที่ 1,226 ฝากเตือนผู้ปกครอง ผู้ใหญ่อย่าเพิ่งคล้อยตาม “กัญชาเสรี” เพราะแม้ประเทศไทยจะเสรีกัญชา แต่ยังมีอีกหลายร้อยประเทศที่กัญชาคือ ยาเสพติด “ห้ามเสพ ห้ามพกติดตัว” ฉะนั้น โปรดอย่านำติดตัวไปต่างประเทศ ไม่ว่าส่วนไหนของกัญชา รวมถึงอาหารและสิ่งปรุงแต่งที่มาจากกัญชา หลังจากที่มีข่าวใหญ่เด็กถูกจับติดคุกหัวโตที่สหรัฐฯ เพราะพกสารที่มีส่วนผสมของกัญชาเข้าประเทศ ผลมาจากฝีมือของแม่ตัวเองมอบสารดังกล่าวให้กับลูกสุดที่รัก!! เศร้าจริงๆ
โดยนพวัชร์