ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 26-27 มิ.ย.2565

จะฟิตเกินไปแล้ว สำหรับ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม. ใช้เวลาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ลุยงานต่อ ไม่รอใครทั้งนั้น

เรื่องที่ 1,208 เริ่มจากวันเสาร์ที่ผ่านมา ออกสตาร์ทตั้งแต่เวลา 05.26 น. วิ่งจากสวนลุมพินี สำรวจเส้นทางเลียบคลองไปจนถึงแยกลำสาลี รวมระยะทางราว 14 กิโลเมตร เพื่อตรวจติดตามจุดที่มีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ก่อนจะคืนผิวจราจรให้ผู้ใช้รถใช้ถนนในบางส่วน
ต่อมาวันอาทิตย์ ออกตัวในเวลา 05.00 น. วิ่งในกิจกรรมโครงการหนองแขมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพดีวิถีชีวิตใหม่ ต้านภัยโควิด ก่อนนำคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครปลูกต้น”จำปีหนองแขม” ณ สวนพุทธรักษ์ ซอยเพชรเกษม 77 เขตหนองแขม โดยจำปีหนองแขมเป็นต้นไม้ GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications หรือ GI)) ว่าเป็นต้นไม้ประจำถิ่นของเขตหนองแขม

งานนี้ “ชัชชาติ” ยังได้โชว์การชู้ตบาส และเล่นแบดมินตันด้วย เรียกว่าวันเดียวได้ทั้ง วิ่ง ชู้ตบาส เล่นแบดมินตัน และปลูกต้นไม้
แข็งแกร่งขนาดนี้ทำให้สื่ออดสงสัยไม่ได้ว่า พร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับรีบปัดว่า ไม่ได้เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานเช่นนั้น เพราะขอทำหน้าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพฯให้ดีก่อน
“ตอนนี้เอาผู้ว่าฯให้ดีก่อน ผู้ว่าฯยังไม่รอดเลย โฟกัสตรงนี้ อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องอื่น ผู้ว่าฯ เป็นระดับท้องถิ่นไม่ได้เป็นระดับใหญ่ทำตรงนี้ให้ดีก่อน” ชัชชาติ กล่าว

เรื่องที่ 1,209 ดูเหมือนว่ากองไฟที่ “กรณ์ จาติกวณิช” หัวหน้าพรรคกล้า และอดีต รมว.คลัง พยายามกระพือให้แรงเกี่ยวกับเรื่องของค่าการกลั่น ที่ระบุว่าโรงกลั่นมีกำไรเพิ่มสูงขึ้น 10 เท่า จะเริ่มถูกคลี่ปมออกมาทีละน้อยจากผู้ที่คว่ำหวอดในวงการ จนเวลานี้หากจะกล่าวโดยไม่เข้าข้างใครเลย คนที่ดูจะมีความรู้น้อยที่สุด หรือแสร้งทำเป็นรู้น้อยน่าจะเป็นท่านหัวหน้าพรรคกล้าอย่าง “กรณ์” เพราะในเวลานี้ผู้ประกอบการโรงกลั่น และกูรูทางด้านพลังงานต่างก็ออกมาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าค้่าการกลั่นไม่ใช่กำไรสุทธิ และต้องไม่ใช่คิดแค่น้ำมันชนิดเดียว เนื่องจากน้ำมันดิบ 1 ลิตร สามารถกลั่นออกมาเป็นน้ำมันได้หลายชนิด ส่วนค่าการกลั่นที่สูง 10 เท่า “กรณ์” เองก็เอาข้อมูลย้อนหลังมาเปรียบเทียบแค่ 2 ปี และที่สำคัญเป็นช่วงที่โควิดระบาด ไม่มีความต้องใช้น้ำมัน แต่กลับเอามาเทียบกับช่วงที่เกิดวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้น้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงลิ่วอีก

ขณะที่เรื่องของการเก็บภาษีลาภลอย (Windfall tax) ที่เสนอให้รัฐเก็บจากโรงกลั่น จากผลกำไรในระดับสูง ก็เหมือนจะมีเส้นบาง ๆ ของความเข้าใจผิด หรือความไม่รู้ผสมกัน เพราะหากจะกล่าวถึงภาษีลาภลอยตามคำนิยามง่ายๆ ก็คือ ผลกำไรพลอยได้ทีได้มาโดยไม่ต้องลงทุน เช่น รถไฟฟ้า สนามบิน ถนน ฯลฯ ทำให้ที่ดินในบริเวณใกล้เคียงโครงการมีราคาสูงขึ้นมากเป็นพิเศษ เจ้าของที่ดินเหล่านั้นร่ำรวยมั่งคั่งขึ้น โดยไม่ได้ลงทุนเอง แต่สำหรับค่าการกลั่น หากมองในมุมของความเป็นจริงตามที่ “บวร วงศ์สินอุดม” ประธานกรรมการ บมจ. พริมามรีน กล่าวบนเวทีเสวนา “ความจริง…ค่าการกลั่น” ที่บอกว่า ค่าการกลั่นไม่ได้กำไรตลอดเวลา แต่มีช่วงเวลาที่ขาดทุนด้วย ต่อให้พลิกมอง ตะแคงมองมุมไหนก็ไม่เข้าข่ายของภาษีลาภลอย แล้วจะไปเรียกเก็บได้อย่างไร ยิ่งฟังข้อมูลมากขึ้น ก็ยิ่งเห็นเกมส์การเมืองที่พยายามเรียกคะแนนแบบไม่สนใจว่าจะถูกหรือไม่ ถ้ามีความคิดที่ดี น่าจะสร้างสรรค์เชิงช่วยกันแก้ปัญหามากกว่านะครับผม ประชาชนจะได้ประโยชน์มากกว่า

เรื่องที่ 1,210 เสือปืนไวแห่งกระทรวงการคลัง หาใช่ใครที่ไหน กระแสตอบรับดีที่สุด หนีไม่พ้น “ฉัตรชัย ศิริไล” กรรมการผู้จัดการ ธอส. ล่าสุดชุมชน “บ่อนไก่” ไฟไหม้ หลังจากผู้ว่า “ชัชชาติ” ลงพื้นที่เสร็จ ไม่นานเกินรอ ธอส.นำด้วย “ฉัตรชัย” ก็ลงพื้นที่บ้าง แบบว่า เดินลุยสลัม ช่วยชาวบ้านสุดๆ ขนาดกรมศุลกากรหน่วยงานที่อยู่ใกล้ๆ ยังช้ากว่า “ฉัตรชัย” ไปหนึ่งก้าว ส่วนธนาคารออมสินตอนนี้ กำลังอยู่ช่วงเรียกขวัญ-กำลังใจ หลังจาก “โบนัส” หรือเงินรางวัลประจำปี ออกมาน้อยไปนิดเพียง 3 เดือนกว่า ถูกลดระดับไปอยู่ Division2 ของกลุ่มแบงก์รัฐ แต่เชื่อในฝีมือ “เต๋-วิทัย รัตนากร” ผอ.ออมสิน (อธส.) ปีหน้าทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมครับ ถ้าไม่ได้ดังนี้ งดโครงการ ”สื่อมวลชนสัญจร” อีกสักปี
เรื่องที่ 1,211 ใครอยากทำงานเมืองนอก เรื่องนี้ “เงี่ยหูฟัง” และ “ชูคอ” นิดหนึ่ง เพราะได้ข่าวว่า ข้าราชการกระทรวงการคลังหน่วยงานไหน (ไม่บอก) แต่ไม่ใช่กรมสรรพากร (555!!!) กรมบัญชีกลาง กรมธนารักษ์ กรมสรรพสามิต บ่นอยากกลับเมืองไทย หลังจากโกยเงิน-โกยทองอยู่เมืองนอกนับสิบปี ได้ซี 9 ทั่วหน้าแล้ว และ “เบื่อ” ใช้ชีวิตต่างประเทศ มีคิวเปลี่ยนผู้แทนอยู่หลายประเทศนะจะบอกให้!! ใครที่พอเส้นสายช่วงนี้ คึกคักกันน่าดู!!
โดยนพวัชร์