ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 13-14 มิ.ย.2565
นโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย สำเร็จแล้ว หลังการปลดล็อกกัญชามีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ครอบครอง จำหน่าย เสพ ฯลฯ ไม่มีความผิดอีกต่อไป
เรื่องที่ 1,172 เชื่อว่าการปลดล็อกกัญชาได้สำเร็จ จะส่งผลให้คะแนนความนิยมหรือกระแสของพรรคภูมิใจไทย ดีขึ้นเท่าทวี เพราะเป็นนโยบายที่เข้าถึงประชาชนหลากหลายกลุ่ม ทั้งยังสามารถกระตุ้นระบบเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
กระนั้น สิ่งที่น่ากังวล คือ การปลดล็อกกัญชาเสรีมีผลบังคับใช้ก่อนที่กฎหมายการควบคุมกัญชาจะออกมาอีก โดยร่าง พ.ร.บ.การใช้ประโยชน์จากกัญชากัญชง เริ่มผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ในวาระ 1 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นั่นหมายความว่าเวลานี้ อยู่ในช่วงของการเปิดเสรีเต็มรูปแบบ ไร้การควบคุม เช่นว่า เด็กยังสามารถเข้าถึงกัญชาได้
จึงทำให้หลายคนอดห่วงไม่ได้ว่า การปลดล็อกโดยไม่มีมาตรการรับรอง จะส่งผลเสียหลายด้านตามมา
เรื่องที่ 1,173 ทุกข์ระทม ระบมหัวใจกันไม่หยุดหย่อนสำหรับชีวิตคนไทยในยุคนี้ เพราะมีเรื่องให้ต้องสะเทือนเงินในกระเป๋ากันได้ตลอด ล่าสุดก็เป็นไปตามคาดสำหรับการปรับขึ้นราคาจำหน่ายน้ำมันดีเซลในประเทศขึ้นอีก 1 บาท โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ทำให้ในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) ราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ที่ราคา 34.94 บาทต่อลิตร หรือตีเป็นตัวเลขกลม ๆ ก็ 35 บาท ซึ่งก็คงไม่ได้เหนือความคาดหมายของใครหลายคน และ บก.ชวนคุยเองก็เคยบอกไปแล้วว่าการประชุมรอบนี้จะปรับขึ้นอีกแน่นอน
อย่างไรก็ดี แม้จะทำใจยอมรับไว้ตั้งแต่แรกแต่เงินในกระเป๋าประชาชนคงไม่ได้ทำใจตามไปด้วย เพราะไม่ได้มีการปรับขึ้นให้ตามราคาน้ำมัน เพราะฉะนั้น ก็ได้แต่นั่งรอความหวังจากรัฐบาล ซึ่งแว่ว ๆ ว่าจะพยายามหาแนวทางลดค่าการกลั่นที่ปัจจุบันโรงกลั่นฟาดกำไรกันไปอื้อซ่า แม้ว่าจะมีข้อกฎหมายที่ค้ำคออยู่ โดยที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม หรือ “ลุงตู่” ใช้คำว่าจะขอความร่วมมือ ซึ่งถ้าเราพิจารณากันตามความเป็นจริง “ลุง” ก็น่าจะพอขอความร่วมมือแกมบังคับ หรือสั่งให้ลดค่าการกลั่นลงได้ใช่ไหมขอรับ เพราะอย่างที่ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าโรงกลั่นกว่า 70% ในประเทศนี้มี บมจ. ปตท. จำกัด เป็นเจ้าของ และ ปตท. มีสถานะองค์กรเป็นอะไร บก.ชวนคุยคงไม่ต้องบอกให้ฟัง ทุกคนก็คงจะพอรู้กันแหละครับ
เรื่องที่ 1,174 ถามได้ตอบได้ต้องคนนี้เลย รมว.คลัง “อมคม เติมพิทยาไพสิฐ” เพราะเมื่อวันก่อน 10-11-12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ร่วมคณะสื่อมวลสายคลัง ไปเปิดสำนักงาน ณ นครโฮจิมินห์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซ์ซิมแบงก์ ทุกอย่างดูดีหมด ถึงขั้นต้องมอบเหรียญทองให้ นายรักษ์ วรกิจโภคาทร เอ็มดีหนุ่มแล้วเธอ
แต่ถึงช่วงจังหวะ ถามตอบ สัมภาษณ์ถึงประเด็นเศรษฐกิจ นึกว่า รมว.คลัง จะบ่ายหน้าหนี้ แต่เอาเข้าจริง รมว. “อาคม” ตอบได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่เศรษฐกิจจนถึงครอบครัว ไม่มีคำว่า “ท้อ” พูดคุยเหมือน ไม่ใช่ รมว.คลัง
พอถึงบรรยากาศงานเลี้ยง ยิ่งสนุกใหญ่ หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตราการโควิด งานเลี้ยงที่จัดขึ้นต้อนรับสื่อมวลชน รมว.คลัง ให้การต้อนรับเสมือนเพื่อนรู้จักกันมานานทำให้งานเลี้ยงสนุกสนาน!! เฮฮา คึกคักถึงตี 1 ก็ยังไม่เลิก
แต่ที่เด็ดไปกว่านั้น เมื่อนักข่าวขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทย พนักงานต้อนรับกล่าวขอบคุณผู้โดยสาร หาใช่ใครที่ไหน รวม.คลัง ยืนขอบคุณนักข่าวที่มาร่วมงานตั้งแต่คนแรก จนถึงคนสุดท้าย ไม่มีคำว่า “วีไอพี” ทำให้ รมว. คลัง “คุณพี่อาคม” นอกจากจะนั่งอยู่ในใจของนักข่าวกระทรวงการคลังแล้ว ยังถูกจัดเป็นเป็น รมว.คลัง ที่สนุก และเป็นกันเอง อันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์คลังอีกด้วย
โดยนพวัชร์