ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 18-19 พ.ค.2565
“แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประกาศเชิญชวนเสื้อแดงกลับบ้าน เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายร่วมกัน คือการชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ หรือถล่มทลาย”
เรื่องที่ 1,108 การเดินเกมครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางจับตามองจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทย โดยพยายามโยงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ว่าเป็นความพยายามปลุกชนวนความขัดแย้งขึ้นมาใหม่
ขณะที่ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย คือการระดมสรรพกำลัง เพื่อสู้ในศึกการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ซึ่งนอกจากจะมีพรรคการเมืองคู่แข่งอย่างพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยแล้ว ยังต้องสู้กับ ส.ว.อีก 250 คน ที่พร้อมยกมือโหวตให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ได้รับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
ที่สำคัญไม่ใช่แค่ฝ่ายตรงข้าม แต่พรรคที่มีอุดมการณ์คล้ายกันอย่างพรรคก้าวไกล ก็ถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของพรรคเพื่อไทยด้วย
นั่นเพราะพรรคก้าวไกลเอง ก็มีความพยายามชิงมวลชนเสื้อแดง ให้มาเป็นฐานเสียง ไม่ต่างกับพรรคพรรคเพื่อไทยเลย
เรื่องที่ 1,109 ข่าวดีเล็กๆ สำหรับชาวดีเซลวันนี้ (18 พ.ค.) คือ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 32 บาทต่อลิตรออกไปอีก 1 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 22 พ.ค.นี้ หลังจากนั้นจะประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและดีเซลตลาดโลก เพื่อประเมินแนวทางการกำหนดราคาในประเทศอีกครั้ง โดยคำถามสำคัญมากไปกว่าการตรึงราคาน้ำมันดีเซลเอาไว้เท่าสัปดาห์ก่อนก็คือ ในเมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติลดอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลไปตั้ง 5 บาทเป็นเวลา 2 เดือนจนถึงวันที่ 20 ก.ค. เหตุไฉน กบน.ถึงไม่ลดราคาดีเซลลงมา
คำถามนี้พระเอกของงานที่ฉายเดี่ยวตอบคำถามได้หมดทุกประเด็นอย่าง “พี่กบ-กุลิศ สมบัติศิริ” ปลัดกระทรวงพลังงาน ไขข้อสงสัยอย่างชัดเจนว่า ต้องการเก็บเงินเอาไว้ เพื่อทำให้การตรึงราคาน้ำมันเป็นไปตามกรอบที่วางเอาไว้ที่ 35 บาทต่อลิตรได้เป็นระยะเวลานาน พร้อมอธิบายชัดเจนว่า การลดภาษี 5 บาท/ลิตร เป็นส่วนของเนื้อดีเซล B0 ที่เดิมมีการเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตที่ 6.44 บาท/ลิตร และเมื่อลดลง 5 บาท จะเหลือเรียกเก็บภาษี 1.44 บาท/ลิตร แต่ปัจจุบันประเทศไทยใช้น้ำมันดีเซลแบบผสมที่ 7% หรือ B7 ที่เรียกเก็บภาษีอยู่ที่ 5.99 บาทต่อลิตร และเมื่อนำภาษีจากเนื้อดีเซลมาผสมจะส่งผลให้มีการลดราคาภาษีเหลืออยู่ที่ 4.65 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้คงเหลือเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตกับน้ำมัน B7 อยู่ที่ 1.34 บาทต่อลิตร เรียกว่า “พี่กบ” ทำการบ้านมาดี เล่นเอาซะหมดคำถามเลยครับผม
เรื่องที่ 1,110 แต่ที่เรื่องที่น่าเศร้า และน่าเสียใจมากที่สุดคือ ข่าวนี้ครับท่าน ปตท.และบางจาก ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด ขึ้น 1.00 บาทต่อลิตร เว้น E85 ปรับขึ้น 0.60 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิดคงเดิม มีผล 19 พ.ค.65 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้
ULG = 50.36, GSH95 = 42.95, E20 = 41.84, GSH91 = 42.68, E85 = 35.84, HSD- B7= 31.94, HSD-B10 = 31.94, HSD-B20=31.94, ดีเซลพรีเมี่ยม B7 = 40.36 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะ E95 เมื่อรวมกับภาษีต่างๆ แล้ว ราคาจะก้าวกระโดดทะลุลิตร 43 บาทอย่างแน่นอน
ในอนาคตอันใกล้นี้ หากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังไม่มีความชัดเจน เห็นที่คราวนี้ ไม่ใช่กรุงแตก แต่เป็นเงินในกระเป๋าฉีก เติมน้ำมัน 2 ลิตร 100 บาทอย่างแน่นอน
เรื่องที่ 1,111 ในที่สุด กระทรวงการคลังก็มีห้องน้ำสำหรับคนพิการ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ใกล้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ 100% ตั้งอยู่ชั้น 1 หน้าลิฟต์ ฝั่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หลังจากขุนคลัง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” มีดำริว่า กระทรวงการคลังไม่มีห้องน้ำสำหรับคนพิการ และห้องน้ำชั้นล่างที่ใช้อยู่ในปัจจุบันทั้ง 2 ฝั่ง ก็ไม่สะอาด ล่าสุดสะอาดดีขึ้นให้คะแนนสูงสุด 7 ไม่เต็ม 10 คำถามจึงมีอยู่ว่า ทำไม รมว.คลัง ถึงลงมาสั่งการเรื่องนี้ ด้วยตนเอง เหตุข้อแรกและสำคัญที่สุดคือ “บริการประชาชน” เจ็บจี๊ด!!
และข้อที่ 2 กระทรวงการคลังเป็นกระทรวงใหญ่มีประชุมวันละหลายรอบ คนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมนับร้อยคน หากห้องน้ำไม่สะอาด บรรยากาศการในห้องประชุมคงไม่โสภาอย่างแน่นอน
เรื่องที่ 1,112 พรุ่งนี้ (19 พ.ค.) เวลา 09.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะเป็นประธานการประชุมเสวนา “ถามมา – ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” และกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อดีต ปัจจุบัน อนาคต ของประเทศไทยที่ดีขึ้นกว่าเดิม” ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะแสดงวิสัยทัศน์ ข้อเสนอแนะ และทิศทางการปรับตัวรับมือเพื่อวางรากฐานรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ในอนาคตให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะต่อไป
หลังจากนั้น จะมีงานเสวนา“ถามมา – ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” ระหว่างวันที่ 19 – 20 พ.ค.2565 ณ รอยัล พารากอน ฮอล์ สยามพารากอน อยากรู้จริงๆ ว่า จะมีใครไปงานนี้บ้าง ตอบอยากจริงๆ แต่ที่แน่นๆ ชัวร์ๆ รัฐมนตรีทุกคน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจทั้งหมด ไม่พลาดอย่างแน่นอน
โดย นพวัชร์