ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 14-15 มี.ค.2565
“ข่าวจริง หรือมั่วนิ่ม กรณีสื่อยักษ์ใหญ่ของชาติตะวันตก ทั้งซีเอ็นเอ็นและบีบีซี อ้างแหล่งข่าวรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุรัฐบาลจีนจะได้รับผลกระทบรุนแรงตามมา ถ้ารัฐบาลจีนสนับสนุนยุทโธปกรณ์ใดๆ แก่รัสเซียใช้ภารกิจบุยูเครน”
เรื่องที่ 908 โดยซีเอ็นเอ็นอ้างการสัมภาษณ์ “นายเจค ซัลลิแวน” ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ระบุจีนกับรัสเซียมีการติดต่อกันโดยตรงและรัสเซียร้องขอความช่วยเหลือจากจีนด้านยุทโธปกรณ์หลายอย่างรวมถึงโดรนใช้ในภารกิจบุกยูเครน ซึ่งยังไม่รู้ชัดว่า จีนแสดงท่าทีตอบรับคำร้องขอจากรัสเซียหรือไม่อย่างไร
ขณะที่ สถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงวอชิงตัน ดีซี แถลงว่า รัฐบาลจีนยังไม่รับรู้รับทราบเรื่องรัสเซียร้องขอความช่วยเหลือด้านยุทโธปกรณ์จากจีน เพราะสิ่งสำคัญอันดันแรกที่ต้องดำเนินการคือ ป้องกันสถานการณ์ยูเครนไม่ให้ลุกลามบานปลายมากไปกว่าที่เป็นอยู่และไปถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้
แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตก เปิดหน้าชกอย่างชัดเจนในการสนับสนุนทั้งด้านการเงินและอาวุธแก่ยูเครน เพื่อใช้สู้รบต่อต้านการบุกรุกจากรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนและรัฐบาลจีน เรียกภารกิจของรัสเซีย คือ “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” – Special military operation ไม่ใช่ “การบุกรุกราน” – Invasion และรัสเซียมีสิทธิชอบธรรมแสดงท่าทีห่วงกังวลต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคงของตัวเอง
เลขสวยๆ เรื่องที่ 909 การเมืองในประเทศ กำลังถลำลึกเข้าสู่ประเด็น “ห้ามกระพริบตา” เมื่อ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาวคนเล็กของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มีโอากาสได้ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย”
“นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามของสื่อมวลชนว่า “อุ๊งอิ๊ง” จะมีโอกาสขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าเห็นอย่างไร ถ้าประชาชนมีเสียงตอบรับที่ดี มีเสียงสนับสนุนก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด อยู่ที่พี่น้องประชาชน
นั่นหมายความว่า เส้นทางนี้เปิดกว้างสำหรับอุ๊งอิ๊ง
และหาก “อุ๊งอิ๊ง” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยจริง ก็จะเท่ากับว่า ผู้เป็นพ่อมีความมั่นใจมากว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแบบถล่มถลาย หรือแลนด์สไลด์ และ “อุ๊งอิ๊ง” ก็จะได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
ซึ่งเมื่อพรรคเพื่อไทยชนะแบบแลนด์สไลด์ และอุ๊งอิ๊ง ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ก็มีโอกาสได้กลับประเทศไทย เหมือนกับที่ประเทศซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า จะกลับแน่ภายในปีนี้
เรื่องที่ 910 เรียกว่ายิ่งใกล้หมดวาระยิ่งแซ่บสำหรับท่านประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) “สุพันธุ์ มงคลสุธี” ล่าสุดได้พบเจอปะหน้ากันในงาน ส.อ.ท.ร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. (PEA) เพื่อนำร่องการใช้พลังงานสะอาดผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกในการแก้ปัญหากติกาโลกใหม่ (NTB) หลังจบพิธี พุดคุยกันตามประสาคนคุ้นเคยถึงเรื่องค่าครองชีพที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในยุคสมัยที่อะไรๆ ก็ดูจะแพงไปเสียหมด และประชาชนจะอยู่รอดหรือไม่ “สุพันธุ์” ตอบทันทีทุกวันนี้อยู่ได้อยู่อย่างเดียวคือรัฐบาล ส่วนประโยคหลังจากนั้นขอ “บลาๆๆๆ” เอาไว้แล้วกันนะขอรับ เชื่อว่าคงพอเดาทิศทางกันได้ว่าจะเป็นแบบไหน
เรื่องที่ 911 รอกันมานานสำหรับข่าวดีของผู้ใช้นำมันเบนซิน เพราะวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.) ทั้ง บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ (OR) และ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ รวม E20 และ E85 40 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งถือว่าเป็นการปรับลดครั้งที่ 2 ของปีนี้เท่านั้น นอกนั้นปรับขึ้นโลดไปกว่า 18 ครั้ง แต่ดูแล้วคงเรียกข่าวดีได้ไม่เต็มปาก หรือดีใจก็คงไม่สุด เพราะเวลาปรับขึ้นที่หนึ่งโหดเหลือเกินครั้งละ 1 บาทบ้าง 80 สตางค์บ้าง แต่เวลาปรับลดกลับลงแค่ 40 สตางค์เท่านั้น บ่นไปก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะเดือดร้อนกันมานานก็ดูไม่เห็นจะได้รับความสนใจสั่งเท่าไหร่ครับผม
โดยนพวัชร์