ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 10-11 ม.ค.2564
“ชาวเน็ต ทวงสัญญาประชารัฐ!! ในขณะที่ “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี สั่งให้ตรวจสอบนโยบายหาเสียงของพรรคไทยสร้างไทย บำนาญประชาชน 3,000 บาท ว่าเข้าข่ายขัด พ.ร.บ.พรรคการเมืองหรือไม่นั้น ก็เป็นเวลาเดียวกับที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมาก ได้แชร์โพสต์จากเพจเฟซบุ๊กของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยเป็นโพสต์ภาพนโยบายหาเสียง เมื่อปี 2562 ที่ประกาศว่า ปี 2565 รถเมล์ร้อน ต้องสูญพันธุ์ พร้อมระบุว่า ประเทศไทยเมืองร้อน และร้อนขึ้นทุกวัน แล้วทำไมเรายังต้องใช้รถเมล์ร้อนต่อไป”
เรื่องที่ 686 โดยชาวโซเชียลได้ทวงถามคำสัญญาหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศเมื่อวันที่ 13 ก.พ.2562 ว่า พปชร.เล็งกำจัดรถเมล์ร้อนภายในปี 2565 เปิดใช้รถเมล์รุ่นใหม่ และรถยนต์ขนส่งสาธารณะพลังงานไฟฟ้า EV หนึ่งในนโยบายสีเขียวเพื่อคนกรุงเทพ พร้อมระบุว่า “เลือกเราไม่ร้อนแน่”
อันที่จริงผู้เขียนและสื่อมวลชนส่วนมาก ก็จำไม่ได้แล้วว่า พรรค พปชร.เคยมีนโยบายนี้ด้วย เพราะโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่คนถามหาส่วนใหญ่ มักจะเป็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท , จบ ป.ตรี เงินเดือน 2 หมื่น อาชีวะ 1.8 หมื่น ฯลฯ
นั่นหมายความว่า ถ้าสังคมออนไลน์ไม่ขุดนโยบายหาเสียงโล๊ะทิ้งรถเมล์ร้อนของพลังประชารัฐขึ้นมา ก็แทบจะไม่มีใครจำได้เลยว่าเคยมีนโยบายนี้อยู่ด้วย
ดังนั้น ในขณะที่ “บิ๊กตู่” สั่งตรวจนโยบายของพรรคอื่น ที่จะเป็นคู่แข่งของตนเองในอนาคต ชาวสังคมออนไลน์ ก็ได้ตรวจ สอบนโยบายของพรรค พปชร.อยู่เหมือนกัน!! งานนี้ ไม่ฮา 555 เพราะขำไม่ออก 555
เรื่องที่ 687 นี่คืออีกหนึ่งองค์กรภาคเอกชนที่ต้องชื่นชมในยุคที่ประเทศไทยต้องเผชิญปัญหากับการระบาดของโควิด-19 สำหรับบริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ บีไอจี ซึ่งถือว่าเป็นผู้ผลิตออกซิเจนรายใหญ่ของประเทศไทย กับ บิ๊กบอสผู้เกาะติดสถานการณ์โควิดแบบใกล้ชิดอย่าง “ปิยบุตร จารุเพ็ญ” เพราะไม่ว่าโควิดจะกลายพันธุ์ไปแล้ว พันธุ์เล่า ทางบีไอจีก็จะวางแผนการเตรียมความพร้อมสำหรับออกซิเจนทางการแพทย์เพื่อรองรับระบบสาธารณสุขไทยอย่างเนื่องและเพียงพอ จนมาถึงสายพันธุ์ตัวร้าย ตัวแรงอย่างโอมิครอน ทำให้ทีมแพทย์และประชาชนอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งเมื่อภัยมาถึง บก.ชวนคุยต้องขอคาราวะจากใจจริงขอรับท่าน
เรื่องที่ 688 อั้นไม่หยุดฉุดไม่อยู่เสียแล้วสำหรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ เมื่อบมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ (OR) และ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ และดีเซลทุกชนิดอีก 40 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น E85 ปรับขึ้น 20 สตางค์ต่อลิตร หลังปีใหม่มานี้ขึ้นโลดไม่มีเบรค เหลือบตามองไปที่น้ำมันดีเซลที่เป็นประเด็นปัญหาพรุ่งนี้ฤกษ์ดีตี 5 ก็จะมีราคาเกือบ 30 บาทต่อลิตรตามที่รัฐบาลพยายามจะตรึงราคาเอาไว้ ขาดอีกเพียง 14 สตางค์เท่านั้น งานนี้ “รองพงษ์-สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน และทีม งานคงได้แต่กุมขมับ กับกลุ่มรถบรรทุกบุกอีกแน่ โถ!! ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ช่างไม่เป็นใจให้ท่านเอาเสียเลย ช่วงปีใหม่อุตส่าห์เดินทางขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนไม่ได้ประชุมทีมเศรษฐกิจ ไม่รู้ว่าแบบนี้จะได้รับฉายามหาเฉื่อย 4D อีกสมัยไหมนะ
เรื่องที่ 689 ขอแสดงความยินดีกับข้าราชการศุลกากร หลังปลัดคลัง “พี่ตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ลงนามย้ายข้าราชการรอบเดียว 29 คน เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา จำกันไม่หมด ขอเอาตำแหน่งที่สำคัญๆ ก็แล้วกันครับ “ด.พร้อม _ ภาค2 นด.พงษ์ศักดิ์ _ มุก นด.ปู _ สทก นด.วุฒ _ หนองคาย นด.กุ้ง _ กบท นด.นิโรธ _ สสภ ผอ.ถวัลย์ _ กสป ผอ.สุรเดช _ สทบ ผอ.วรพัฒน์ _ สสล นด.ธงชัย มณีชาติ _ สผภ นด.คณิต _ สะเดา”
คนสำคัญที่สุด โปรดจำชื่อ “ถวัลย์ รอดจิตต์, วุฒิ เร่งประดุงทอง และปิติณัช ศรีธารา” กำลังสำคัญของอธิบดีกรมศุลกากรในอนาคต
เรื่องที่ 690 ของขวัญปีใหม่ ปีนี้ ไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว ขอเพียงแค่หมูราคาต่ำกว่า 220-250 บาทต่อกิโลกรัม ขอไข่ไก่ เบอร์3 ราคาถูกลงเหลือฟองละไม่เกิน 3 บาท ขอให้ราคาน้ำมัน เบนซินไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรและดีเซล ไม่เกิน 28 บาทต่อลิตร ค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้มไม่ขึ้นราคา ขอราคาลอตเตอรี่ 80 บาท และขอ… สาธุ!!
โดยนพวัชร์