ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่28 -29ธ.ค. 2564
“สื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลให้ฉายารัฐบาลประจำปี 2564 นี้ว่า “ยื้อยุทธ์” โดยสะท้อนว่า ภาพของรัฐบาล ที่ยื้อแย่งกันเองทั้งในส่วนของอำนาจ และตำแหน่ง โดยไม่สนใจประชาชน และการเดินหน้าประเทศ ถูกมองว่า เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม และมองการดำรงอยู่ของ “พล.อ.ประยุทธ์” ในฐานะผู้นำรัฐบาล จะเป็นประโยชน์มากกว่า จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อยื้อให้ “พล.อ.ประยุทธ์” อยู่ต่อไป ไม่ว่าจะมีการชุมนุมขับไล่ไสส่งอย่างไร ใครไม่อยู่ แต่ “พล.อ.ประยุทธ์” อยู่”
เรื่องที่ 647 สอดคล้องกับฉายาของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ได้ที่รับฉายาในปีนี้ว่า “ชำรุดยุทธ์โทรม” สื่อมวลชนขยายความว่า การบริหารราชการแผ่นดินตลอดทั้งปีที่ผ่านมา “พล.อ.ประยุทธ์” ถือได้ว่า เป็นผู้ที่รับบทหนักที่สุดแห่งปี ถูกมองว่าล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาโควิด-19 การกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริหารราชการ หรือแม้แต่เรื่องทางการเมือง ถูกโจม ตีรอบด้าน แม้ “พล.อ.ประยุทธ์” จะยังอยู่ในตำแหน่งได้ แต่ก็ทรุดโทรม เสื่อมสภาพไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจทั้งฉายาของรัฐบาล และฉายาของ “พล.อ.ประยุทธ์” ทำให้เห็นภาพรวมที่สื่อมวลชนและประชาชนมองไปยังรัฐบาลได้เป็นอย่างดี ที่แม้ว่ารัฐบาลจะบริหารด้วยความยากลำบาก หลายเรื่องไม่ประสบความสำเร็จ และเอียงไปทางความล้มเหลว แต่ทุกองคาพยพต่างพยายามยื้อให้ “พล.อ.ประยุทธ์” อยู่เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
ทั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน หากแต่เป็น ผลประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด นั่นคือการสะท้อนภาพความตกต่ำของการเมืองไทย ที่นักการเมืองต่างเข้ามาเพื่อแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ มากกว่าการยึดอุดมการณ์ และความต้องการของประชาชน
เรื่องที่ 648 มี ปตท. อยู่อย่างน้อยก็อุ่นใจได้ในความพยายามดูแลราคาก๊าซธรรมชาติ และ LNG เพราะถึงแม้เวลานี้สถาน การณ์ราคา Asian Spot LNG ในช่วงปลายปี 64 จนถึงต้นปี 65 ยังอยู่ระดับที่สูงมาก จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในภูมิ ภาคยุโรป รวมถึงข้อกังวลของการหยุดส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ทำให้ความต้องการใช้ LNG และน้ำมันโดยรวมสูงขึ้น โดยเวลานี้ราคา Asian Spot LNG สำหรับเที่ยวเรือที่ส่งมอบในเดือนม.ค.-ก.พ.2565 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40–50 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู แต่ด้วย ปตท. วางแผนมาดี “อธิคม เติบศิริ” ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ ปตท. ระบุว่า ปตท.ได้ทำสัญญาซื้อขาย LNG ระยะยาวอยู่ที่ 5.2 ล้านตันต่อปี ที่จะสามารถส่งมอบให้ประเทศไทยได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคา Spot LNG ทำให้ราคาเฉลี่ย LNG ที่จัดหาเข้ามาอยู่ที่ประมาณ 18-20 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ต่ำกว่าตลาดโลกเกินครึ่ง ทำดีก็ต้องชื่นชมแหละเนอะ
เรื่องที่ 649 “โอมิครอน” ตัวร้ายยังส่งผกระทบไปไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการบิน ล่าสุดเมื่อไปดูสถานการณ์ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศรอบ 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ของปีนี้ พบว่าการแพร่ระบาดของไวรัสร้ายดังกล่าวได้ทำให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กำหนดให้ผู้โดยสารที่บินเข้าประเทศไทยจาก 8 ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.2564 ต้องเข้ากระบวนการกักตัว 14 วัน และตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2564 ห้ามผู้โดยสารดังกล่าวเข้าประเทศไทย (มีผล 28 พ.ย.2564) และนั่นก็เป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้ยอดการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.48 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39.9% จากการเปิดเผยของ “นันธิกา ทังสุพานิช” อธิบดีกรมธุรกิจพลัง งาน ก็ไม่รู้ว่าจะมีธุรกิจไหนที่ไม่ได้รับผลกระทบบ้าง ได้แต่ภาวะนาให้โควิด-19 ทุกสายพันธุ์ถูกลบหายไปจากโลกของเราไวๆ
เรื่องที่ 650 พบแล้วข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลัง ติดโควิด-19 อีกหนึ่งคนชื่อ “ดร.แก๊ก-วินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ” รองอธิบดีกรมสรรพากร แต่รายงานข่าวไม่ได้แจ้งว่า ติดโควิด-19 จาก “ดร.เอก-เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” อธิดีกรมสรรพา กรหรือไม่ ทราบว่า “ดร.แก๊ก” ประชุมร่วมกับอธิบดีอยู่บ่อยๆ ถ้าติดโควิดจริง กรมสรรพากรก็คัสเตอร์ใหญ่อย่างแน่นอน ส่วนที่กระทรวงการคลัง “ปลัด” สั่งด่วนให้ข้าราชการที่จะมาทำงานวันที่ 4 ม.ค.2565 วันแรกของปี2565 ตรวจ ATK ก่อนเข้ากระทรวงการคลัง กำชับอย่างหนักแน่ เพื่อความปลอดภัยของทุกๆ คน
เรื่องที่ 651 รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมออกมายื่นยันแล้ว ยังไง!! ประเทศไทยก็มีปิดเมือง ไม่ปิดกรุงเทพฯ เพราะท้ายที่สุด คนไทยต้องรอด รอดทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ และชีวิตรอด ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถฟันฝ่าโควิด-19 ไปได้ หลังจากที่ไทยปิดเมืองปิดประเทศไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เศรษฐกิจเสียหายพังยับเยิน ปี2563 จีดีพีติดลบ 6.1 มาถึงปี2564 (ปีนี้) จีดีพีขยายตัว 1% ปีหน้า2565 กนง.ปรับลดจีดีพีจาก 3.9% เหลือ 3.4% คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดการเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้า จากเดิม 3.9% ลงมาเหลือ 3.4% แต่ตัวเลขจีดีพีปีหน้าขยายตัว 3.4% ก็ยังถือเป็นเศรษฐกิจขาขึ้น เมื่อเทียบปีนี้ ที่ขยายตัวได้เพียง 1%
เรื่องที่ 652 เรื่องใหญ่ไม่ขำ ไม่เข้าใจ อยู่ดีๆ ก็มีคนถามผู้บริหารระดับสูงของธนาคารออมสิน จะอยู่ต่ออีกสมัยหรือไม่ หลังจากนั่งตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสินมาเพียง 1 ปีครึ่งกับอีกนิดหน่อย คำตอบไม่ใช่ว่า จะอยู่ต่อไปอีกเป็นสมัยที่2 นะครับ แต่ขอจบเพียงวาระแรก ไม่มีวาระสอง “เต๋-วิทัย รัตนากร” ตอบอย่างหนักแน่น
ส่วนเรื่องนี้ จริงหรือหลอก ถามกันเอาเองนะจ๊ะ!!
โดย นพวัชร์