ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 23-24 ก.ย.2564
“วันนี้ ตรงกับวันที่ 24 ก.ย.2564 มีวันหยุดเพิ่มเป็นกรณีพิเศษคือ “วันมหิดล” โดย ครม.กำหนดให้เป็นวันหยุดเพิ่มขึ้นมาใหม่ปีนี้ เป็นปีแรกเพื่อรำลึก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” ในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์) พระบิดาแห่งการ แพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศให้วัน ที่ 24 ก.ย.ของทุกปีเป็นวันมหิดล ตั้งแต่ปี พ.ศ.2494 เป็นต้นมา”
วันนี้ จึงเป็นวันหยุดราชการ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังประกาศให้เป็นวันหยุดของสถาบันการเงินเฉพาะกิจและสถาบันการเงินเอกชน วันหยุดยาวอีกครั้ง ในปีนี้ (24 25 และ26 ก.ย.) ขณะที่ หลายโรงพยาบาลถือโอกาสที่ดีเช่นนี้เปิดรับ Walk-in ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชน จึงเป็นวันดีจริงๆ ของพี่น้องชาวไทย
เรื่องที่ 273 เราเดินทางถึงจุดที่เมื่อเจอปัญหา เอะอะก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหานั้น โดยไม่ย้อนกลับไปมองดูว่า กลไกลที่ใช้อยู่เดิมนั้น มีปัญหาอย่างไร และอะไรที่สมควรได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น เช่นเรื่องของแอปพลิเคชันเกี่ยว กับการลงทะเบียนฉีดวัคซีน ที่ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานพัฒนาระบบเปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนตามความสะดวก และไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยรัฐบาลกลางด้วยซ้ำ
แต่ล่าสุด “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สั่งตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับแอปฯ โดยมีการประกาศอย่างเป็นทางการในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการจัดโครงสร้างของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) เพิ่มเติม เพื่อจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านระบบข้อมูลสารสนเทศและแอปพลิเคชัน” มีปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหัวหน้าศูนย์ และหัวหน้าศูนย์ดังกล่าว ถือเป็นผู้ปฏิบัติงานในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19
ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านระบบข้อมูลสารสนเทศและแอปพลิเคชัน มีหน้าที่ควบคุมดูแล และติดตามการปัญหาเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่รัฐบาลจัดทำขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบหมอพร้อม ไทยชนะ และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19
กระนั้น ก็ถูกมองว่า “เล่นใหญ่” เกินไป เพราะแม้ว่าปัญหาเกี่ยวกับระบบแอปพลิเคชัน จะมีอยู่บ้าง แต่การตั้งศูนย์ แล้วให้คนระดับปลัดกระทรวง เป็นผู้ควบคุมนั้น อาจคล้ายขี่ช้างจับตั๊กแตน สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น
เรื่องที่ 274 “ปรับได้-แก้ได้” ก็คือ “แผนพลังงานชาติ”!! หลังจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช.เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบให้ปรับแผนใหม่ ตามมติ กบง.คือ มุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น และเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง สู่เศรษฐกิจแบบคาร์บอนต่ำคือ ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี 2065-2070 แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Revision 1) จึงต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติม เป็นครั้งที่ 2 ..
การปรับปรุงครั้งนี้ โจทย์ที่ สนพ.และ พพ. ได้รับคือ ลดจำนวนโรงไฟฟ้าถ่านหินและเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ลม ขยะ ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ และยังให้เพิ่มปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าโครงการพลังน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน “ส้มหล่ม” ที่โครงการพลังน้ำจาก สปป.ลาว ถึงว่าสิ “ท่านวันแสง วันนะวง” บิ๊กบอส ฝ่ายการเงิน ผลิต-ไฟฟ้าลาว หรือ EDL-Gen ถึงประกาศตัวดัน สปป.ลาว เป็นผู้นำผลิตพลังงานสะอาดอาเซียน
และยังสั่งทบทวนโครงการรับซื้อไฟฟ้า RE (รายเชื้อเพลิง) ที่มีการดำเนินการล่าช้ากว่าแผนฯ เพื่อปรับกําหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบใหม่ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โรง ไฟฟ้าขยะชุมชน เป็นต้น คงไม่ต้องเสียเวลานั่งลุ้น เพราะรู้ๆกันอยู่ ว่า โครงการไหนจะถูกหั่น ลดสัดส่วนจำนวนการรับซื้อไฟฟ้า
เคาะแล้ว เรื่องที่ 275 รายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือก โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน (โครงการนำร่อง) ที่ กพช. กำหนดไว้เป็นเชื้อ เพลิงชีวมวล 75 เมกะวัตต์ และเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์ ได้รับคัดเลือกทั้งสิ้น 43 ราย แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทชีวมวล 16 ราย 75.00 เมกะวัตต์ ประเภทก๊าซชีวภาพ 27 ราย 74.50 เมกะวัตต์ รวมแล้ว 149.50 เมกะวัตต์ ขายไฟฟ้าเฉลี่ย 3.1831 บาทต่อหน่วย เป็นไปตามกรอบเกือบจะเป๊ะ เพราะขาดแค่ .50 เมกะวัตต์ เท่านั้นเอง ส่วนรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือก ทั้งหมด เป็นใครบ้างนั้น หาอ่านได้ใน AEC10NEWS…
เรื่องที่ 276 ควันหลง วันที่ 22 ก.ย.2564 เวลา 16.00 น. กรมธนารักษ์ ดึงธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มาเซ็นสัญญา “3 ปาร์ตี้” ร่วมกับการเคหะแห่งชาติ โดยกรมธนารักษ์ให้เช่าที่ราชพัสดุ เพื่อจัดสร้างบ้านเช่าราคาถูกให้ผู้มีรายได้น้อย ด้อยโอกาสและเป็นกลุ่มเปราะบาง ขณะที่ ธอส.พร้อมเป็นแหล่งเงินทุนให้กับการเคหะแห่งชาติ นำไปใช้ขึ้นโครงการสารพัดบ้านเช่าทั่วประเทศ ไม่ว่าจะงานแรกหรืองานหลัง..มีคนยกระดับหัวๆ ของแต่ละองค์กร มาร่วมงานคับคั่ง…อยากรู้ใครเป็นใคร? ตามอ่านข่าวจาก AEC10NEWS ได้เลยมีครบ!
วันรุ่งขึ้น (23 ก.ย.) “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ช่วงนี้ ทำหน้าที่แทน เจ้ากระทรวง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” บ่อยจนผิดสังเกต ล่าสุดประธานในพิธีเซ็นสัญญา MOU ระหว่าง “กรมบัญชีกลาง – คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)” ได้ ทว่างานนี้ ก็ผ่านฉลุยด้วยดี ที่เหลือปล่อยให้ “คณิศ แสงสุพรรณ” เลขาธิการ สกพอ. ลุยงานกับ “ประภาศ คงเอียด” อธิบดีกรมบัญชีกลาง ก่อนย้ายรับตำแหน่งใหม่ “อธิบดีกรมธนารักษ์” ในการเดินหน้าความร่วมมือสนับสนุนข้อมูลเขตพัฒนาภาคตะวันออกผ่านระบบเทคโนโลยีสนเทศ ปูทาง นำร่องสร้าง Big DATA ของภาครัฐ โดยอาศัยข้อมูล “จัดซื้อจัดจ้างและการเบิกจ่าย” ของกรมบัญชีกลาง เป็นฐานราก ขยายไปยังหน่วยงานรัฐอื่นๆ รวมถึงองค์ การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไม่ว่าจะเป็น…อบจ. หรือ อบต. และอื่นๆ โดยเริ่มเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดของโครงการ EEC (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) เสียก่อน เมื่อทุกอย่างเข้าที่ อำนาจทางกฎหมายที่ สกพอ. มี จะช่วยให้แนวคิดสร้าง Big DATA ของภาครัฐ รองรับความเป็น e-Goverment ก็คงไม่ไกลเกินฝัน!
เรื่องที่ 278 ย้อนกลับมาที่ “ท่านประภาศ” ในฐานะอธิบดีกรมธนารักษ์ วันนี้ เจอกัน มาดหล่อๆ ราศีจับ พร้อมรับตำแหน่งอธิบดีกรมที่ 2 ในชีวิตก่อนเกษียณ ยืนยันหนักแน่น พร้อมทำงานหนัก อาการเจ็บป่วยสนิทแล้ว ส่วนที่นินทาเป็น “มะเร็ง” คนใกล้ชิดกระซิบบอกว่า “ไม่จริง” ก่อนหน้านี้ ยอมรับว่า “ปอดมีอาการอักเสบ” รักษาหายสนิทแล้ว วิ่งเป็นกิโล กิโล ยังไม่เหนื่อยเลย บ่ใช่มะ!! นะพี่น้อง รายงานเพื่อทราบครับ
ต่อจากนั้น ไปทำงานใหญ่ที่กรมบัญชีกลาง เจอคนรู้จัก สนิทแบบพี่ๆ น้องๆ กันมาหลายสิบปี คุยกันเป็นชั่วโมงยังไม่เลิกเนื่องจาก “สันติ” มือปราบ รมว.คลัง ในฐานะประธานในพิธีเซ็นสัญญา MOU ระหว่าง “กรมบัญชีกลาง – คณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)” มาช้า แต่ก็มา อาการ “เมาท์มอย” เป็นชั่วโมงหายคิดถึงไปเลย จึงนึกขึ้นมาได้ว่า เคยเขียนเรื่องระเบียงที่หายไปของอาคาร 6 กรมบัญชีกลาง
วันนี้ ขอลงรูปชัดๆ แจ๋วๆ ให้ทุกคนได้ยลโฉมระเบียงใหม่ สวย สง่างามสมเป็นหน่วยราชการ แต่อยากทราบว่า สร้างเสร็จเมื่อไหร่ ได้คำตอบแล้วครับ “จนกว่าผู้รับเหมาจะส่งมอบอาคารหลังใหม่ให้กระทรวงการคลัง” หวังว่า “ไม่น่านาน” เกรงใจ อธิบดีท่านใหม่ “ท่านอุ๋ย-กุลยา ตันติเตมิท” จะเกษียณไปก่อน เหมือนกับตึกกระทรวงการคลังหลังใหม่ ล่าสุดคาดว่าปลัดคลังที่ชื่อ “พี่ตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ” จะเกษียณก่อนเปิดตึกใหม่!! เหนื่อยกันต่อไปนะ พวกเรา.
โดย นพวัชร์