ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 15-16 ก.ย.64
“การปรากฎตัวทางโลกออนไลน์ของ โทนี่ วูดซัม เมื่อคืนวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา นัยหนึ่งเพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 ที่ปีนี้จะครบ 15 ปีพอดี ที่ประเทศไทยเกิดการรัฐประหารครั้งสำคัญ โค่นล้มรัฐบาลที่ได้คะแนนเสียง 377 เสียง เกินครึ่งหนึ่งของรัฐสภา”
เรื่องที่ 236 แต่อีกนัยหนึ่งของการปรากฎตัวดังกล่าว โทนี่ พยายามใช้โอกาสนี้ตอบโต้การปล่อยข่าวใช้เงิน 2,000 ล้านบาท ดีล “ธรรมนัส พรหมเผ่า” โค่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เขา บอกว่า คนอย่างผมใช้เงินไม่โง่ และไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้ เพราะเกลียด ไม่ชอบ ดังนั้นเป็นคนอย่าให้ควายจูง
อย่างไรก็ตาม คนนอกประเทศอย่างโทนี่ วิเคราะห์การเมืองหลังจากนี้ไว้อย่างน่าสนใจ โดยบอกว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อารมณ์ปลด ธรรมนัส และ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ซึ่งเป็นดั่งกล่องดวงใจของ “ลุงป้อม” “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์” ออกจากรัฐมนตรี เท่ากับการเลื่อยขาเก้าอี้ตัวเอง และจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีขาลอยที่ไม่มี ส.ส.สนับสนุน
ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องจ่ายราคาแพงเพื่อให้รัฐบาลยังคงอยู่ และไม่แน่ว่า จะมีการเลือกตั้งเร็วกว่าที่คาดคิด
โดยก่อนหน้านี้ โทนี่ เคยฟันธง ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วง ก.พ.2565 แต่ ล่าสุดประเมินใหม่ เร็วกว่านั้น
เรื่องที่ 237 หลังสลัดทิ้ง กลุ่ม “4 ช.” ก่อนหน้าการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมมนตรีรายบุคคลเพียงไม่กี่วัน ทำให้ราคาของ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง พุ่งทะยานในสายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมช.กลาโหม อย่างแรง! เบื้องลึกไม่ต้องสาว…รู้กันอยู่ อะไรคือปมที่ทำให้ “สันติ” ขึ้นชั้นเป็น “คนสนิท” ระดับ “มือไม้คนสำคัญ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในเวลานี้
ล่าสุด! เจ้าตัวให้ข่าว อ้างได้รับมอบหมายจาก นายกรัฐมนตรี ให้ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม อ.หล่มสัก จ.เพชรบรูณ์ หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยนำสารและถุงยังชีพ 1,000 ชุด บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน กว่า 2,000 ครัวเรือน ใน 11 ตำบล อำเภอหล่มสัก และเขตเทศบาล พร้อมส่งความห่วงใยและให้กำลังใจกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานในคราวเดียว ผลงานเข้าตานายกรัฐมนตรีขนาดนี้ รอบหน้าถ้าไม่ยุบสภาฯไปเสียก่อน คงได้นั่งเก้าอี้ “ว่าการ” ระดับกระทรวงเกรด B แน่!
รอบนี้ แม้จะมีระดับ “อธิบดี” ในสังกัด กระทรวงการคลัง เกษียณอายุราชการแค่เพียงรายเดียว คือ “บิ๊กหยิม-ยุทธนา หยิมการุณ” อธิบดีกรมธนารักษ์ ทว่าระดับรองปลัดกระทรวง อย่าง “จุมพล ริมสาคร” และผู้บริหารกระทรวงระดับรองๆ กันมา ก็มีพาเหรดเกษียณอายุราชการ รวมกันนับสิบชีวิต! หนึ่งในนั้น มี “พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี” ผอ.สำนัก งานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมอยู่ด้วย เพื่อเป็นการให้เกียรติกลุ่มคนที่ทำงานรับใช้ประเทศและประชาชนมายาวนาน ว่าแล้ว “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ก็ควงแขน “สันติ พร้อมพัฒน์” และ “ปลัดตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ร่วมพิธีมอบโล่ที่ระลึกให้แก่…ผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ 2564 ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ต้องขอแสดงความยินดีข้าราชการทุกๆ ท่านที่พ้นพงหนามมาได้
ใครที่เกษียณไปแล้ว ไม่มีพันธะใดๆ กับหน่วยงานในสังกัดของรัฐ ก็ “เบาตัว” ไม่ต้องวุ่นวายกับสิ่งต่างๆ ที่เคยมีและเป็น
แต่บางคน ยังสลัดภาระไม่หลุด เพราะ “หน่วยเหนือ” ยังเห็นศักยภาพในการทำงาน จึงมอบหมายให้ทำงานในภารกิจเฉพาะต่อไป โดยเฉพาะ “บิ๊กหยิม” ที่ยังคงต้องใช้บารมีขับเคลื่อนงานของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะ “ประธานบอร์ดฯ” จนกว่าจะครบวาระในอีก 2 ปีข้างหน้า
เรื่องที่ 238 ไม่ผิดหวัง…และแล้วก็ได้ฤกษ์เปิดตัว เซ็นร่วมทุน อย่างเป็นทางการ ระหว่าง “ปตท.” พี่เบิ้มของไทย กับ “ฟ็อกซ์คอนน์”ผู้ผลิตและประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก จากประเทศไต้หวัน เพื่อ พัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ EV Value Chain ทั้งหมด ในนามของ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ความฝันที่กำลังจะเป็นจริง รถยนต์ EV แบรนด์ไทยแลนด์ โดยใช้เงินลงทุน 1,000-2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณกว่า 30,000-60,000 ล้านบาทตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาทางวิศวกรรม
CEO ปตท. “อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” บอก เบื้องต้นจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ปี เตรียมความพร้อมและเริ่มผลิตออกสู่ตลาด เป้าหมายการผลิตระยะแรก 50,000 คัน/ปี และขยายเป็น 150,000 คัน/ปี ในอนาคต ได้เห็นข่าวนี้ก็ดีใจกับ ประเทศไทยจะได้มีรถยนต์เป็นของตัวเองสักที หลังจากที่รับจ้างผลิตบริษัทต่างชาติผลิตมากว่า 50 ปี…ส่วนเรื่องของราคายังไม่ได้ข้อสรุป แต่เชื่อว่าไม่น่าจะโอเวอร์ แพงเกินเหตุ ถ้าไม่ถึงล้านเชื่อเหอะ จอดจองซื้อถล่มทลาย แน่นอน
เรื่องที่ 239 ด้านเอสซีจี เคมิคอลส์ ก็ไม่น้อยหน้า ดึง บราสเคม ผู้นำด้านพลาสติกชีวภาพระดับโลกจากประเทศบราซิล มาร่วมทุน โรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพในประเทศไทย ผลิตไบโอ-เอทิลีน ซึ่งจะนำไปผลิตเป็นเม็ดพลาสติกประเภทไบโอ-พอลิเอทิลีน ทำ บรรจุบรรจุภัณฑ์ เช่น ขวดน้ำดื่ม ถุงพลาสติก ถาดพลาสติก ฟิล์มห่ออาหาร นั่นเองเอาใจ ผู้บริโภคสายกรีน และตอบโจทย์ความต้องการพลาสติกชีวภาพในเอเชียและตลาดโลก ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้อยู่ระหว่าง ศึกษาความเป็นไปได้ หากไม่มีอะไรติดขัด ก็น่าจะปักเสาเอกสร้างโรงงาน ในพื้นที่ มาบตาพุด จังหวัดระยองเห็นอนาคตประเทศแล้วรู้สึกมีหวัง ภาคเอกชนต่างช่วยกันเร่งเดินหน้า หากขจัดปัญหาทุจริตคอรัปชั่นให้เบาบางลงได้ ประเทศไทยคงไปได้เร็วขึ้นกว่านี้
โดยนพวัชร์