ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 29-30 ส.ค.2564
“ขอแสดงความยินดีกับคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของทุกหน่วยงานภาครัฐ ที่ได้รับรางวัลด้านคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือ “ITA Awards” ประจำปี2564 จากสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนใครจะขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสอง หรือไม่ติดอันดับใดๆ เลยก็ตาม เราเชื่อว่า ในกลุ่มคนที่ดี ย่อมมีคนไม่ดีอยู่ด้วย และกลุ่มคนที่ไม่ดี ก็จะพบคนดีๆ อยู่ด้วยเช่นกัน”
เรื่องที่ 151 วันก่อน เจอบางคนถามว่า เมื่อภาครัฐยกเลิกค้ำประกันเงินฝากธนาคารส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท แล้วจะเอาเงินส่วนที่เกินกว่า 1 ล้านบาท ไปลงทุนทำอะไร ถึงได้ผลตอบแทนที่สูง แต่มีความเสี่ยงต่ำ! คำถามที่ง่าย แต่ตอบยาก เพราะทุกวันนี้ จะหันไปมองการลงทุนทางไหน ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ทองคำ ค้าเงิน น้ำมัน อสังหาฯ และที่ดินเปล่า ต่างก็เสี่ยงจากความผันผวนของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกและในเมืองไทย ที่ดูเหมือนไม่เสี่ยง เช่น พันธบัตรรัฐบาล และสลากออมทรัพย์/สลากเงินฝากของ 3 แบงก์รัฐ “ออมสิน – ธ.ก.ส.- ธอส.” ก็ยังมีความเสี่ยงเลย
ความเสี่ยงที่ว่านั้น มาจากความเสี่ยงที่เข้าไปแย่งซื้อไม่ทัน เพราะความต้องการของประชาชน รวมถึงนักลงทุน ทั้งตัวบุคคลและสถาบัน ต่างต้องการถือครองเพื่อการลงทุนอย่างมาก การเข้าไปซื้อไม่ทัน จึงเป็นความเสี่ยงประเภทหนึ่ง
และอีกหนึ่งความเสี่ยงคือ…ระยะเวลาการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น 2-3 ปี หรือ 5 ปี 10 ปี หากระหว่างที่ดอกเบี้ยต่ำ หรือยังไม่มีผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ ที่น่าสนใจ คนมีตัง ก็ไม่ต่างกับนั่งเผาเงิน สักวันเงินเก็บเงินออมต้องหมดเกลี้ยงกระเป๋าอย่างแน่นอน ดังนั้น ก่อนจะถึงวันนั่งเผาเงินเล่น ทุกคนก็อยากให้เศรษฐกิจฟื้น แต่จะฟื้นได้หรือไม่ ขณะนี้ ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน เพราะมาตรการที่รัฐบาลประกาศออกมานั้น เพียงแค่บรรเทาความเดือดร้อน ยังไม่ได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแม้แต่นัดเดียว
เรื่องที่ 152 เมื่อธุรกิจการบิน…บินไม่ได้ ทางออกที่จะทำให้องค์กรอยู่รอด ก็คือ หน้าที่ของผู้บริหาร… หลังจาก “ชาญศิลป์ ตรีนุชกร” เอ็มดีการบินไทย ได้สร้างกระแสฮือฮา ให้กับหมู่เฮาคอกาแฟ ด้วยการขาย “ปาท่องโก๋” การบินไทย โดยนำกุ๊กมาปรุงกันสดๆ พ่วงด้วย แอร์โฮสเตส–สจ๊วต แอร์ มาร่วมให้บริการ จากเมนูบ้านๆ กลายเป็น เมนูยอดฮิตของ “ครัวการบินไทย” แถมยังเปิด แฟรนไชส์ ขยายตลาดใหญ่โต
ยังไม่หยุดแค่นั้น “การบินไทย” ยังเดินหน้าลุย ธุรกิจอาหารจากครัวการบินไทยอย่างต่อเนื่อง เมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้ไปจีบ บริษัทน้ำมัน ยี่ห้อ “บางจาก” จับมือมาเซ็นสัญญา MOU จัดส่งเบเกอรี่ Puff & Pie จากครัวการบินไทย มาขายใน ร้านอินทนิล “สมัชชา ศรีทองสุข” MD ครัวการบิน บอกได้ทดลองขายมาแล้ว เป็นเวลา1 ปี ลูกค้าให้การรับตอบรับเป็นอย่างดี แผนต่อยอดธุรกิจจึงผุดขึ้น ตอนนี้จึงมี เบเกอรี่ Puff & Pie ขายในร้านอินทนิล 13 สาขา และตั้งใจให้ครบ 100 สาขาปีหน้า มีแววที่จะขยายออกไปอีกเรื่อยๆ กว่าอุตสาหกรรมการบินจะเข้าที่ในอีก 2 ปี เราคงได้เห็น “เบเกอรี่ Puff & Pie” กระจายไปทั่วประเทศไทย แต่ที่คุยโม้นะ อยากทราบ “ปาท้องโก๋ บวกเบเกอรี่” ต้องขายเท่าไหร่ถึงจะเท่าราคาตั๋ว “เฟิร์สคลาส”
เรื่องที่ 153 วางศิลาฤกษ์เป็นที่เรียบร้อย โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 280 เมกะวัตต์ ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่สร้างเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมที่กำลังจะปลดระวาง กำลังการผลิต จำนวน 60 เมกะวัตต์ จะจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะเวลา 25 ปี ส่วนที่เหลือ 220 เมกะวัตต์ จำหน่ายให้กับลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม ในนิคมอุตสาหกรรมเอเชียและกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเพิ่มขึ้น.. “เฟลิกซ์ ดนัย ลิงค์” MD บี.กริม แจ้งมาให้ทราบ เพราะลูกค้าถามกันจัง
วกเข้าประเด็นการเมืองกันหน่อย เรื่องที่ 154 สัปดาห์หน้า พรรคฝ่ายค้านจะเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรวมระยะ เวลา 4 วัน ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.จนถึงวันที่ 3 ก.ย.และจะลงมติในวันเสาร์ที่ 4 ก.ย. รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 58 ชั่วโมง 30 นาที คือ ฝ่ายค้าน 40 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 18 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งรวมเวลาของ ครม.ชี้แจง 14 ชั่วโมง ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องติดตามตลอดทั้งวัน ทั้งคืน
ขณะที่ “ธนกร วังบุญคงชนะ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขยันสุดๆ รับการแต่งตั้งได้ไม่ถึงสัปดาห์ ก็ส่งข่าวให้สื่อมวลชนแบบรัวๆ ไม่เว้นแต่ละวัน เล่นเอานักข่าวมือพัลวันกันเลยทีเดียว
“ธนกร” อาศัยช่องทางกรุ๊ปไลน์นักข่าวทำเนียบรัฐบาล เป็นแหล่งกระจายข่าวของเขา และ 3 ข่าวต่อหนึ่งวันเป็นอย่างต่ำคือจำนวนที่ธนกรผลิตข่าวส่งให้สื่อ ซึ่งถือว่าเป็นการให้ข่าวในจำนวนมาก หากเทียบกับโฆษกท่านอื่นๆในช่วงที่ผ่านมา
โทรโข่งรัฐบาลคนใหม่ พูดได้หมดไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงด้านการสาธารณสุข การแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19 ฯลฯ คล้ายกับต้องการชิงพื้นที่สื่อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สมแล้วกับที่รอคอยตำแหน่งนี้มานานถึง 2 ปี เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความไว้วางใจ “ธนกร” จึงไม่รอช้าที่จะสร้างผลงานไม่ให้ ” นาย” ผิดหวัง
ฝากตัวทำงานถวายหัวให้นายขนาดนี้ เห็นที “บิ๊กตู่” คงคลายความกังวลปัญหาด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลได้ไม่มากก็น้อย เพราะอย่างที่รู้ๆ กันดีว่านายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นลำดับต้นๆ ไม่แพ้เรื่องอื่นๆแต่อย่างใด
ไม่ชม ไม่ได้รัก แต่ชอบเชียร์เด็กกำลังรุ่งโรจน์
ตบท้าย เรื่องที่ 155 สรุปผลโยกย้ายกระทรวงการคลัง ข่าวล่า ข่าวลือ แนวโน้มมีความเป็นจริงมากขึ้น ต่อเนื่องจากเรื่องที่ 150 “อุ๋ย” “กุลยา ตันติเตมิท” จากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ลุ้นนั่งตำแหน่งใหญ่ คุมหัวโต๊ะกรมธนารักษ์ ในฐานะหน่วยงานปฏิบัติของกระทรวงการคลัง เพื่อสลัดคราบนักวิชาการ กลายเป็นนักบริหารโชว์ความสามารถอย่างเต็มที่ มีน้ำหนักมากที่สุด 50% แม้ว่า จะรับตำแหน่ง ผอ.สศค.ยังไม่ครบ 12 เดือนก็ตาม
แต่ต้องไม่ลืมว่า กระทรวงคลังมีอีก 2 สาว มีสิทธิ์ลุ้นรอบนี้ มีน้ำหนัก 49% “แพต” “แพตริเซีย มงคลวนิช” ผู้อำนวยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบข.) อยู่ครบ 2 ปีแล้ว อาจถึงเวลาต้องไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ จากโลกใบใหญ่ในฐานะว่าที่อธิบดีกรมสรรพากรหญิงคนแรก เนื่องจากคนใกล้ตัว รมว.คลัง ชื่อ “ธีรัชย์ อัตนวานิช” ที่ปรึกษา 10 สนบ. เป็นที่ปรึกษาฯมานาน 6 ปีแล้ว แถมยังมีโต๊ะนั่งทำงานอยู่หน้าห้อง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ์” อีกด้วย จะขึ้นมาแทน “แพต” สุดท้ายคนนี้ชื่อ “วรนุช ภู่อิ่ม” ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ลูกหม้อกรมธนารักษ์ ฝีมือไม่เบาครับ ถ้าโอกาสมาถึงพวกเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในกรมธนารักษ์อย่างมากมาย
ผู้หญิงทั้ง 3 คนนี้ มีสิทธิ์ลุ้นขึ้นเป็นอธิบดีกรมธนารักษ์มากที่สุด
เพิ่มอีก 1 ตำแหน่งเดี๋ยวจะหาไม่รู้จริง หาก “อุ๋ย” ย้ายไปเป็นท่านอธิบดีกรมธนารักษ์ ใครจะมาแทน ผอ.สศค.งานฟันธงได้เลย หนีไม่พ้น “โป๊ะ” “พรชัย ฐีระเวช” มือทำงานของ สศค.อีกคน น่าจะผงาดได้เสียที
โดย นพวัชร์