ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 16-17 ส.ค.2564
“วันนี้ ขอคุยประเด็นการเมืองก่อนเป็นอันดับแรก เพราะต้องเก็บตกเหตุการณ์ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะวันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค.2564 “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้จัดคาร์ปาร์ค มากประสบการณ์ด้านการนำมวลชน ประกาศปรามน้องๆด้วยคำพูดที่น่าสนใจว่า “ไอ้น้องเอ้ย สมัยก่อนพี่เต้นก็ลุยอย่างพวกน้องนี่แหละวะ แต่วันนี้ เราต่อสู้ทางการเมือง ไม่ได้มาใช้กำลัง ไม่ได้มาเอาชนะ คฝ. เรามาเอาชนะ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่างหาก”
เรื่องที่ 87 ผลของการชุมนุมทางเมืองในหลายเดือนที่ผ่านมา ของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลต้องจบด้วยความรุนแรงทุกครั้ง และ มีการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุม จนสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนอยู่ไม่น้อย
“เต้น” พยายามบอก น้องๆว่า เฮ้ย…อย่าหลงประเด็น เพราะการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะยิ่งทำให้เป้าหมายการต่อสู้ดูห่างไกลออกไปทุกที เพราะจะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ผู้นำรัฐบาล อาจกลับกลายเป็นผู้อยู่เหนือปัญหาได้ ถ้าหากยังชุมนุมกันแบบนี้ เพราะเมื่อไหร่ที่ชุมนุมด้วยความไม่สงบ การชุมนุมนั้น จะปราศจากความชอบธรรมโดยทันที เมื่อไหร่ที่ขาดความชอบธรรม เมื่อนั้น แนวร่วมก็จะค่อยๆ บางตาลง
ดังนั้น ผู้ชุมนุมจึงไม่ควรหลงทาง เพราะการสู้กับตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) ไม่ได้หมายความว่าสู้กับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เป็นไปสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นใหญ่ก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐเหล่านี้ต่างก็ต้องทำหน้าที่ตามได้รับบัญชา ด้วยเหตุนี้การชุมนุมจึงควรมีการกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน มิเช่นนั้นก็จะกลายเป็นการชุมนุมที่ไล่รูปแบบ และจะเสียแนวร่วมได้ในระยะยาว
เรื่องที่ 88 ข่าวเด็ด! ล่าสุด นักวิชาการด้านโรงแรมและธุรกิจอาหาร จาก ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ “ธารีทิพย์ ทากิ” ชี้ทางออกให้กับร้านอาหารที่ซมทั้งพิษโควิด และมาตรการ “ล็อกดาวน์-ปิดร้านอาหาร” ของภาครัฐ ได้ใช้แก้ปัญหาทั้งมวล เพื่อความอยู่ข้างต้น…เป็นเช่นใด ต้องอ่าน เพราะมีสื่อชั้นนำหลายค่ายนำเสนอข่าวไปบ้างแล้ว ภาคเอกชนเขายอมรับกับ 4 ทางออกที่ว่านี้ และพร้อมแล้วที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำ เหลือก็แต่ภาครัฐนี่แหละ ที่ยังมะกุมมะงาหรา หาทางออกไม่เจอ ขอแนะ นำ! กลับไปทางเข้าใหม่ แล้วออกทางนั้น ทางที่นักวิชาการชี้แนะ
ช่างคิด…สมเป็นธนาคารเพื่อสังคมจริงๆ ขอยกนิ้วให้ธนาคารออมสิน เป็นเรื่องที่ 89 “วิทัย รัตนากร” ล่าสุด ผุดแคมเปญ CSR “ออมสินห่วงใย ส่งกำลังใจให้สังคม” ไม่เพียงจะบริจาคเงินกว่า 15 ล้านบาท ร่วมสู้ภัย COVID-19 แต่ยังเปิดตัวเพจ “ออมสินห่วงใย” ศูนย์กลางความช่วยเหลือแห่งใหม่บนโลกโซเชียล จัดทีมทีมไรเดอร์ จิตอาสาคอยจชส่งยาและเวชภัณฑ์ไปช่วยเหลือผู้ป่วยรักษาตัวที่บ้าน รวมถึงมอบ NPA หรือทรัพย์สินรอการขายให้กับพื้นที่ในหลาย จ. อาทิ สงขลา ลำปาง ลพบุรี พิษณุโลก เพื่อนำไปจัดทำเป็นสถานที่กักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หรือศูนย์แยกกักตัวในชุมชนของแต่ละพื้นที่ ทำดีเยี่ยงนี้…ขอปรบมือให้กำลังใจกันแรงๆ
เรื่องที่ 90 จัดใหญ่ “ได้ใจ” สำหรับ กอช. ยุคของ “กฤษฏา จีนะวิจารณะ” ปลัดคลัง ในฐานะ ประธานบอร์ด และ “จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ” เลขา กอช. เชิญทั้ง และ “เอกนเหล่าธรรมทัศน์” รมว.อว. และคณะผู้บริหารของสถานศึกษาชั้นนำกว่า 170 แห่ง เข้าร่วมประชุมและรับนโยบาย “ออนไลน์” จากนี้ไป…นักเรียน นิสิตและนักศึกษา คงหันมาสนใจเรียนรู้และวางแผนการเงินส่วนบุคคล ตั้งแต่…บริหารจัดการเงินออม การลงทุน การเพิ่มทรัพย์สินเพื่ออนาคตอย่างยั่งยืน ขอเอาใจช่วย กอช. ดึงเอาศักยภาพของพันธมิตร รวมถึงสถานศึกษาและกลุ่มเป้าหมายคนสำคัญ อย่างน้องๆ ในวัยศึกษา เข้าร่วมโครงการดีๆ เช่นนี้ให้ได้ แหม! ได้แค่ครึ่งหนึ่งของนักเรียน นิสิตและนักศึกษา ล่ะก็…แจ่มเลย!
เรื่องที่ 91 ยังลุ้นตัวโกง โครงการโรงไฟฟ้าอาร์ อี เอ็น โคราช เอนเนอร์ยี่ ของ ราช กรุ๊ป หลังจากศึกษา จัดทำรายงาน ผล กระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA มาเกือบ 3 ปี เดือนสิงหาคมนี้ ได้ฤกษ์ ส่งรายงาน EIA เข้า สผ. ถ้าผ่านก็นับว่าเป็นโรงไฟฟ้า IPS แห่งแรกของ ราช กรุ๊ป ที่จะขายตรงให้กับลูกค้าโดยไม่ต้องผ่านระบบของการไฟฟ้า ลูกน้องลุ้น “กิจจา ศรีพัฑฒางกุระ” CEO ราชกรุ๊ป ก็ลุ้น จนนั่งไม่ติดเหมือนกัน…ขอให้ผ่านๆ
เรื่องที่ 92 มือประสาน 10 ทิศ ต้องยกให้ “อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” CEO ปตท. ลุยแผนลงทุนยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ทั้งยังจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองนโยบายและทิศทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ ล่าสุด ไปจับมือกับ โทรคมนาคมแห่งชาติ พัฒนาด้าน IoT และ Application นำ เทคโนโลยี 5G มาช่วยให้บริการ รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค ดิจิทัล อนาคต… งานราษฎร์ งานหลวง ครบสูตร จริงๆ…
ทิ้งท้ายเรื่องที่ 93 ก่อนจะถึงวันอังคารที่ 17 ส.ค. หลายคนยังคงลุ้นระทึกกับการโยกย้ายและแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง คืนวันที่ 16 ส.ค.ขอบอกตรงๆ ทุกอย่างยังเงียบสนิท เหมือนกับปีที่แล้ว สัปดาห์หน้าคือ วันที่ 24 ส.ค.ของปี2563 ครม.มีมติแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังหลายตำแหน่ง มาปีนี้ วันที่ 24 ส.ค.2564 สัปดาห์หน้าเหมือนกันตรงกับวันอังคารอีก เหนื่อยกันอีกต่อไป…หายใจลึกๆ เอาไว้
แต่วันนี้ มีเรื่องเก่าที่น่าสนใจ นำเสนอให้อ่านเพลินๆ เป็นเกร็ดความรู้ ของคนรุ่นเก่า “สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” อดีตปลัดกระทรวงการคลัง แฟนพันธุ์แท้ กระซิบบอกว่า ในสมัยผมเป็นซี 9 อยู่กรมศุลกากร ก็ถูก “ปลัดเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล” ย้ายมานั่งเป็นรองที่ สศค.ก่อนขยับขึ้นเป็นผู้ตรวจราชการ และผู้อำนวยการ สศค. ในสมัยนั้นมีผู้บริหารระดับ 9 หลายคนถูกย้ายข้ามกรมกอง นับรวมแล้วหลายสิบคน “ชวลิต เศรษฐเมธีกุล” จากรองอธิบดีกรมศุลกากร (ใหญ่มาก) มาเป็นรองอธิบดีกรมสรรพสามิต หลังจากนั้น ท่านก็ขยับเป็นผู้ตรวจราชการ รองปลัดคลัง และอธิบดีกรมศุลกากรในที่สุด
“การโยกย้ายซี9 ในครั้งนั้น ทำให้ตนได้เรียนรู้งานรอบด้านมากขึ้น จากเดิมทำงานอยู่ที่กรมศุลกากรก็เรียนรู้งานเพียงด้านเดียว ขยับเป็นรอง ผอ.สศค.รู้งานทางด้านวิชาการมากขึ้น ส่งให้มีความรู้ความสามารถมากขึ้นเมื่อถึงคราวได้เป็นปลัดคลัง ก็นำความรู้ต่างๆ มาใช้งานได้อย่างเต็มที่ ประเด็นนี้ ถือเป็นคุณความดีของ “ปลัดเต่า” ที่ท่านสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นอธิบดี ปลัดกระทรวงการคลัง หรือแม้กระทั่งรัฐมนตรีก็มี” “ท่านสถิตย์” กล่าวทิ้งท้าย
โดย นพวัชร์