ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 17-18 ส.ค.2564
“เปิดเบื้องหลัง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ตั้งศูนย์บริหารสื่อสารในภาวะวิกฤต เพื่อวางกลยุทธ์สื่อสาร แก้ปัญหาข่าวปลอมนั้น มาจากการที่ “บิ๊กตู่” เป็นแฟนคลับของ “ดร.เสรี วงษ์มณฑา” เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว”
เรื่องที่ 94 บ่อยครั้งที่คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ส่งข้อความที่ “ดร.เสรี” โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวมาให้นายกฯ อ่าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการตำหนิติเตียนแนวทางการสื่อสารของรัฐบาล และ ศบค. พร้อมเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่ได้มองว่า รัฐบาลล้มเหลวในการบริหารจัดการโควิด-19 เพียงแต่มองว่า เมื่ออ่อนการสื่อสาร จึงทำให้ทุกอย่างดูจะวุ่นวาย ล้มเหลวไปหมด
“ดร.เสรี” คิดเหมือนกับคนส่วนใหญ่ที่เชียร์รัฐบาล กล่าวคือ พวกเขาเห็นว่าที่รัฐบาลโดนด่า โดนวิจารณ์อยู่ทุกวี่ทุกวันนั้น ไม่ใช่เพราะบริหารไม่ดีบริหารไม่เก่ง แต่เพราะกระบวนการประชาสัมพันธ์ ไม่มีประสิทธิภาพต่างหาก ดังนั้น การเห็นว่า รัฐบาลประชาสัมพันธ์ได้ห่วย ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลทำงานห่วย เพียงแต่ต้องปรับการประชาสัมพันธ์ ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง
แนวคิดนี้สอดคล้องกับความคิดของผู้นำอย่าง “บิ๊กตู่” ที่ไม่ได้มองว่าตนบริหารจัดการล้มเหลว แต่มองว่าประชาชนยังไม่เข้าใจสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ต่างหาก ทั้งหมดนี้ จึงเป็นที่มาของการตั้งศูนย์บริหารสื่อสารในภาวะวิกฤต โดยมี “อนุชานาคาศัย” รมต.สำนักรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ “พล.ท.สรรเสริม แก้วกำเนิด” อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นเลขานุการ “ดร.เสรี วงษ์มณฑา” และ “เกษมสันต์ วีรกุล” เป็นบรรณาธิการบริหาร
เรื่องที่ 95 ไม่โดนซักฟอก! “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ จึงเดินหน้าสร้างแต้ม ชนิดไม่รอ “ลุงตู่และน้องหนู” เปิดปฏิบัติการสร้างแต้มทางการเมือง ล่าสุด แถลงจับกุมแก๊งขายฟ้าทะลายโจรและชุดตรวจ ATK แบบ “ค้ากำไรเกินควร” รอบก่อนฟันกลุ่มฟ้าทะลายโจรไป 10 ราย รอบนี้ ฟาดอีก 9 ราย ส่วน ATK ได้ไม่เยอะ เพราะคนไทย “เล่นไม่เป็น” สำหรับการจับแก๊ง “ขายแพง” ฟ้าทะลายโจร ถือว่าสร้างคุณูปการให้กับ “คนจิตตก” ในภาวะโควิดระบาดหนัก พบยอดติดเชื้อใหม่และตายสูงขึ้น สร้าง “นิวไฮ” เป็นระยะๆ มีอย่างที่ไหน ราคาหน้ากล่องกำหนดไว้ 80 บาท ขายจริงที่ 325-499 บาท สูงเกินปกติ 306-524% ยิ่งกว่า “ค้ากำไรเกินควร” จัดเป็น “หากินบนความกลัวตาย” ของเพื่อนมนุษย์ ต้องเล่นบทแรงสถานเดียว
ทำดี…ทำได้ทุกวัน! เรื่องที่ 96 ความเดือดร้อนของคนไทยไม่มีวันหยุด ว่าแล้ว “วิทัย รัตนากร” จึงสั่งกดปุ่ม ส่งทีม “ไรเดอร์ออมสินห่วงใย” ออกปฏิบัติหน้าที่ คอยจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้ผู้ป่วยโควิดฯที่รักษาอยู่กับบ้าน แบ่งเบาภาระของ สปสช. รับ “ออเดอร์” ความเดือดร้อนของเพื่อนร่วมชาติในสถานการณ์โควิดฯ แบบไม่มีหยุดหย่อน และล้นทะลัก! ท่านเลขาฯ สปสช. “นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี” เอ่ยปากชม! เพราะ “ธนาคารเพื่อสังคม” แห่งนี้…ช่วยปิดช่องโหว่ อันเป็นปัญหาของการรักษาผู้ป่วยโควิด ให้คลายตัวลงไปได้มากทีเดียว แถมยังมีทางน้ำอีก ธนาคารออมสินภาค 3 นำ “เรือ” ออกปฏิบัติงาน ตามลำน้ำเจ้าพระยา และคลองสาขา ส่งมอบอาหาร น้ำดื่ม และเวชภัณฑ์ ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียว แถบฝั่งธนบุรี ย่านชุมชนสวนสมเด็จย่าฯ เขตคลองสาน, ชุมชนวัดกัลยาณมิตร เขตธนบุรี และชุมชนวัดดาวดึงษาราม เขตบางพลัด นัยว่า…นี่คือ น้ำใจจาก “ชาวแบงก์สีชมพู” ที่หวังเพียงส่งกำลังใจให้สังคมไทย เพื่อช่วยเหลือกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด โห…น้ำตาซึมเลย! แต่ที่ขาดก็เพียงทางอากาศนั้น
เรื่องที่ 97 ลงมาเล่น Solar Rooftop อีกหนึ่งราย บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) ผนึกกำลัง กับ บมจ.เอแอลที เทเลคอม (ALT) ติดตั้ง Solar Rooftop นำร่องโปรเจ็คต์แรก โครงการคุณาลัย พรีม ย่าน บางบัวทอง นนทบุรี ไตรมาส 4 ปีนี้คงได้เห็นโฉมโครงการแนวราบแห่งแรกในย่านบางบัวทองที่ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา ตลาดบ้านจัดสรรน่าจะคึกคักแน่นอน
ส่วนโครงการ Solar ภาคประชาชน ก็ยังเงียบเป็น เป้าสาก แม้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จะเห็น ชอบปรับราคารับซื้อจาก 1.68 บาท/kWh เป็น 2.20 บาท/kWh ปีผ่านมาที่มีผู้รวมเพียง 3 เมกะวัตต์ จากที่ประกาศรับซื้อไฟฟ้า 50 เมกะวัตต์ต่อปี ล่าสุด กกพ.ประกาศรับซื้อเมื่อ 4 ก.พ. 2564 ถึงวันนี้มีผู้เข้าร่วมยังไม่ถึง 1 เมกะวัตต์30 ธ.ค. 2564 คือวันสิ้นสุด จะทำลายสถิติครั้งที่ผ่านมาหรือไม่…ลองเดาดูกัน
รายได้โตสวนกระแสต้องเจ้านี้ เรื่องที่ 98 ยินดีด้วยครับ “พิทักษ์ รัชกิจประการ” บอสใหญ่ PTG ออกอาการ ปลื้มปริ่ม กับผลประกอบการในครึ่งแรกปีนี้ มีกำไรเพิ่มขึ้น 43.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แถมยังรักษามาร์เก็ตแชร์ การจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการเป็นอันดับ 2 เอสโซ่ บางจาก จะไปอยู่อันดับไหนหนอ
เรื่องที่ 99 ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งสัปดาห์สำหรับผลการประชุม ครม.ยังไม่ลงตัวกับการโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระ ทรวงการคลังว่า ใครจะไปไหน อย่างที่เกริ่นนำไปแล้ว เมื่อหลายวันก่อนที่จะยุติเขียนเรื่องโยกย้าย เพราะเกรงว่า จะกระทบเป็นวงกว้างขยายจากย้ายเล็กเป็นย้ายใหญ่ วันนี้ ขอจัดลำดับรุ่นเทียบชั้น 3 กรมภาษี กรมสรรพากร กรมสรรพสามิตและกรมศุลกา กร ตำแหน่งที่ปรึกษา10 และรองอธิบดี 9 ใครจะโยกย้ายไปนั่งที่ไหนกันบ้าง
ปีงบประมาณ2565 ที่จะเริ่มต้นวันที่ 1 ต.ค.นี้ กรมที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด หนีไม่พ้น “กรมศุลกากร” ระดับที่ปรึกษา10 มี 3 คน น่าอยู่ครบทั้งหมด ส่วนรองอธิบดีปีนี้ เกษียณ 3 คน “สรศักดิ์ มีนะโตรี” “กรีชา เกิดศรีพันธ์” “ชัยฤทธิ์ แพทย์สมาน” ถือว่า ตำแหน่งว่างเยอะ นานๆ จะเห็นรองอธิบดีว่างพร้อมกัน 3 คน แต่หนึ่งในนั้น ทราบว่า “พชร อนันตศิลป์” อธิบดีหม่อง รับสัญญาลูกผู้ชาย เสนอชื่อ มือขวา “พงศ์เทพ บัวทรัพย์” ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม สำนักเก่าชื่อเสียงลือลั่นว่า “สสป.” หน่วยงานที่จับเก่ง ตรวจเก่งที่สุดของกระทรวงการคลัง ส่วนจะควานหาใครจะนั่งผู้ตรวจราชการนั้น เวลานี้ ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ยกเว้นคนหนุ่มรุ่นใหม่ อย่าง “พันธ์ทอง ลอยกุลนันท์” รองอธิบดีจะข้ามห้วยมานั่งเทียบรัศมีผู้ตรวจหรือไม่ ยังต้องจับตามองต่อไป
กรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต ล่าสุดไม่พบคนเกษียณปีงบประมาณนี้ เนื่องจากยังหนุ่มสาวเกิดปี2513-2516 กันเป็นแถว ส่วนที่อาวุโสหน่อย ก็ขอรออยู่เกษียณในตำแหน่งรองและที่ปรึกษาอีก 2-3 ปีก็พอใจแล้ว แต่ที่ยังพอมีลุ้น คนรุ่นใหม่อย่าง “ธิบดี รัตนกุล” ปรึกษากรมสรรพสามิต “เกรียงศักดิ์ ประสงค์สุกาญจน์” ที่ปรึกษากรมสรรพากร ยังพอมีลุ้นแข่งกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ตอนนี้ มีตัวให้เลือกเพียบ “วุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล” และ “อรรถพล อรรถวรเดช” น่าจับตามองมากที่สุด เพราะหนึ่งในนั้น ลูกน้องเก่าปลัดคลัง จะดันขึ้นในรอบนี้หรือไม่ ยังสงสัย ยังสงสัย …
ส่วนกรมอื่นๆ ไม่ต้องน้อยใจ ไม่ได้ “ลืม” แต่มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นคือ เรื่องที่ 93 ระบุว่า “ชวลิต เศรษฐเมธีกุล” ย้ายจากกรมศุลกากรมาเป็นรองอธิบดีกรมสรรพสามิต รุ่นใหญ่อายุเกิน 70 ปี ท้วงติงบอกว่า สมัยนั้น “หม่อมเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ปลัดกระทรวงการคลัง หลังจากย้ายอธิบดีมาหลายกรมแล้ว ยังย้ายระดับ 9 พร้อมกันอีก 3 คน ซึ่งทั้ง 3 คนในเวลาต่อมาเป็นอธิบดีกรมภาษีหมดทุกคน “ศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์” จากซี9 กรมสรรพากรไปเป็นซี9 กรมศุลกากร คุมท่าเรือกรุงเทพ “ศานิต ร่างน้อย” จากกรมสรรพสามิตเป็นไปซี9 กรมสรรพากร และ “ชวลิต เศรษฐเมธีกุล” ย้ายจาก สสป.กรมศุลกากร เป็นผอ.ปราบปรามกรมสรรพสามิต (กราบขออภัยด้วยครับ)
โดย นพวัชร์