“อมตะซิตี้ เบียนหัว” รับรางวัลบริหารธุรกิจยั่งยืน
“อมตะซิตี้ เบียนหัว” โชว์ผลงานคว้ารางวัลบริหารธุรกิจยั่งยืน 1 ใน 10 บริษัทชั้นนำในเวียดนามจากเวที Sustainable Companies in Vietnam 2023 สอดรับกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มอมตะแบบ “ALL WIN” ดึงเทคโนโลยีนวัตกรรมร่วมขับเคลื่อนธุรกิจอย่างสมดุลทั้งการพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณภาพตามหลักธรรมาภิบาล
นางสมหะทัย พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เปิดเผยว่า นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ เบียนหัว เข้ารับรางวัลแห่งความสำเร็จด้านการบริหารธุรกิจอย่างอย่างยืน ( Sustainable Businesses in Vietnam in the Trade and Services Sector) ซึ่งเป็น 1 ใน 10 บริษัทที่ได้รับรางวัลของบริษัทที่มีการบริหารธุรกิจด้านการค้าและบริการอย่างยั่งยืน ในประเทศเวียดนาม การมอบรางวัลจัดโดยหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VCCI) สภาธุรกิจยั่งยืนเวียดนาม (VBCSD) ภายใต้การกำกับดูแล ของรัฐบาลกลาง กระทรวงแรงงาน และสำนักงานสภาสวัสดิการสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม ถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นหนึ่งในแนวทางที่สำคัญของบริษัทที่มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง
ในการคัดเลือก บริษัทที่ได้รับรางวัลมีการประเมิน โดยใช้ระบบ CSI 2023 ที่ประกอบด้วยตัวชี้วัด 130 ประการ มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่สมบูรณ์ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ชุมชน หรือสังคมโดยรวม ก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและสร้างรากฐานที่แข็งแรง สามารถดำเนินธุรกิจพร้อมกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตไปพร้อมๆกัน
ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ เบียนหัว มีเป้าหมายในการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดูแลสังคม ทำให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน สามารถขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมกับการรักษาสมดุลระหว่างอุตสาหกรรมและชุมชนโดยรอบให้อยู่ร่วมกันอย่างมีคุณภาพ บนพื้นฐานของความรับผิดชอบตามหลักธรรมาภิบาล
“สิ่งเหล่านี้จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งธุรกิจที่มีการบริหารจัดการด้านการค้าและการบริการได้อย่างยั่งยืนของประเทศเวียดนาม ประจำปี 2023 จากกว่า 500 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทในการมุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินธุรกิจ ให้ความสำคัญทั้งในเรื่องของการพัฒนาด้านการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีและสร้างความยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายตาม หลักปรัชญา “ALL WIN” ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้บริษัทมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันการดำเนินธุรกิจ ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” นางสมหะทัยกล่าว