แสนสิริโตสวนกระแสตลาด
Press release แสนสิริโตสวนกระแสตลาด ปิดยอดขายเมษายน เดือนเดียวทะลุ 6,300 ล้านบาท กวาด 17,300 ล้านบาทใน 4 เดือน
แสนสิริ โตสวนกระแสตลาด ปิดยอดขายเมษายน เดือนเดียวทะลุ 6,300 ล้านบาท เดินหน้ารั้งตำแหน่งผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาฯ ต่อ ดันพรีเซลล์รวมล่าสุดอยู่ที่ 17,300 ล้านบาท ขยับเข้าใกล้ตัวเลขเป้าหมายยอดขายครึ่งปี 23,000 ล้านบาท
ซึ่งจะส่งผลให้เติบโตเกิน 100% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นยอดขายที่ทำได้แล้วในไตรมาสแรก 11,000 ล้านบาท และเป้ายอดขายที่ขยับล่าสุดในไตรมาส 2 อีก 12,000 ล้านบาท ยอดขายวิ่งแรง Sold out อีกถึง 7 โครงการต่อเนื่อง ทั้งแนวราบและแนวสูง มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ใน 5 โครงการแนวราบ และ 2 ดีคอนโด จากการเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” และโปรโมชั่น “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ทำให้ลูกค้าตัดสินใจทันที
คาดยอดขายครึ่งปี โตเกิน 100% สวนกระแส ในขณะที่ตลาดหดตัว เกิดจากการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อมั่น และแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องจ่ายทั้งต้นทั้งดอกเป็นเวลาถึง 2 ปี จึงตัดสินใจซื้อทันที ไม่ต้องกังวลกับสภาพเศรษฐกิจ พร้อมทำให้ลูกค้าซื้อบ้านได้สะดวกที่สุด ในช่วงล็อคดาวน์ โดยทุ่มทำ digitalmarketing พร้อม Virtual Sales Gallery ดูบ้านตัวอย่างได้ทาง YouTube โดยลูกค้าสามารถ chat ผ่าน Line และ Facebook เพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่ และซื้อผ่าน online booking ได้ทันที
นอกจากนี้ ยังมีการยกระดับความสะอาดและความปลอดภัยเพื่อให้ลูกค้าเข้าชมโครงการด้วยความมั่นใจ คุมเข้มด้วยมาตรการ“Sansiri care for All… เพราะเราห่วงใย” พร้อมบริการPrivate Tour เพื่อให้ไม่ต้องปะปนกับผู้อื่น
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แสนสิริสามารถสร้างยอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ในเดือนเมษายน 2563 ได้สูงถึง 6,300 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นยอดขายที่สูงกว่าระดับปกติที่เคยทำได้ในระยะเวลาหนึ่งเดือน รวมทั้งยังโตสวนสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูงในสถานการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ทั้งนี้จากการประเมินความสำเร็จที่เกิดขึ้นมา จากการความเชื่อมั่นในแบรนด์ แสนสิริ ที่เป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน”จากการมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง รวมทั้งการการส่งมอบแคมเปญที่เข้าใจใน Customer Insight จากสถานการณ์อสังหาฯ ที่กลุ่มลูกค้ายังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง ขณะที่มีการตัดสินใจที่มากขึ้น
จากสถานการณ์ โควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต บริษัทจึงได้มอบแคมเปญที่สามารถตอบรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดด้วยแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ส่งผลให้ลูกค้าให้การตอบรับสูงและรวดเร็ว จากการจองซื้อที่อยู่อาศัยแล้ว ไม่ต้องจ่ายทั้งต้นทั้งดอกเป็นเวลา 2 ปี ลูกค้านำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นตามต้องการได้ ไม่ต้องกังวลกับสภาพเศรษฐกิจ ที่โครงการบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮมพร้อมอยู่จากแสนสิริ วันนี้ – 30 มิถุนายนเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจทันที นอกเหนือจากแบรนด์และแคมเปญที่ตอบโจทย์ ปัจจัยหลักยังมาจากกลยุทธ์ความแข็งแกร่งของแสนสิริ ในการมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการ หรือ Sansiri Service ในการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขาย รวมไปถึง LIV-24 ที่ดูแลความปลอดภัย ส่งตรงจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงมาตรฐานแสนสิริ พร้อมเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลทุกจุดในโครงการ พร้อมพริวิเล็จมากมายจากแสนสิริ แฟมิลี่ จากความสำเร็จในด้านต่างๆ รวมถึงยอดขาย 6,300 ล้านบาทที่ทำได้ล่าสุดในเดือนเมษายน ส่งผลให้แสนสิริมียอดขายพรีเซลล์รวมล่าสุดอยู่ที่ 17,300 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 4 เดือน
ขยับเข้าใกล้ตัวเลขเป้ายอดขายครึ่งปีแรก 23,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เติบโตขึ้นกว่า 100% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สวนกระแสตลาดหดตัว
นอกจากนี้ บริษัทยังรักษาความเป็นผู้นำ ด้วยการทยอยปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งแนวราบและแนวสูง อาทิ ปิดการขายโครงการบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้แก่ โครงการสราญสิริ ติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ, โครงการนาราสิริ โทเพียรี่, โครงการนาราสิริ พุทธมณฑล สาย 1, โครงการนาราสิริ บางนา, โครงการสราญสิริ เกาะแก้วและ บุราสิริ เกาะแก้ว ภูเก็ต เป็นต้น ปิดการขาย “ไทเกอร์ เลน” ลักซ์ชัวรีโฮมออฟฟิศ บนที่สุดของทำเลทอง ไพร์มโลเคชันตำแหน่งฮวงจุ้ยท้องมังกร ที่หายากใจกลางย่านเสือป่า เยาวราช การปิดการขาย 2 คอนโดมิเนียม – ดีคอนโด แคมปัส โดม รังสิต และ เดอะ เบส เพชรเกษม รวมถึงล่าสุดบริษัทยังได้ปิดการขายไปอีก 7 โครงการต่อเนื่อง ทั้งแนวราบและแนวสูง มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท
จากกลุ่มลูกค้าที่ให้ความเชื่อมั่นในการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์แสนสิริแบ่งเป็น 5 โครงการแนวราบได้แก่ บ้านเดี่ยวในโครงการบุราสิริ ราชพฤกษ์ – 345 ทาวน์โฮมแบรนด์สิริเพลส โครงการ สิริ เพลส ราชพฤกษ์ – รัตนาธิเบศร์, สิริ เพลส ติวานนท์ และสิริ เพลส กัลปพฤกษ์ – สาทร รวมถึง ช้อปเฮาส์ในโครงการสิริ อเวนิว เพชรเกษม 81 นอกจากนี้ยังปิดการขาย 2 คอนโดมิเนียมแบรนด์ดีคอนโด ได้แก่ ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท กู้กู ภูเก็ต และ ดีคอนโด กำแพงแสนซึ่งมีดีมานต์จากลูกค้าที่มองเห็นราคาที่ดีและเชื่อว่ามูลค่าโครงการสูงขึ้นในอนาคต โดยโครงการดีคอนโด กำแพงแสน ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพโครงการและศักยภาพทำเลที่ตั้ง ที่ใกล้ ม.เกษตร กำแพงแสน โดยมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าจากการปิดขายโครงการที่ซื้อเพื่อลงทุนสูงถึง 80% จากอัตราผลตอบแทนต่อการปล่อยเช่าที่ดี หรือ Yield สูงถึง 5 – 6.4% ในราคาขายเฉลี่ยเพียง 58,000 บาท ต่อตารางเมตร ส่งผลให้โครงการประสบความสำเร็จ
“แสนสิริยังเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าซื้อบ้านได้สะดวกที่สุด ในช่วงล็อคดาวน์ โดยทุ่มทำ digital marketing พร้อม Virtual Sales Gallery ดูบ้านตัวอย่างได้ทาง YouTube โดยลูกค้าสามารถ chat ผ่าน Line และ Facebook เพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่ และซื้อผ่าน online booking ได้ทันที พร้อมยังมีการยกระดับความสะอาดและความปลอดภัย เพื่อให้ลูกค้าเข้าชมโครงการด้วยความมั่นใจ คุมเข้มด้วยมาตรการ “Sansiri care for All… เพราะเราห่วงใย” พร้อมบริการPrivate Tourเพื่อให้ไม่ต้องปะปนกับผู้อื่น ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจากความสำเร็จด้านยอดขายที่รวดเร็วรวมถึงการรุกการตลาดที่แข็งแกร่ง จะทำให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายในช่วงครึ่งปี 23,000 ล้านบาท ตามที่วางเป้าหมายไว้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เติบโตขึ้นกว่า 100% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สวนกับกระแสสภาวะตลาดหดตัวในปัจจุบัน” นายอุทัย กล่าว