SCB ยึดกลุ่มเวลธ์เปิด ศ.ความรู้ลงทุนที่เอ็มบาสซี
ไทยพาณิชย์สานต่อแผนยุทธศาสตร์ “กลับหัวตีลังกา” รุกขยายฐานกลุ่มลูกค้าเวลธ์ต่อเนื่องล่าสุดเปิดธุรกิจ “SCB Investment Center” มิติใหม่ สาขาที่ 10 ณ ชั้น 4 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตั้งเป้าปี 62 ขยายอีก50 สาขาในโลเคชั่นเจ๋งสุดทั่วไทย
นางสาวศลิษา หาญพานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสาย First และผู้บริหารสาย Segment Management ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึง SCB Wealth ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้าจำนวน 200,000 กว่ารายมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) 1.5 ล้านล้านบาท ว่าเพื่อขานรับกับแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์กลับหัวตีลังกา (Going Upside Down) มุ่งสู่วิสัยทัศน์ของการเป็น “ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด” (The Most Admired Bank) ธนาคารฯจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี พร้อมพัฒนาบุคลากรระดับมืออาชีพ และบริการที่มีคุณภาพ เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ด้านการเงินที่ดีขึ้น และตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมที่สุด
โดยได้พัฒนาเอสซีบี เวลธ์ แพลตฟอร์ม (SCB Wealth Platform) ขึ้นเพื่อบุกตลาดลูกค้ากลุ่มเวลธ์ ซึ่งครอบคลุม SCB PRIVATE BANKING, SCB FIRST และ SCB PRIME ผ่านกลยุทธ์แกนหลักอันเป็นหัวใจสู่ความสำเร็จ ได้แก่ “SCB Investment Center” มิติใหม่แห่งศูนย์บริหารความมั่งคั่ง เป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ในเรื่องการเงินการลงทุนแบบครบวงจร หัวหอกสำคัญในการเจาะตลาดและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ลูกค้าเวลธ์ยุคใหม่ เน้นการเข้าถึงทั้งเรื่องของข้อมูลการลงทุนที่ครอบคลุมถึงโกลบอลมาร์เก็ต (Global Market) แบบเรียลไทม์ โดยมีทีม CIO Office (Chief Investment Office) ที่เป็นเสมือนคลังสมอง และทีมWealth Personal Banker ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน คอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดและอีกหนึ่งจุดแข็งที่สำคัญ คือ ลูกค้าสามารถเข้าใช้บริการที่ SCB Investment Center ได้ทุกวัน
“สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและกล้าลงทุนมากขึ้น รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่หลากหลายและน่าสนใจผ่านแพลตฟอร์ม Open Architecture ที่คัดสรรเป็นพิเศษให้ลูกค้าได้เลือกลงทุนพร้อมผลตอบแทนที่ช่วยเพิ่มความมั่งคั่ง ตอกย้ำบทบาทสำคัญของธนาคารในฐานะ “คู่คิดทางการเงิน” (Trusted Partner)” นางสาวศลิษาย้ำ
ทั้งนี้ SCB Investment Center แห่งใหม่ล่าสุด ณ ชั้น 4 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี นับเป็นแห่งที่ 10 ที่เปิดให้บริการแก่กลุ่มลูกค้า SCB Wealth ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ CO-INVESTMENT SPHERE ได้รับการออกแบบในสไตล์คลาสสิคลักซ์ชัวรี่แบบอังกฤษ บนพื้นที่กว่า 224 ตารางเมตร ภายในตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและมั่นคง โดดเด่นด้วยแผนที่โลกบนเพดานกลางห้องที่สื่อถึงการลงทุนเพื่อบริหารความมั่งคั่งแบบไร้ขอบเขต ผสานเข้ากับดิจิทัลเทคโนโลยีด้วยโปรแกรมด้านการลงทุนอันทันสมัยเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ด้านการบริหารความมั่งคั่ง สำหรับลูกค้ากลุ่มเวลธ์ (Wealth) โดยเฉพาะ
พร้อมบริการสุดพิเศษ อาทิ 1.บริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนโดยผู้เชี่ยวชาญ นำโดยทีม CIO Office, SCB Securities และ SCBAM สำหรับบริการนัดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่จะมาตอบข้อสงสัยเชิงลึกด้านการลงทุนให้กับนักลงทุนในแต่ละด้านแบบตัวต่อตัวผ่านระบบ VDO Conference 2.บริการมุมลงทุนอันทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับมืออาชีพกับข้อมูลการลงทุนในหุ้นที่ครบครัน พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และโปรแกรมพิเศษ อาทิ Eikon, Aspen, e-Fin, Bisnews บนจอส่วนตัว 3.บริการตู้นิรภัย ด้วยระบบ Semi-auto อันสวยงามทันสมัย เพื่อปกป้องทรัพย์สินอันมีค่าของลูกค้า SCB Wealth ที่มาใช้บริการ 4.บริการห้องประชุมส่วนตัว เพื่อใช้ปรึกษาด้านการลงุทนและเรื่องธุรกิจ และ 5.กิจกรรมสัมมนา จากกูรูชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย ที่จะมาคอยให้ความรู้ในทุกด้านของการลงทุน
“หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของไทยพาณิชย์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ “กลับหัวตีลังกา” (Going Upside Down) คือ การขยายฐานลูกค้ากลุ่มเวลธ์ให้เติบโตไปพร้อมกับก้าวใหม่ของธนาคาร มุ่งมั่นพัฒนาในด้านต่างๆทั้งนวัตกรรมเทคโนโลยี การพัฒนาบุคลากรระดับมืออาชีพ และบริการ เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ด้านการบริหารความมั่งคั่งที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า โดยคาดว่า ภายใต้กลยุทธ์หลักของSCB Wealth จะช่วยขยายฐานลูกค้าเวลธ์ และผลักดันให้ธนาคารขึ้นเป็นผู้นำด้านเวลธ์แบงก์กิ้ง สามารถเข้าไปนั่งในใจของลูกค้าเวลธ์ของเมืองไทยภายในปี 2562 โดยแพลนการขยาย SCB Investment Centerจะมีทั้งหมดรวม 60 แห่งในโลเคชั่นสำคัญๆ ทั่วประเทศ” นางสาวศลิษา กล่าวสรุป.