หนี้สาธารณะเดือนพ.ค.เพิ่มหมื่นล้าน
สบน.รายงานหนี้สาธารณะคงค้างเดือนพ.ค.อยู่ที่ 6.4 ล้านล้านบา หรือ 40.78% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย. 1 หมื่นล้านบาท
นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ ได้รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 พ.ค.2561 มีจำนวน 6,497,688 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40.78% ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้รัฐบาล 5,202,092 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 907,969 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 378,871 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 8,756 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 10,977 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.หนี้รัฐบาล จำนวน 5,202,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 19,195 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของหนี้รัฐบาล ดังนี้
- เงินกู้ภายใต้แผนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 และการบริหารหนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นสุทธิ 22,836 ล้านบาท เนื่องจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพื่อนำไปลงทุนในการพัฒนาประเทศ สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ จำนวน 26,836 ล้านบาท และไถ่ถอนพันธบัตรออมทรัพย์ 4,000 ล้านบาท
- เงินกู้เพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศเพิ่มขึ้นสุทธิ 3,254 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการกู้ให้กู้ต่อแก่ 1.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 1,423 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจำนวน 507 ล้านบาท สายสีน้ำเงินจำนวน 470 ล้านบาท และสายสีส้มจำนวน 444.99 ล้านบาท
2.การรถไฟแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 1,805 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น จำนวน 713 ล้านบาท โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ จำนวน 333 ล้านบาท โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย จำนวน 324 ล้านบาท โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า – แก่งคอย จำนวน 279 ล้านบาท โครงการการก่อสร้างทางคู่ ช่วงนครปฐม – ชุมพร จำนวน 114 ล้านบาท และโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต จำนวน 41 ล้านบาท และ3.การเคหะแห่งชาติเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 25.14 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการอาคารพักอาศัยแปลง G ตามแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง
- การกู้เงินบาททดแทนการกู้เงินตราต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 840 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน
- การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 8,786 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ
- หนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นสุทธิ 1,049 ล้านบาท จากการเบิกจ่ายเงินกู้สกุลเงินเยนและ การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
2.หนี้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 907,969.04 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 6,677.73 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก
หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เพิ่มขึ้นสุทธิ 482.43 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ ที่เพิ่มขึ้นขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ลดลงสุทธิ 7,160.16 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่ลดลงของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 378,871 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 1,032 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่ลดลงของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
หนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 8,756 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 508 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่ลดลงของสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 6,497,688 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ในประเทศ 6,226,924 ล้านบาท หรือ 95.83% และหนี้ต่างประเทศ 270,764 ล้านบาท (ประมาณ 8,326 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือ 4.17% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และหนี้สาธารณะคงค้างแบ่งตามอายุคงเหลือ สามารถแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาว 5,884,683 ล้านบาท หรือ 90.57% และหนี้ระยะสั้น 613,005 ล้านบาท หรือ 9.43 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด