ฟิลลิป มอร์ริสมุ่งมั่นสร้าง “สังคมไร้ควัน”
วันงดสูบบุหรี่โลกขององค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำปี 2561 ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี ตามรายงานของมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ (ASH Thailand) ในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ประมาณ 50,700 คนในประเทศไทย จากผลการสำรวจล่าสุดประจำปี 2560 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติเกี่ยวกับการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยพบว่าในประเทศไทยยังมีผู้สูบบุหรี่มากกว่า 10.7 ล้านคน หรือราว 19.1 % ของประชากรทั้งหมดในประเทศ
จากการสำรวจข้อมูลย้อนหลังพบว่าอัตราการสูบบุหรี่ในช่วงระหว่างปี 2547 ถึง 2560 ไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญแม้จะมีกฎระเบียบที่เข้มงวดกว่าเดิม อาทิ มาตรการทางภาษี ราคาบุหรี่ที่ปรับตัวสูงขึ้น ภาพคำเตือนสุขภาพที่มีขนาดใหญ่ขึ้นบนซองบุหรี่ และข้อจำกัดด้านการตลาดต่างๆ เนื่องจากเราเห็นได้ชัดว่ายังมีสิ่งที่จำเป็นต้องทำอีกมากเพื่อลดอัตราการสูบบุหรี่ ดังนั้นมาตรการทางเลือกอื่นๆ จึงสมควรได้รับการพิจารณาเพื่อนำมาใช้เสริมด้านกฎระเบียบต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว
ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (”พีเอ็มไอ”) บริษัทแม่ของฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด ได้ประกาศวิสัยทัศน์ระดับโลกในการสร้าง “สังคมไร้ควัน” เป้าหมายของพีเอ็มไอ คือการแทนที่บุหรี่ซิกาแรตด้วยทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้สูบบุหรี่และสังคมผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควัน ซึ่งมีศักยภาพที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงน้อยลงต่อผู้สูบบุหรี่ด้วยการกำจัดการเผาไหม้และควันในบุหรี่ออกไป
เห็นได้ชัดว่าทางเลือกที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงผลกระทบทางสุขภาพอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ก็คือการไม่สูบบุหรี่ตั้งแต่แรก และสำหรับผู้ที่สูบอยู่แล้วก็คือต้องเลิกสูบ ทว่าแม้อันตรายจากการสูบบุหรี่จะเป็นที่ตระหนักกันดี แต่องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่าจะยังคงมีผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกราว 1,000-1,1000 ล้านคนภายในปี 2568 ซึ่งรวมถึง 11.8 ล้านคนในประเทศไทย ดังนั้นผู้สูบบุหรี่คนไทยหลายล้านคนที่จะยังคงสูบบุหรี่ต่อไปสมควรจะมีทางเลือกที่ดีกว่า
วิสัยทัศน์ของพีเอ็มไอคือการนำเสนอทางเลือกให้กับผู้สูบบุหรี่และนำผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควันเข้ามาแทนที่บุหรี่มวนที่มีการเผาไหม้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พีเอ็มไอมุ่งมั่นในระยะยาวต่อการค้นคว้าและวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การพัฒนาและการจัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์ไร้ควันที่ตอบโจทย์และได้รับการยอมรับจากผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่ เราได้ดำเนินการตามแนวทางขององค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) ด้านผลิตภัณฑ์ยาสูบที่มีการปรับเปลี่ยนความเสี่ยง และได้รับแรงบันดาลใจในการทำวิจัยตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมยา
งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สำหรับผลิตภัณฑ์ให้ความร้อนยาสูบแต่ไม่เผาไหม้ของเรานั้น จนถึงปัจจุบันพบว่า:
- ผลิตภัณฑ์ไร้ควันทำให้เกิดไอละออง (ซึ่งไม่ใช่ควันบุหรี่) ที่มีสารประกอบที่เป็นอันตรายและอาจเป็นอันตราย (Harmful or Potentially Harmful compounds: HPHC) น้อยลงโดยเฉลี่ยถึงร้อยละ 90-95 เมื่อเทียบกับควันบุหรี่อันเกิดจากการเผาไหม้จากบุหรี่มวนแบบปกติ
- ไอละอองไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อคุณภาพอากาศภายในอาคารในพื้นที่ที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์แบบไร้ควัน (Heated Tobacco Product) ของเรา
- ในการวิจัยทางคลินิกกับกลุ่มอาสาสมัครในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐฯ พบว่าผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่ที่เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความร้อนใบยาสูบแต่ไม่เผาไหม้ของพีเอ็มไอนั้นมีระดับดัชนีชี้วัดทางชีวภาพ (biomarkers) ของการสัมผัสกับสารประกอบที่ก่อให้เกิดอันตรายหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่มวนแบบปกติต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ดัชนีชี้วัดสารพิษ 15 ประเภทซึ่งเป็นตัวบ่งบอกระดับสารพิษที่ร่างกายได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์ไร้ควันของเรานั้นบ่งชี้ใกล้เคียงกับกลุ่มผู้สูบบุหรี่ที่เลิกบุหรี่ในช่วงของการวิจัย
ผู้สูบบุหรี่หลายล้านคนทั่วโลกกำลังเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ไร้ควันที่มีศักยภาพในการช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของตน ปัจจุบันมีผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่กว่า 5 ล้านคนที่เลิกสูบบุหรี่แล้วเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความร้อนใบยาสูบแบบไร้ควัน ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ชั้นนำของเรา
ในฐานะบริษัทในเครือของพีเอ็มไอ ฟิลลิป มอร์ริส ประเทศไทย มุ่งมั่นในการสร้าง “สังคมไร้ควัน” ในประเทศไทย ด้วยเหตุผลที่ง่าย ๆ ที่ว่า: ผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่จากจำนวนผู้สูบทั้งหมดราว 10.7 ล้านคนในประเทศไทยที่ยังต้องการสูบบุหรี่ต่อไปสมควรได้มีทางเลือกที่ดีกว่า แต่เป็นที่น่าเสียดายที่การห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ไร้ควันและไม่มีการเผาไหม้ในประเทศไทยนั้นทำให้ผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่เหล่านี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบริโภคบุหรี่มวนและยาเส้นมวนเองต่อไป ในขณะที่บางคนก็หันไปหาผลิตภัณฑ์ทางเลือกไร้ควันนี้เองในตลาดที่ผิดกฎหมาย
เราเชื่อมั่นว่านวัตกรรมผลิตภัณฑ์ไร้ควันที่มีศักยภาพทำให้ระดับสารประกอบที่เป็นพิษหรืออาจก่อให้เกิดความเป็นพิษน้อยลงและเป็นที่ยอมรับของผู้สูบบุหรี่นั้นคือสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายด้านสาธารณสุข
ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ผลการวิจัยค้นคว้าด้านนวัตกรรมยาสูบไร้ควันของพีเอ็มไอได้ได้รับการตีพิมพ์และมีการพิจารณาตรวจสอบแล้วถึง 250 ชิ้น หน่วยงานกำกับดูแลอิสระและนักวิทยาศาสตร์จำนวน 20 สถาบันได้สรุปว่าผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ไร้ควันของเรานั้นช่วยลดสารประกอบที่เป็นอันตรายหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายได้อย่างมีนัยสำคัญและมีศักยภาพในการลดความเสี่ยงเมื่อเทียบกับบุหรี่
ด้วยเหตุนี้ ในช่วงวันงดสูบบุหรี่โลกประจำปี 2561 เราใคร่ขอเชิญท่านศึกษาและเข้าเยี่ยมชมผลงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งของพีเอ็มไอและผลงานวิจัยที่เป็นอิสระได้ที่ www.pmiscienc.comเราหวังว่าข้อมูลของเราจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านและเรายินดีที่จะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสำคัญทางสาธารณสุขนี้ในอนาคตต่อไป.