บก.ผ่อนคลายเงื่อนไขการจัดซื้อยา
กรมบัญชีกลางผ่อนคลายเงื่อนไขการจัดซื้อยาเพื่อประโยชน์ของประชาชน
กรมบัญชีกลางผ่อนคลายเงื่อนไขการจัดซื้อยาที่มีวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท สามารถจัดซื้อยาได้ก่อน แล้วนำผลการจัดซื้อมาบันทึกในระบบ e-GP ภายหลัง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐ เริ่มใช้เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ถือเป็นการปฏิรูปการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของไทยให้มีมาตรฐานสากล ป้องกันปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับสาธารณชน โดยยึดหลักการ 4 ประการ คือ คุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และตรวจสอบได้ ที่สำคัญคือ เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและป้องกัน
การทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยหลังจากที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2560 ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (e-GP) อาจจะมีความไม่ชัดเจนบางประการเกี่ยวกับรายละเอียด และวิธีปฏิบัติงานต่างๆ ทั้งนี้ เนื่องจาก
เป็นเรื่องใหม่ที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนต้องศึกษาทำความเข้าใจเรื่องระบบ e-GP กฎระเบียบ
ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง โดยที่ผ่านมากรมบัญชีกลางได้เร่งเดินหน้าประชาสัมพันธ์และเผยแพร่เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ ให้กับ
ทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวาง
นอกจากนี้ เพื่อรับทราบปัญหาและหาแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ กรมบัญชีกลางได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ กรณีการจัดซื้อยา กรมบัญชีกลางได้ประชุมร่วมกับโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทย์ศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อกำหนดกรอบแนวทางที่มีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมต่อการจัดซื้อยาของโรงพยาบาลแล้ว
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อสรุปในเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดซื้อยาของโรงพยาบาล กรมบัญชีกลางได้ผ่อนคลายให้สามารถดำเนินการจัดซื้อยาที่มีวงเงินไม่เกิน 500,000 บาทต่อครั้ง ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งสามารถจัดซื้อยาได้ก่อน แล้วค่อยนำผลการจัดซื้อมาบันทึกข้อมูลในระบบ e-GP ในภายหลัง โดยเริ่มใช้เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา การผ่อนคลายกฎระเบียบดังกล่าวเพื่อให้โรงพยาบาลสามารถจัดซื้อยาได้ทันต่อความต้องการใช้งาน และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางจะเร่งพัฒนาระบบ e-GP ให้สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐมากที่สุด.