อินโดฯมีแผนฉีดวัคซีนสิ้นปี หลังติดเชื้อใหม่ทุบสถิติ
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. อินโดนีเซียระบุว่าจะเร่งแผนฉุกเฉินเพื่อเริ่มฉีดวัคซีนจำนวนมากภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดทุบสถิติในวันเดียวอีก
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อรอยเตอร์ ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด หรือที่มักถูกเรียกว่า ‘โจโควี่’ ระบุว่า แผนการมีความก้าวหน้าไปมากในการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงทั้งประเทศ
หากได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของอินโดนีเซีย หรือที่เรียกกันว่า BPOM จะหมายความว่า อินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากร 270 ล้านคน มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก จะติดอยู่ในกลุ่มประเทศลำดับต้นๆที่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19
“ เราคาดการณ์ว่าจะเริ่มกระบวนการให้วัคซีนได้ภายในสิ้นปีนี้ หลังผ่านการตรวจสอบจาก BPOM ” ผู้นำอินโดนีเซียระบุ
อินโดนีเซียต้องต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มานานหลายเดือน โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ย. อินโดนีเซียมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 5,444 ราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ตัวเลขล่าสุดทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมจากโควิด-19 ในอินโดนีเซียสูงถึง 457,735 ราย สูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า มีแนวโน้มจะมีผู้ติดเชื้อมากกว่านี้เนื่องจากมีอัตราการตรวจหาเชื้อไวรัสต่ำ
นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 104 รายในวันที่ 13 พ.ย. ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 15,037 ราย สูงที่สุดในอาเซียน
“ เราจะกดดันกับตัวเลขผู้ติดเชื้อ จนกระทั่งหยุดนิ่ง และเราจะเริ่มฉีดวัคซีน” โจโควี่กล่าวกับสื่อที่ทำเนียบประธานาธิบดี
โดยโจโควี่ระบุว่า ความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนถือเป็นความสำคัญลำดับต้นๆ และบุคลากรสาธารณสุข ตำรวจและทหารจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีน
ในการประชุมโต๊ะกลมของบรรดารัฐมนตรีหลังการให้สัมภาษณ์ของโจโควี่ รมว.ประสานงานกิจการทางทะเลและการลงทุน ลูฮัต ปันไจตัน ระบุว่า รัฐบาลคาดการณ์ว่า ทาง BPOM จะอนุมัติในสัปดาห์แรกของเดือนธ.ค. และอินโดนีเซียจะเริ่มให้วัคซีนในสองสัปดาห์ถัดไป
วัคซีนที่ผลิตโดย Sinovac ของจีนและ Sinopharm มีการใช้ในระยะแรกของโครงการ โดยในปีนี้ บริษัทจะจัดหาวัคซีนให้ได้ 18 ล้านโดส รวมทั้ง 15 ล้านโดสที่ผลิตโดยบริษัทยาของรัฐบาลคือ Bio Farma
โดยรวมแล้ว อินโดนีเซียได้ทำข้อตกลงในการซื้อวัคซีนกว่า 250 ล้านโดสจนถึงสิ้นปี 2564 ซึ่งรวมถึง 30 ล้านโดสที่ผลิตโดยบริษัท Novavax ของสหรัฐฯ จากคำสัมภาษณ์ของ แอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รมว.ประสานงานด้านเศรษฐกิจ
ในสองไตรมาสที่ผ่านมา เศรษฐกิจอินโดนีเซียหดตัวลงในอัตราที่ชะลอตัวกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค และโจโควี่ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจ “มีความหวัง”
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นโยบายวัคซีนนี้จะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับเศรษฐกิจ นี่เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเรา”