ฟิลิปปินส์ล็อกดาวน์มะนิลาอีกรอบ หลังติดเชื้อพุ่ง
มะนิลา : เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ทางการฟิลิปปินส์จะบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งในและรอบกรุงมะนิลาเป็นเวลานาน 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากประเทศกำลังประสบปัญหาในการควบคุมการติดเชื้อโควิด -19 ที่พุ่งขึ้นจนจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมสูงกว่า 1 แสนรายแล้ว
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตอนุมัติมาตรการที่มีผลบังคับใช้ครอบคลุมมหานครมะนิลาและจังหวัดโดยรอบ เช่น ลากูนา , คาวิเต้ , รีซัล และ บูลาคัน เพื่อให้อยู่ภายใต้การล็อกดาวน์ที่มีชื่อเรียกว่า “Modified Enhanced Community Quarantine” (MECQ) จนถึงวันที่ 18 ส.ค. จากถ้อยแถลงของแฮร์รี โร้ก โฆษกส่วนตัวของเขา
คาดการณ์ว่าบางธุรกิจและบริการขนส่งสาธารณะจะปิดทำการในเมืองหลวง ซึ่งปัจจุบัน อยู่ภายใต้มาตรการกักตัวในชุมชนที่ผ่อนคลายความเข้มงวดลง
เพื่อเป็นการคุมเข้มมาตรการ จำเป็นต้องมีใบอนุญาตในการทำงานและการกักตัว
มีความเคลื่อนไหวจากดูเตอร์เต หลังจาก 80 กลุ่มภาคประชาสังคมที่เป็นตัวแทนของแพทย์ 80,000 คนและพยาบาล 1 ล้านคนทั่วประเทศเรียกร้องใหรัฐบาลมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น โดยระบุว่า ฟิลิปปินส์พ่ายแพ้ให้กับโรคระบาดโควิด-19
“ ผมได้ยินเสียงของพวกคุณ อย่าหมดหวัง เราตระหนักดีว่าพวกคุณเหนื่อยมาก” ผู้นำฟิลิปปินส์ระบุเมื่อวันที่ 2 ส.ค.
โดยเขากล่าวกับบรรดาแพทย์ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้าในระหว่างการแถลงทางโทรทัศน์ หลังจากมีการประชุมกับสมาชิกคณะรัฐมนตรี และคณะทำงานในการบริหารจัดการกับไวรัสโคโรนา
โดยฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 5,032 รายในวันที่ 2 ส.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดในวันเดียวของประเทศ ทำให้จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 103,185 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 20 รายเป็น 2,059 ราย
ทำให้จนถึงตอนนี้ ฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มประเทศอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย
ดูเตอร์เตยังอนุมัติให้มีการจ้างผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ 10,000 คนเพื่อช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในปัจจุบันและเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้บุคลากรทางการแพทย์ที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19
ตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. ดูเตอร์เตประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่ยาวนานและเข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงมะนิลาและจังหวัดอื่นๆเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา
เขาเริ่มผ่อนคลายมาตรการในเดือนมิ.ย.จากความพยายามที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังเผชิญกับภาวะถดถอยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 30 ปี