‘ดูเตอร์เต’ ไม่เปิดร.ร. ถ้าไม่มีวัคซีน
มะนิลา – ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์ระบุว่า เขาจะไม่ยอมให้นักเรียนกลับไปเรียนที่โรงเรียนจนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด -19 ขณะที่บางประเทศเริ่มเปิดเรียนกันบ้างแล้ว
เด็กนักเรียนในฟิลิปปินส์มีกำหนดจะกลับไปเรียนช่วงสิ้นเดือนส.ค. หลังจากมีการสั่งปิดโรงเรียนส่งผลกับเด็กนักเรียนระดับประถมและมัธยมทั่วประเทศกว่า 25 ล้านคนในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมียอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในฟิลิปปินส์
แต่ในการแถลงทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ประธานาธิบดีดูเตอร์เตระบุว่า ยังมีความเสี่ยงสูงมาก หากจะให้นักเรียนกลับไปเรียน “ หากผมไม่แน่ใจว่าปลอดภัยจริง ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงการเปิดเรียน” เขากล่าว “ สำหรับผม ต้องมีวัคซีนก่อน หากมีวัคซีนแล้ว ก็โอเค” เขาเสริม “ หากจะไม่มีเด็กเรียนจบ ก็ต้องเป็นไปอย่างนั้น”
แม้บรรดานักวิจัยทั่วโลกพยายามที่จะเร่งพัฒนาวัคซีน แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนถึงการทดลองและการใช้ได้อย่างแพร่หลาย
ตามปกติแล้ว โรงเรียนจะเปิดเรียนตั้งแต่เดือนมิ.ย. ถึงเดือนเม.ย. ในฟิลิปปินส์ แต่ทางการเลื่อนการเปิดภาคเรียนเนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น และมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ของประเทศถูกระงับ
เพื่อเป็นการผ่อนคลายความหนาแน่นในห้องเรียน กระทรวงศึกษาธิการประกาศมาตรการการศึกษาสำหรับปีการศึกษาหน้า ทั้งการรักษาระยะห่างทางสังคมและการเรียนออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ในฟิลิปปินส์ มีนักเรียนที่ยากจนจำนวนหลายล้านคน ซึ่งไม่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ทำให้ไม่สามารถเรียนออนไลน์ได้
โรคระบาดโควิด-19 ทำให้เด็กๆทั่วโลกต้องอยู่บ้านนานหลายเดือน แต่ในบางประเทศ เริ่มเปิดโรงเรียนแล้ว ทั้งเกาหลีใต้และฝรั่งเศส
จนถึงตอนนี้ ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อกว่า 14,600 ราย และมีผู้เสียชีวิต 886 ราย
ขณะเดียวกัน เพื่อนบ้านในอาเซียนอย่างประเทศไทย ก็ได้ขยายเวลาการบังคับใช้พรก.ฉุกเฉินออกไปอีกเป็นครั้งที่ 2 โดยจะมีผลถึงสิ้นเดือนมิ.ย. แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากฝ่ายค้านให้ยกเลิก เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงมากก็ตาม
ศ.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า การต่อเวลาพรก.ฉุกเฉิน มีความจำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดรอบใหม่
โดยฝ่ายค้านโต้แย้งว่า การบังคับใช้กฎหมายที่ผ่อนคลายลงสามารถจัดการโรคระบาดได้ และในการประชุมสภาเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ฝ่ายค้านยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยถึงความถูกต้องตามกฎหมายของพรบ.กู้เงินมูลค่า 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้เศรษกิจถดถอย