สิงคโปร์ยุติเซอร์กิตเบรคเกอร์ 1 มิ.ย.
สิงคโปร์ – เมื่อวันที่ 19 พ.ค. กระทรวงบูรณาการที่บริหารสถานการณ์โควิด -19 ของสิงคโปร์ประกาศว่า มาตรการเซอร์กิตเบรคเกอร์จะยุติลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิ.ย. โดยระบุว่า เศรษฐกิจจะค่อยๆเปิดทำการในสามระยะ
ในการแถลงข่าวเสมือน ทางคณะทำงานของกระทรวงกำหนดกรอบการเปลี่ยนผ่านสิงคโปร์ให้ออกจากช่วงเวลาที่มีมาตรการที่เข้มงวดอย่างค่อยเป็นค่อยไปมาสู่ชีวิตวิถีใหม่ที่จะคงอยู่จนกว่าจะมีวัคซีน หรือการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับโควิด-19 แต่ย้ำว่าแผนการเปิดธุรกิจจะไม่กลับไปเหมือนช่วงเวลาก่อนเกิดโควิด-19
กานคิมยอง รมว.สาธารณสุขยังชี้ว่า มาตรการหลายระยะจะย้อนกลับไปหากมีการติดเชื้อรอบใหม่เกิดขึ้น เขายังระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเมื่อสิงคโปร์เปิดเมืองอีกครั้ง
“เพราะเราเริ่มมีกิจกรรมอีกครั้ง เราคาดการณ์ว่าจะเห็นผู้ติดเชื้อรายวันที่เพิ่มขึ้น หากเราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เราจะเปิดเมืองอีกครั้งได้อย่างก้าวหน้า”
โดยในระยะแรก ที่เรียกว่า “Safe Re-opening” จะอนุญาตให้ประชาชนกลับไปทำงานได้มากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับภาคส่วนจำเป็นก่อน และธุรกิจที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่ำ
ชานชุนซิง รมว.การค้าและอุตสาหกรรมระบุว่า แต่ผู้ที่ทำงานที่บ้านได้ควรจะทำงานที่บ้านต่อไป เฉพาะผู้ที่ต้องใช้เครื่องจักร หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถกลับไปทำงานที่สถานที่ทำงานได้ รวมถึงผู้ที่จำเป็นต้องทำเอกสารทางกฎหมายให้สมบูรณ์
จะค่อยๆเปิดโรงเรียนตามระดับชั้น โดยจะเปิดเต็มรูปแบบในวันที่ 10 มิ.ย. สำหรับชั้นประถมและมัธยม ผู้ที่กำลังจะจบการศึกษาในปีนี้ จะต้องไปโรงเรียนทุกวัน ขณะที่นักเรียนที่เหลือจะสลับหมุนเวียนกันไปเรียนรายสัปดาห์
ศาสนสถาน ซึ่งถูกปิดไปช่วงมีมาตรการเซอร์กิตเบรคเกอร์ จะได้รับอนุญาตให้เปิดได้ในเดือนหน้า แต่เฉพาะการไปสวดภาวนาส่วนตัว จะไม่มีการประกอบพิธีทางศาสนา
ยังคงห้ามการรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ยกเว้นในกรณีที่ไปเยี่ยมผู้ปกครองหรือญาติผู้ใหญ่ โดยจะจำกัดให้ไปเยี่ยมได้หนึ่งครั้งต่อวัน และไปเยี่ยมได้ 2 คนต่อวัน บรรดาผู้ที่ไปเยี่ยมควรเป็นสมาชิกครัวเรือนเดียวกัน
นี่หมายความว่าอนุญาตให้มีการพาเด็กเล็กไปสถานรับเลี้ยงเด็กได้ แต่ผู้สูงอายุไม่ควรออกจากบ้าน
เขาเสริมว่า ในการผ่อนปรนระยะแรก ความเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นจะสูง หมายความว่าประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัยเวลาออกจากบ้าน และออกไปนอกบ้านเฉพาะทำธุระจำเป็นเท่านั้น
ในระยะสอง ที่เรียกว่า “Safe Transition” ประชาชนจะค่อยๆกลับไปทำกิจกรรมทางสังคมมากขึ้น ธุรกิจเปิดมากขึ้น รวมทั้งสถานกวดวิชาและเพิ่มพูนประสบการณ์ สถานออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม เจ้าของต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างอย่างปลอดภัย และผู้ที่สามารถทำงานที่บ้านได้ก็ยังสามารถทำได้ต่อไป
ในระยะนี้ อนุญาตให้มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆได้ และการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มร่วมกันก็สามารถทำได้ โดยรมว.กานระบุว่า ระยะสองนี้ มีหลายระดับและจะกินเวลาหลายเดือน
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การติดเชื้อว่าจะพัฒนาไปอย่างไร จะมีการผ่อนคลายมาตรการมากขึ้นจนประเทศถึงระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายที่เรียกว่า “Safe Nation”
ในระยะ 3 สิงคโปร์จะก้าวเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) จนกว่าจะมีวัคซีน ในช่วงเวลานั้น คาดการณ์ว่าจะมีการรวมตัวกันทั้งทางสังคม วัฒนธรรม ศาสนา และธุรกิจ อย่างไรก็ตามจะมีการจำกัดจำนวนการรวมตัวของประชาชน
ในบริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งยากที่จะบังคับใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางร่างกาย ผู้โดยสารจึงต้องสวมหน้ากากอนามัยและไม่พูดคุยกัน
ลอเรนซ์ หว่อง รมว.พัฒนาแห่งชาติระบุว่า ขณะที่หลายคนผิดหวังที่ไม่สามารถออกนอกบ้านได้อย่างเสรี หลังยุติมาตรการเซอร์กิตเบรคเกอร์ การเปิดทำการทุกอย่างจำเป็นต้องทำอย่างระมัดระวัง
“เราต้องทำอย่างระวัง เพราะเราไม่อยากให้มีการติดเชื้อไวรัสเพิ่มอีก เราไม่อยากต้องเสียสละความพยายามของทุกคนเพื่อควบคุมการระบาด” เขาระบุ
เขาเสริมว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนธุรกิจและแรงงานที่ไม่สามารถเปิดทำการได้ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้