เวียดนามคลายล็อกดาวน์ คุมไวรัสอยู่
ฮานอย : เมื่อวันที่ 23 เม.ย. เวียดนามคลายมาตรการล็อกดาวน์ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการรับมือไวรัสที่ผ่านมาของประเทศประสบความสำเร็จ สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสได้
แม้จะมีพรมแดนติดกับจีนเป็นระยะทางยาว แต่เวียดนามกลับมีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพียง 268 รายเท่านั้น และไม่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่คนเดียว จากตัวเลขของทางการ
อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนผู้ที่ผ่านการตรวจทดสอบไวรัสจะน้อย และผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ากระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลเป็นแหล่งข้อมูลเพียงแหล่งเดียว แต่พวกเขาก็ระบุว่าไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อตัวเลขเหล่านี้
เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศลำดับแรกๆที่ประกาศห้ามเที่ยวบินจากจีนเข้าเวียดนาม และในช่วงต้นเดือนก.พ. ที่เวียดนามมีผู้ติดเชื้อไม่กี่สิบคน มีคำสั่งปิดหมู่บ้านที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 10,000 คนใกล้กับกรุงฮานอยและกักตัวทุกคนในหมู่บ้านทันที
นอกจากนี้ ยังมีการติดตามสอบสวนโรคอย่างดุดัน โดย Nguyen Trinh Thang ชาวเมืองฮานอย วัย 72 ปีคนหนึ่งอธิบายว่าเขาและทีมในชุมชนของเขามีการทำงานเชิงรุก แม้จะไม่มีผู้ต้องสงสัยหรือสุ่มเสี่ยงว่าติดเชื้อแม้แต่คนเดียว “ เราไปทุกบ้าน เคาะประตูทุกบ้าน”
“ เราทำตามแนวทางของรัฐบาลที่ให้สู้กับโรคระบาดเหมือนกับเราสู้กับศัตรูของเรา”
ทาเคชิ คาซาอิ ผอ.องค์การอนามัยโลกภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตกให้ความเห็นว่า หัวใจสำคัญของความสำเร็จของเวียดนามคือการโน้มน้าวประชาชนให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่
“ พวกเขาทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี ” เขากล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยเสริมว่าเขาเชื่อว่ามีผู้ถูกกักตัวประมาณ 80,000 คน “ผมคิดว่านี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมเวียดนามถึงสามารถคงตัวเลขผู้ป่วยไว้ได้น้อยขนาดนั้น ”
ตอนนี้ แทบไม่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศมาที่เวียดนามและประเทศมีการล็อกดาวน์บางส่วนตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.
ตามถนนหลายสายในกรุงฮานอย ซึ่งตามปกติจะมีแต่รถจักรยานยนต์ นักท่องเที่ยวและคนขายของเต็มไปหมด โล่งว่าง มีแต่ผู้ที่เข้าคิวรอรับแจกข้าวสาร
มาตรการคุมเข้มในช่วงเวลาที่ผ่านมาของเวียดนามเห็นผลแล้วในตอนนี้ หลังจากไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่แม้แต่คนเดียวติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ในวันที่ 22 เม.ย. รัฐบาลระบุว่า ร้านค้าและบริการจำนวนหนึ่งจะได้รับอนุญาตให้เปิดทำการได้อีกครั้ง โดยในวันที่ 23 เม.ย. คาเฟ่บางร้านในกรุงฮานอยเริ่มเปิดให้บริการแล้ว แม้ถนนหลายสายยังคงเงียบอยู่ก็ตาม
ทั่วยุโรปและสหรัฐฯ รัฐบาลท้องถิ่นประสบปัญหาในการควบคุมให้ประชาชนอยู่บ้าน ในหลายรัฐของสหรัฐฯประชาชนออกมาประท้วงไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรการล็อกดาวน์
ตรงข้ามกับเวียดนาม ซึ่งมีการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ สามารถกักตัวคนหลายหมื่นคน รวมทั้งพลเมืองที่กลับจากต่างประเทศ ไว้ที่ค่ายกักกันโรคซึ่งมีลักษณะเหมือนค่ายทหารทั่วประเทศ
ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศไทย ซึ่งรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกตั้งแต่กลางเดือนม.ค. ก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเช่นกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยบรรดาแพทย์ชื่นชมมาตรการที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล เช่น มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในเวลากลางคืน
ในกัมพูชา ตัวเลขผู้ป่วยยังคงอยู่ที่ 122 รายมานานกว่าสัปดาห์แล้ว ขณะที่ในสปป.ลาว ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 19 รายเท่านั้น
แต่ ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก รพ.จุฬาลงกรณ์ในประเทศไทยระบุว่า จำนวนผู้ป่วยยืนยันน้อยในประเทศเพื่อนบ้าน อาจเป็นเพราะมีอัตราการตรวจทดสอบการติดเชื้อไวรัสต่ำ
จนถึงตอนนี้ ไทยมีการตรวจทดสอบไวรัสโควิด-19 ไปแล้วกว่า 142,000 คน ขณะที่กัมพูชาตรวจประมาณ 9,000 คน เวียดนามเองมีการตรวจไปกว่า 180,000 คนจากประชากร 96 ล้านคนทั่วประเทศ