ฟิลิปปินส์ประกาศเคอร์ฟิวในกรุงมะนิลา
มะนิลา : เมื่อวันที่ 14 มี.ค. นายกเทศมนตรีของกรุงมะนิลาประกาศมาตรการเคอร์ฟิวที่ครอบคลุม 16 เขตในเมือง และกำหนดให้ห้างสรรพสินค้าปิดนาน 1 เดือน เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่ทำให้ฟิลิปปินส์มีตัวเลขผู้เสียชีวิตมากถึง 8 รายแล้ว
โดยในวันเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมถึงผู้ป่วยรายหนึ่งทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 8 ราย
ในช่วงบ่าย ยังมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 34 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั้งประเทศฟิลิปปินส์อยู่ที่ 98 ราย
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตประกาศยกระดับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขของประเทศเป็นระดับสูงสุด และประกาศมาตรการกักตัวประชาชนอย่างน้อย 12 ล้านคนให้อยู่แต่ในบ้าน
หากมีการปฏิบัติตามทุกมาตรการในกรุงมะนิลา จะทำให้ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีมาตรการรับมือกับไวรัสที่เข้มงวดมากที่สุดในเอเชีย ในช่วงเวลาที่หลายประเทศในยุโรปและสหรัฐฯกำลังต่อสู้เพื่อควบคุมโรคระบาดที่คร่าชีวิตผู้ป่วยไปแล้วกว่า 5,000 รายทั่วโลก
“ เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัส เราจำเป็นต้องจำกัดการเคลื่อนไหวของผู้คน เรากำลังพยายามชะลอการเคลื่อนไหวของประชาชนในกรุงมะนิลา” โจเซ อาร์ตูโร การ์เซีย กรรมการผู้อำนวยการของกรมพัฒนานครมะนิลาระบุในการแถลงข่าว
โดยพลเมืองในกรุงมะนิลาจำนวนหนึ่งตกค้างอยู่ที่สถานีรถโดยสารและสนามบินก่อนหน้าคำสั่งห้ามเดินทางที่จะเริ่มต้นในวันที่ 15 มี.ค.
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ประธานาธิบดีดูเตอร์เตประกาศคำสั่งห้ามเดินทางเข้าและออกจากกรุงมะนิลา ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. และขยายเวลาปิดโรงเรียนออกไปจนถึงวันที่ 12 เม.ย.นี้
มาตรการเคอร์ฟิวที่ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลากลางคืนจะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. – 4 เม.ย. แต่จะมียกเว้นกับพนักงานบางส่วน การ์เซียระบุ อย่างไรก็ตามเขาเสริมว่า ผู้ฝ่าฝืนจะไม่ถูกกล่าวหา หรือจับกุมตัวแต่อย่างใด
มีการปิดห้างสรรพสินค้าชั่วคราว ยกเว้นร้านค้าที่สำคัญเช่น ร้านขายของชำ ธนาคาร และร้านขายยา ทั้งนี้ กรุงมะนิลามีห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่จำนวนมาก โดยบางห้างมีขนาดใหญ่มากจนติดอันดับโลก.