สิ้นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ในฟิลิปปินส์
เฮนรี ซี ผู้สร้างฐานะจากการขายรองเท้าจนก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ จากโลกนี้ไปแล้วในวัย 94 ปี
เขาเสียชีวิตอย่างสงบในระหว่างที่นอนหลับในช่วงเช้าวันที่ 19 ม.ค. บุตรสาวของเขา เทเรซิตา ซี -โคซอน และโจเซ ซิโอ ประธาน SM Investment Corp.ระบุ
โดยมหาเศรษฐีซีมีทรัพย์สินสุทธิ 7,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 229,032 ล้านบาท อ้างอิงจากดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก ทำให้เขาเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในฟิลิปปินส์
“ เช้านี้ คุณซีได้จากไปอย่างสงบ อย่างชายที่มีความสุขคนหนึ่ง ” ซิโอกล่าว
ปัจจุบัน SM Investment ของเขาเป็นอาณาจักรที่รวมทั้ง SM Retail Inc. ซึ่งดำเนินธุรกิจเชนซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ , SM Prime Holdings Inc. และ BDO Unibank Inc.ในประเทศที่มีประชากรมากถึง 105 ล้านคน ห้างของเขาดึงดูดลูกค้านักช้อปในแต่ละวันเฉลี่ยถึง 3.5 ล้านคน
“ ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่า ท่านเป็นบิดาแห่งวงการค้าปลีกของฟิลิปปินส์” แอสโตร เดล คาสติลโล กรรมการผู้จัดการที่ First Grade Finance Inc.กล่าวยกย่อง “ห้างของท่านทำให้เกิดคอนเซปต์ one – stop – shop ในประเทศนี้ และห้างของท่านไม่เพียงเปลี่ยนรูปแบบการค้าปลีกเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราด้วย”
เฮนรี ซีเกิดที่เมืองเซียะเหมิน ทางตะวันออกเฉียงใต้ในมณฑลฝูเจี้ยนของจีน เขาอพยพมาที่ฟิลิปปินส์ตอนอายุ 12 ปี และเริ่มขายข้าวสาร ปลากระป๋องและสบู่ในร้านของบิดาของเขาในกรุงมะนิลาปี 2476
ร้านขายของชำถูกเผาทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังสงครามเขาเริ่มขายรองเท้าที่นำเข้าจากทหารอเม
ริกัน และเริ่มเปิดร้านขายรองเท้าเล็กๆ ต่อมา เขาก่อตั้ง ShoeMart ซึ่งเป็นเชนร้านรองเท้าติดแอร์ที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ในปี 2501 หลังจากมีร้านรองเท้า 6 แห่ง เขาเริ่มแตกไลน์ธุรกิจขายเสื้อผ้า และในปี 2528 เขาเปิดห้างสรรพสินค้าแห่งแรก
ห้างซึ่งเป็นเรือธงของเขาเปิดในปี 2549 โดยในอาคารมีทั้งลานสเก็ตน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่เท่าสนามแข่งโอลิมปิก มีจอภาพยนตร์ใหญ่เท่าตึก 8 ชั้น และมี 800 ร้านค้า ขณะที่ห้าง SM Prime แห่งที่ 25 ของเขาที่มีมูลค่าในการก่อสร้าง 124 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กลายเป็นช้อปปิ้งคอมเล็กซ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ
ปัจจุบัน SM Prime มีห้าง 72 แห่งในฟิลิปปินส์ ทำให้เป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ หากผมมีโอกาส ผมจะทำอีกครั้ง ทุกครั้งที่ประเทศอยู่ในวิกฤต ผมคิดและตัดสินใจว่าควรไปทางใดมากที่สุด เราต้องคิดตลอดเวลาถึงหนทางที่เราจะก้าวข้ามขีดจำกัดไปให้ได้ ” มหาเศรษฐีซีเคยให้สัมภาษณ์ในเดือนก.ค. 2552