เวียดนามถูกหลอกให้ทำงานในเขตปนเปื้อนฟุกุชิมะ
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกำลังพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ผู้รับการฝึกงานชาวเวียดนาม 3 ราย อาจถูกหลอกให้ทำงานในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ หลังเกิดเหตุภัยพิบัติรุนแรงในปี 2554
สำนักข่าวเจแปน ทูเดย์ อ้างอิงจากสหภาพแรงงานเซ็นโตอิตสึ ซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนชาวต่างชาติฝึกงานในประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า ชายทั้งสามราย เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นในปี 2558 ในฐานะผู้รับการฝึกงานของโครงการฝึกอบรมงานเชิงเทคนิค ที่บริษัทก่อสร้างในเมืองโคริยามา ก่อนที่จะถูกย้ายไปทำงานที่จังหวัดฟุกุชิมะ ในโครงการทำความสะอาดสารปนเปื้อนกัมมันตรังสี ระหว่างปี 2559-2561
ญี่ปุ่นเริ่มโครงการฝึกอบรมงานเชิงเทคนิคในปี 2536 โดยมีจุดประสงค์ที่จะถ่ายทอดความสามารถและทักษะให้กับประเทศกำลังพัฒนา
สำหรับสัญญาระหว่างชายทั้งสาม และบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นระบุเพียงแค่ว่า พวกเขาจะต้องทำหน้าที่ติดตั้งเครื่องหล่อ และวางตำแหน่งเหล็กเสริมคอนกรีตเท่านั้น โดยไม่ได้มีคำอธิบายเพิ่มเติมสำหรับการทำงานกับสารปนเปื้อนเลยแม้แต่น้อย
นอกจากชายทั้งสามแล้ว ยังมีผู้ที่ถูกหลอกในกรณีที่คล้ายคลึงกัน
โดยในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีชายชาวเวียดนามอายุ 24 ปี ที่ทำงานบริษัทก่อสร้างอ้างว่าเขาถูกหลอกให้รับหน้าที่ทำความสะอาดสารปนเปื้อนที่ฟุกุชิมะ และได้ร้องขอค่าชดเชยจากผู้ว่าจ้างของเขา
สหภาพแรงงานเซ็นโตอิตสึระบุว่า ชายคนนี้ควรจะได้รับหน้าที่ในงานวิศวกรรมสาธารณะ แต่กลับถูกย้ายมาทำงานในบริเวณที่มีสารปนเปื้อนแทน ซึ่งทำให้เขาสัมผัสกับกัมมันตรังสีโดยตรง
ชายคนดังกล่าว ซึ่งไม่ประสงค์ออกนามระบุว่า ไม่มีการให้ข้อมูลใด ๆ ว่าเขาจะต้องทำหน้าที่ทำความสะอาดในบริเวณที่มีสารปนเปื้อนหลังจากเกิดเหตุในปี 54
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท ได้ออกมาปฏิเสธเมื่อให้สัมภาษณ์กับทางนิกเคอิ โดยระบุว่า ข้อกล่าวหาของชายคนดังกล่าวไม่เป็นจริง เขาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ของเขาโดยไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จนเกิดภัยคุกคามต่อสุขภาพของเขา
เหตุดังกล่าว สร้างความไม่พอใจเกี่ยวกับโครงการฝึกงานในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยต่างชาติในการสร้างเสริมทักษะด้านเทคนิค แต่กลับถูกเอารัดเอาเปรียบเพื่อทดแทนปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝึมือในประเทศญี่ปุ่น
มาซาโยชิ โยชิโนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการฟื้นฟูของญี่ปุ่นระบุว่า “เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจและผิดกฎหมายอย่างแน่นอน”.