โรฮีนจาหนีตายเข้าบังคลาเทศรอบใหม่
ชาวมุสลิมโรฮีนจาเกือบ 9,000 คน ได้เดินทางหลบหนีเหตุการณ์รุนแรงเลวร้ายที่เกิดขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซ้ำรอยเดิมกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี โดยชาวโรฮีนจาอีกหลายพันคนกำลังเดินทางหลั่งไหลข้ามพรมแดนบังคลาเทศ หรือใกล้จะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
จากการโจมตีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของชาวโรฮีนจาและการปะทะกันในรัฐยะไข่ของเมียนมาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีคลื่นผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาระลอกใหม่ที่เดินทางหลบหนีเข้าบังคลาเทศ
องค์การสหประชาชาติประณามการโจมตีครั้งนี้ แต่ก็กดดันให้เมียนมาปกป้องชีวิตพลเมืองในประเทศโดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ และขอร้องให้บังคลาเทศยอมรับผู้อพยพชาวโรฮีนจาให้ผ่านเข้าประเทศมากขึ้น
“ สถานการณ์น่ากลัวมาก บ้านเรือนถูกเผา ผู้คนวิ่งหนีออกมาจากบ้านของพวกเขา พ่อแม่และลูกถูกพรากจากกัน บางคนสูญหาย หลายคนเสียชีวิต” อับดุลลาห์ ชาวโรฮีนจาวัย 25 จากหมู่บ้านในพื้นที่เมืองบูติเดาว์กล่าวให้สัมภาษณ์สื่อรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ และเขาไม่สามารถสะกดกลั้นอาการร้องไห้ไว้ได้ เขาเล่าว่า เขากำลังเตรียมตัวจะหนีเช่นเดียวกัน
มีอย่างน้อย 109 คนที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะกัน อ้างอิงจากข้อมูลของรัฐบาล โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มติดอาวุธ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและพลเมืองรวมอยู่ในจำนวนนี้ด้วย
การดูแลชาวโรฮีนจาประมาณ 1.1 ล้านคนในเมียนมาเป็นเรื่องท้าทายที่หนักหนาที่สุดของนางอองซาน ซูจี ประธานที่ปรึกษาแห่งรัฐ โดยเธอถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาติตะวันตกว่า ไม่ได้เป็นกระบอกเสียงให้กับชนกลุ่มน้อยซึ่งถูกไล่ล่าทำร้ายมายาวนาน
โดยชาวโรฮีนจาถูกปฏิเสธไม่ได้รับสัญชาติและสิทธิความเป็นพลเมืองเมียนมา จึงยังมีสถานะเป็นผู้อพยพผิดกฎหมาย ถึงแม้จะมีการค้นพบประวัติศาสตร์ย้อนหลังเป็นศตวรรษถึงการดำรงอยู่ของชาวโรฮีนจาในเมียนมาก็ตาม
ความรุนแรงยกระดับให้มีความขัดแย้งมากยิ่งขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยเหตุการณ์เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2559 เมื่อชาวโรฮีนจากลุ่มเล็กๆลงมือทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหาร ก่อให้เกิดปฏิกิกิริยาตอบโต้จากทางกองทัพ ทางยูเอ็นประณามว่า ทหารของกองทัพเมียนมาก่ออาชญากรรมกับชาวโรฮีนจาอย่างทารุณโหดร้าย
อับดุลลาห์ ซึ่งเป็นชาวโรฮีนจาที่ยังอยู่ในเมียนมาเล่าให้ฟังว่า บ้านของชาวโรฮีนจา 4 ใน 6 คนถูกเผาทำลายโดยทหารของกองทัพเมียนมาผลักดันให้หลายคนต้องหนีตายไปบังคลาเทศ ตัวเขา ภรรยา และลูกสาววัย 5 ปีกำลังเตรียมพร้อมที่จะเดินทางไกล 20 ก.ม.ท่ามกลางฝนที่ตกหนักผ่านภูเขาไปที่พรมแดนบังคลาเทศ
จนถึงตอนนี้ บังคลาเทศรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาไปแล้วมากกว่า 400,000 คน ทางบังคลาเทศได้ร้องขอความช่วยเหลือจากยูเอ็นให้กดดันเมียนมาให้พยายามยุติความรุนแรง เนื่องจากทางบังคลาเทศไม่สามารถรับผู้ลี้ภัยเพิ่มได้อีกแล้ว อย่างไรก็ตาม ยูเอ็นรายงานว่า มีชาวโรฮีนจาลงทะเบียนผ่านเข้าพรมแดนบังคลาเทศมากกว่า 8,700 คนเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา.