มหาเธร์เตือนมาเลเซียไม่ควรพึ่งจีนมาก
อดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดของมาเลเซียแสดงความกังวลเมื่อวันที่ 2 พ.ย.เกี่ยวกับการพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งด้านการเงินมากเกินไป เช่น จีน โดยเตือนว่า อาจทำลายอธิปไตยของมาเลเซียได้ในอนาคต
ดร.มหาเธร์แถลงประเด็นนี้ที่การประชุมสภาผู้นำซึ่งมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ชื่อ Parti Pribumi Bersatu Malaysia (PPBM) ซึ่งเขารั้งตำแหน่งประธานพรรค
อ้างอิงจากข้อตกลงที่ลงนามเมื่อวันที่ 1 พ.ย. จีนจะให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่มาเลเซียด้วยวงเงินสูงถึง 55,000 ล้านริงกิตเพื่อสร้างโครงการรถไฟสายชายฝั่งตะวันออก ( ECRL) ความยาว 600 กม.ที่จะเชื่อมกรุงกัวลาลัมเปอร์กับเมืองทัมปัต ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย
โดยการจัดซื้อจัดจ้าง ระบบวิศวกรรม และการก่อสร้างของ ECRL จะเป็นหน้าที่บริหารงานของบริษัท China Communications Construction Company (CCCC) โดยมีนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคเป็นพยาน ในการลงนามใน MOU เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ในระหว่างการเยือนจีนอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ดร.มหาเธร์ยังเตือนถึงอธิปไตยของประเทศ ที่อาจมีจีนเข้ามาก้าวล่วงเพื่อให้มาเลเซียเป็นแนวร่วมของจีนในกรณีพื้นที่พิพาทเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้
“ ดูเหมือนเราจะไม่ได้ยึดมั่นในหลักการเดิมของเรา มาเลเซียไม่ควรเข้าไปยุ่งกับนโยบายของประเทศอื่นๆในภูมิภาคอาเซียนนี้ ” ดร.มหาเธร์กล่าว
“ เราสร้างประชาคมอาเซียนขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่ถ้าเราไม่ปรึกษาเพื่อนบ้านของเรา อาจทำให้เกิดความขัดแย้งในประเด็นการแก้ปัญหานี้ก็ได้ ”
พีเค บาสุ นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคกล่าวว่า มาเลเซียมีจุดยืนที่จะรับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากจีน แต่เขาเสริมว่า มาเลเซียอาจถูกบีบให้เลือกข้างในประเด็นความขัดแย้งเรื่องพื้นที่
“ มาเลเซียอยู่ในสถานะที่ดีที่ได้รับการยอมรับจากทั้งจีนและสหรัฐอเมริกา แต่ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯกำลังสอบสวนกรณีเรื่องกองทุน 1MDB ที่ไม่โปร่งใส ดังนั้นจีนจึงเป้นทางเลือกที่ดี ” นายพีเค บาสุ กล่าว
“ ที่จริงแล้ว คนมาเลเซียสามารถเข้าได้กับทั้งสองฝ่าย และได้ผลประโยชน์จากอีกฝ่ายได้ด้วย แค่ถ้าคุณเอาใจฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมากเกินไป คุณก็จะมีปัญหากับอีกฝ่ายหนึ่ง ” เขากล่าว
หนึ่งเดือนหลังจากตั้งพรรคใหม่ PPBM ที่นำโดยดร.มหาเธร์ และอดีตนายกรัฐมนตรีมุห์ยิดดิน ยัสซิน ตอนนี้ ทางพรรคมีสมาชิกพรรคเกือบ 100,000 คนแล้ว.