อาเซียน-จีน ตึงเครียด
ในขณะที่มีการสู่รบกันในหลายประเทศทั้งรัสเซีย-ยูเครน และสงครามระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ยังไม่สามารถจบลงได้ง่าย ล่าสุด เหตุการณ์เรือชนกันระหว่างเรือยามชายฝั่งจีน และเรือของฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ ได้สร้างความลำบากใจ และยังหาข้อยุติไม่ได้
บรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของประเทศสมาชิกอาเซียนเริ่มต้นการประชุมนัดสำคัญ ณ กรุงจาการ์ตา ในวันนี้ (15 พ.ย.) หลังเกิดการชนกันระหว่างเรือของหน่วยยามชายฝั่งจีนและเรือของฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ และการกระทบกระทั่งกันในเวลาต่อมา ซึ่งเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค
ทั้งนี้ การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ซึ่งมีอินโดนีเซียเป็นประธานในปีปัจจุบัน จะตามมาด้วยการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนพลัส ซึ่งเป็นการหารือเพิ่มเติมกับคู่เจรจาจาก 8 ประเทศของกลุ่ม รวมถึงจีน อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐ ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกให้ความสนใจกับการสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาส
นายปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซียกล่าวในการเปิดการประชุมว่า “ขณะนี้เรากำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงมากมายหลายรูปแบบ ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น”
“ในยุคที่โลกทั้งใบเชื่อมต่อกัน เราจึงได้ตระหนักว่าความขัดแย้งในภูมิภาคหนึ่งสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อพวกเราทุกคน ตอกย้ำความจำเป็นเกี่ยวกับความพยายามร่วมกันทั้งในระดับท้องถิ่นและทั่วโลก”
นายซูเบียนโตกล่าวพร้อมยกตัวอย่างความขัดแย้งความขัดแย้งในยูเครนและตะวันออกกลาง ทั้งนี้ ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นบริเวณทะเลจีนใต้มีแนวโน้มจะเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมครั้งนี้
สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชียรายงานว่า จีนได้อ้างอธิปไตยในทะเลที่เป็นพื้นที่พิพาททับซ้อนกับหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในการประชุมสุดยอดอาเซียนในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา อาเซียนได้พยายามรวบรวมหลักปฏิบัติทางจริยธรรมและจรรยาบรรณในการดำเนินการกับจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางทะเล อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงของประธานอาเซียนในประเด็นดังกล่าวกลับคลุมเครือไม่ชัดเจน โดยระบุเพียงว่า ทางกลุ่มกำลังรอการสรุปข้อตกลงเบื้องต้นที่มีประสิทธิภาพและสาระสำคัญตามกฎหมายระหว่างประเทศ
