โรดริโก ดูเตอร์เต้ชนะเลือกตั้งฟิลิปปินส์
หลังจากเอาชนะคู่แข่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้อย่างดุเดือด นายโรดริโก ดูเตอร์เต้ มีงานหนักรออยู่คือการเอาชนะใจชาวฟิลิปปินส์ทั้งประเทศและบรรดานักลงทุนที่จับตามองอย่างใกล้ชิดว่าเขาจะบริหารจัดการกับเศรษฐกิจของประเทศต่อไปในทิศทางใด
นายโรดริโก ดูเตอร์เต้ อายุ 71 ปี ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 9 พ.ค. หลังจากมีการเปิดเผยโพลล์ออกมาก่อนหน้านี้ว่าเขามีโอกาสจะชนะด้วยคะแนนเสียงที่นำมาประมาณ 39% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
อดีตนายกเทศมนตรีเมืองดาวาวที่ได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลาม มีปณิธานที่จะต่อสู้กับอาชญากรรม ปราบปรามทุจริตและปรับปรุงระบบคมนาคม แต่เนื่องจากเขายังไม่มีวิสัยทัศน์และแผนการเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่เด่นชัด เพราะขาดประสบการณ์ในด้านนี้ จึงส่งผลให้นักลงทุนจับตามองมานานหลายสัปดาห์ในช่่วงเวลาระหว่างการหา
เสียงเลือกตั้ง ค่าเงินเปโซอ่อนค่าลงไป 1.9% ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนที่ผ่านมา และดัชนีในตลาดหุ้นของฟิลิปปินส์ลดลงไป 2.3%
นายจอห์น ฟอร์บส์ ที่ปรึกษาอาวุโสของหอการค้าอเมริกันในฟิลิปปินส์ให้สัมภาษณ์สื่อว่า “เรากำลังจับตามองการบริหารจัดการที่ดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เกือบจะไร้รอยต่อ โดยเฉพาะในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานความท้าทายที่สำคัญอย่างแรกคือโครงสร้างพื้นฐาน เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจจะสร้างอุปสงค์ให้เพิ่มขึ้นอีกมากบนถนน สนามบินและท่าเรือ”
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่เคยถูกมองว่าเป็น “คนป่วย” ของเอเชีย แต่ภายใต้การบริหารประเทศที่มีพลเมืองกว่า 100 ล้านคนของอดีตประธานาธิบดีเบนินโญ อาคิโน กลับได้รับคำชื่นชมจากธนาคารโลกและเปรียบว่าเป็น “เสือผงาด” ในเอเชีย โดยมีตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงถึง 6.2% ต่อปี ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี
อย่างไรก็ตาม อัตราความยากจนของประเทศยังคงสูงอยู่ และนายดูเตอร์เต้ได้สะกิดและปลุกเร้าความไม่พอใจของประชาชนจำนวนมากที่รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้รับประโยขน์จากการปฏิรูปประเทศของอดีตประธานาธิบดีอาคิโน
ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่พุ่งทะยานเร็วขึ้นมากและการสร้างงานถึง 4 ล้านคนในช่วง 6 ปีของวาระการดำรงตำแหน่งของอดีตประธานาธิบดีอาคิโน ช่วยหนุนยอดขายรถยนต์ให้พุ่งสูงขึ้น และยังปลดล็อกเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นายดูเตอร์เต้ได้ส่งสัญญาณเชิงบวกแก่กลุ่มนักลงทุน โดยเขาให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ว่าเขาจะพิจารณาปรับแก้ไขกฎหมายที่จำกัดให้นักลงทุนต่างชาติสามารถถือครองหุ้นในหลายอุตสาหกรรมได้เพียง 40% เพื่อเป็นการเอาใจนักลงทุน เขายังได้ให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน
โดยนายดูเตอร์เต้กล่าวว่า เขาจะแต่งตั้งนายคาร์ลอส โดมิงเกซเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือไม่ก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายโดมิงเกซเคยเป็นเลขานุการกระทรวงเกษตรในคณะรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีคอราซอน อาคิโน เขาเป็นเจ้าของโรงแรมมาร์โคโปโลและเป็นเพื่อนสมัยเด็กของนายดูเตอร์เต้
นอกจากนี้ เขาอาจจะแต่งตั้งนายจีซัส ดูเรซา อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขา ซึ่งเคยเป็นโฆษกรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโยให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมการสันติภาพ และให้นายอลัน คาเยตาโน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เขายังกล่าวว่าคณะรัฐมนตรีของเขาจะเป็นการผสมผสานระหว่างอดีตผู้นำในกองทัพและเพื่อนนักเรียนของเขาอีกหลายคน.