มาเลเซียเจอพิษสุนัขบ้าในรอบ 20 ปี
เด็กชาวมาเลเซีย 2 รายเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า นับเป็นการติดเชื้อจนถึงขั้นเสียชีวิตครั้งแรกจากไวรัส rabies ในช่วงเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ
เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐแทบไม่มีโอกาสได้รักษาเพราะหายากที่จะพบผู้ติดเชื้อจากไวรัสชนิดนี้ อ้างอิงจากการรายงานของทางการเมื่อวันที่ 5 ก.ค.
โดยเด็กหญิงวัย 6 ปีและน้องชายวัย 4 ปีเสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 ก.ค.หลังจากเด็กทั้งสองคนติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ห่างไกลบนเกาะบอร์เนียวของมาเลเซีย
เด็ก 2 คนที่เสียชีวิตอยู่ในกลุ่ม 3 คนที่ถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัส rabies ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับเชื้อเมื่อถูกสุนัขกัด อ้างอิงจากการรายงานของรัฐบาลท้องถิ่นในซาราวักและรัฐมนตรีการเคหะซิมกุยเฮียน
เขากล่าวว่า “ เด็ก 2 ใน 3 ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยเด็กๆมีอาการสมองตายและผู้ปกครองของเด็กเห็นพ้องให้หยุดกระบวนการยื้อชีวิต ”
โดยรัฐมนตรีซิมเสริมว่า ผู้ติดเชื้ออีกรายยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต
นูร์ ฮิชาม อับดุลลาห์ รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า นี่เป็นกรณีการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจนเสียชีวิตครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปีของมาเลเซีย
มีรายงานว่าพื้นที่ 5 หมู่บ้านในเขตเซเรียนของรัฐซาราวัก ซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนอินโดนีเซียบนเกาะบอร์เนียว มีผู้ติดเชื้อจากกการระบาดของโรคนี้
ทั้งนี้ เกาะบอร์เนียวเป็นเกาะที่มีพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ปกคลุมอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยเกาะบอร์เนียวถือเป็นพื้นที่ของ 3ประเทศร่วมกันคือมาเลเซีย อินโดนีเซียและบรูไน นอกจากนี้ เกาะบอร์เนียวยังมีทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
เขากล่าวว่า ทีมสาธารณสุขในเซเรียนได้ลงพื้นที่ 19 หมู่บ้านเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ตรวจเช็คสุขภาพของคนในหมู่บ้านมากกว่า 6,000 คน และมีเพียง 3 คนที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัส rabies
ทางการมาเลเซียออกคำสั่งให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขทุกตัวในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อ สำนักข่าวเบอร์นามาซึ่งเป็นสื่อของรัฐรายงาน
ไวรัส rabies เป็นสาเหตุทำให้สมองและไขสันหลังอักเสบ และผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่มักเสียชีวิต อ้างอิงจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ( WHO) ที่รายงานว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มักเป็นคนยากจนและด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร.