‘ซูจี’ โผล่ศาลครั้งแรกหลังรัฐประหาร
ย่างกุ้ง : เมื่อวันที่ 1 มี.ค. นางอองซานซูจี ผู้นำรัฐบาลเมียนมาที่ถูกโค่นอำนาจ ปรากฎตัวในศาลผ่านวีดีโอลิงค์ ทำให้ทนายความของเธอได้เห็นเธอเป็นครั้งแรกหลังทหารก่อรัฐประหารเมื่อเดือนก่อนและส่งผลให้เกิดการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ
การปรากฎตัวของซูจีมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ผู้ชุมนุมรวมตัวกันเดินขบวนไปตามถนนทั่วประเทศอีกครั้ง เพื่อเป็นการประท้วงตอบโต้ที่ตำรวจปะทะกับผู้ชุมนุมในวันที่ 28 ก.พ.และก่อให้เกิดเหตุรุนแรงถึงแก่ชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจ
โดยในเหตุรุนแรงวันที่ 28 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย เนื่องจากทหารและตำรวจยิงกระสุนจริงเข้าใส่ผู้ชุมนุมในหลายเมืองทั่วเมียนมา จากข้อมูลของสหประชาชาติที่อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้
นางซูจี วัย 75 ปี ยังดูมีสุขภาพดีในการปรากฎตัวเมื่อวันที่ 1 มี.ค. จากคำให้สัมภาษณ์ของทนายความ Khin Maung Zaw
ในระหว่างการไต่สวน เธอถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมจากประมวลกฎหมายอาญาฉบับที่เมียนมายังเป็นอาณานิคม ซึ่งห้ามการเผยแพร่ข้อมูลที่ “อาจก่อให้เกิดความกลัว หรือตื่นตระหนก” จากข้อมูลของทนายความ Min Min Soe
ทนายความเสริมว่า เธอได้ขอพบทีมกฎหมายของเธอในระหว่างการไต่สวน และจะมีการพิจารณาคดีครั้งต่อไปในวันที่ 15 มี.ค.
ทั้งนี้ นางซูจีถูกควบคุมตัวในกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของประเทศ ตั้งแต่ช่วงรุ่งสางของวันที่มีการทำรัฐประหาร และไม่เคยปรากฎตัวต่อสาธารณชนอีกเลย
มีรายงานว่าเธอยังคงถูกกักตัวในบ้านที่กรุงเนปิดอว์ ซึ่งเป็นเมืองโดดเดี่ยวที่กองทัพสร้างขึ้นในระหว่างการปกครองแบบเผด็จการทหารก่อนหน้านี้
สาเหตุสำคัญที่มีการยึดอำนาจคือพรรคการเมืองของนางซูจี คือพรรค NLD ชนะการเลือกตั้งในสมับที่ 2 เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้วอย่างถล่มทลาย และที่นั่งในสภาของพรรคทหารลดลง
หลังทหารยึดอำนาจ มีการชุมนุมประท้วงผุดขึ้นตามหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนางซูจีและสมาชิกครม.คนอื่นๆ
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองประเมินว่า มีผู้เสียชีวิตประมาณ 30 รายจากน้ำมือเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. และมีการจับกุม ตั้งข้อหาและตัดสินลงโทษประชาชนไปแล้วกว่า 1,100 ราย
มีการประท้วงอีกครั้งในหลายเมืองทั่วประเทศในวันที่ 1 มี.ค. โดยในเมืองย่างกุ้ง ผู้ชุมนุมใช้เสาไม้ไผ่ โซฟาและกิ่งไม้มาปิดกั้นถนนหลายสาย
ในการถ่ายทอดสดเหตุการณ์ความรุนแรงบนเฟซบุ๊ก จะเห็นภาพผู้ชุมุนุมวิ่งหนีหลังมีการยิงออกมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริงหรือกระสุนยาง
แอนโธนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯแสดงท่าทีชัดเจนกับเหตุสลายการชุมนุมรุนแรงในวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา
“เราขอประณามความรุนแรงของฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐของพม่าที่กระทำต่อประชาชนชาวพม่า และขอให้แสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำ” บลิงเคนทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ โดยเรียกประเทศเมียนมาด้วยชื่อเดิม