NEWS

ดูแล้ว: 46 “อภิศักดิ์” ชง ครม.ยกเลิกจ่ายเงิน 30 บาท โครงการ 30... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 29 ซิตี้แบงก์เผยมีศูนย์ป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์เป็นการเฉพาะ มั่นใจปลอดภัยจากการถูกล้วงข้อมูล เนื่องจากเน้นลงทุนรูปแบบต่างๆ ทั่วโลก พร้อมให้ความร่วมมือทุกองค์กรในไทยและระดับสากล นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผูจัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวถึงกรณีแฮกเกอร์ต่างชาติเจาะฐานข้อมูลลูกค้าของระบบธนาคารพาณิชย์ในไทย ว่า ซิตี้แบงก์เป็นโกลบอลแบงก์กิ้งที่มีธุรกรรมข้ามชาติและมีลูกค้าอยู่ทั่วโลก แน่นอนว่าต้องเจอกับปัญหาที่กลุ่มแฮกเกอร์พยายามเข้ามาเจาะฐานข้อมูลของธนาคารฯ แต่เพราะซิตี้แบงก์เป็นธนาคารใหญ่ มีผู้เชี่ยวชาญด้านระบบป้องกันทางด้านเทคโนโลยี (Security Technology) มากมายและมีมาตรฐานระดับโลกคอยตรวจสอบระบบเทคโนโลยีต่างๆ และฐานข้อมูลทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา จึงไม่ประสบปัญหาในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด “ซิตี้แบงก์เป็นธนาคารระดับโลกที่มีศูนย์บัญชาการ (Security Technology Center) มีเทคโนโลยีและระบบการดูแลตัวเองจากการโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์เป็นการเฉพาะ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าทั่วโลกเกิดความมั่นใจได้ว่าข้อมูลของพวกเขาและของธนาคารฯจะไม่รั่วใหลไปอย่างเด็ดขาด” นางวีระอนงค์กล่าว และว่า ธนาคารฯพร้อมให้ความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาจากการเจาะฐานข้อมูลของแฮกเกอร์ นอกจากนี้ ในระดับสากล ธนาคารฯยังแลกเปลี่ยนความเห็นและข้อมูลกับสถาบันและองค์กรระหว่างประเทศอีกด้วย ด้านนายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผูจัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ กล่าวเสริมว่า ซิตี้แบงก์ให้ความสำคัญกับการสร้างระบบป้องกันตัวเอง เนื่องจากเป็นธนาคารข้ามชาติที่มีธุรกรรมอยู่ทั่วโลก และให้ความสำคัญกับการลงทุนรูปแบบต่างๆ ในต่างประเทศ ไมว่าจะเป็นหุ้น กองทุนรวม และการลงทุนรูปแบบอื่นๆ ดังนั้น การมีระบบป้องกันการโจมตีของแฮกเกอร์จึงเป็นสำคัญและจำเป็น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนในทั่วทุกภูมิภาคของโลก.... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 55 ซิตี้แบงก์ เปิดตัว 4 บริการใหม่ของ “ซิตี้โกลด์” จับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบริการความมั่งคั่งอย่างชาญฉลาดพร้อมเปิดตัว “สู่ขวัญ บูลกุล” แบรนด์ แอมบาสเดอร์” คนใหม่ของประเทศไทย นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผูจัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทย กล่าวว่า ซิตี้แบงก์เป็นธนาคารต่างชาติรายเดียวที่ทำธุรกิจในไทยมากว่า 50 ปีและยังคงให้บริการกลุ่มลูกค้ารายย่อย และบริการบริหารความมั่งคั่ง หรือ ซิตี้โกลด์ เป็นอีกบริการที่มุ่งเน้นการจัดการอย่างชาญฉลาด โดยมีที่ปรึกษาด้านการลงทุนและผู้จัดการดูแลบัญชี รวมถึงยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์จากทั่วโลกกว่า 400 คนคอยเกาะติดสถานการณ์ที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของลูกค้าที่วันนี้ เริ่มให้ความสำคัญกับการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น  จากข้อมูลพบว่าฐานลูกค้าที่สนใจลงทุนกับซิตี้โกลด์มีอายุเฉลี่ยลดลงจากเดิม 40 ปีขึ้นไป เป็น 30 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและสนใจข่าวสารข้อมูลด้านการลงทุนมากขึ้นอีกทั้งยังเป็นกลุ่มคนที่สนใจการวางแผนทางการเงิน เพื่อสร้างอนาคตที่มั่งคง จึงลงทุนและปรับพอร์ตการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสและกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน ทั้งนี้ มีลูกค้าที่ให้ความสำคัญลงทุนในต่างประเทศราว 30,000 ราย โดยธนาคารฯหวังจะเห็นการเติบโตในปีนี้ราว 25-30% หลังจากปีก่อนมีอัตรการเติบโต 30% นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผูจัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ กล่าวเสริมว่า ธนาคารฯ ยังออกแบบบริการรายย่อยผ่านบริการดิจิทัลต่างๆ เช่น ระบบ Total Wealth Advisor ช่วยตั้งเป้าหมายการลงทุน หรือระบบ Citi... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 35 ธนชาตเชื่อมั่นผู้ร่วมทุนต่างชาติ เซ็ทระบบความปลอดภัยระดับสากล สกัดแฮกเกอร์เจาะข้อมูล มั่นใจทุกแบงก์ผนึกหน่วยงานรัฐดึงความเชื่อมั่นลูกค้า นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต กล่าวว่า แม้วงการธนาคารพาณิชย์จะเกิดปัญหาการเจาะข้อมูลลูกค้าจากแฮกเกอร์ต่างชาติ แต่ในส่วนของธนาคารฯไม่รู้สึกกังวลใจและยังไม่เจอกับปัญหาดังกล่าว ส่วนหนึ่งเพราะธนาคารฯมีผู้ร่วมทุนเป็นต่างชาติ ที่มีความรู้และเชี่ยวชาญทางด้านซีเคียวริตี้เทคโนโลยี มาคอยดูแลระบบฐานข้อมูลและเทคโนโลยีของธนาคารฯอยู่ตลอดเวลา “ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต่างให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยด้านดิจิทัลเทคโนโลยี และเฝ้าจับตามองเรื่องดิจิทัลริคส์อย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมาเรามีระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลและองค์ความรู้ร่วมกันมาตลอด เพียงแต่จากนี้ไปธนาคารพาณิชน์ต้องเพิ่มระดับความเข้มข้นให้มากขึ้น ทำให้เนี๊ยบและเนียนยิ่งขึ้น” นายสมเจตน์กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นและไว้ใจในระบบสถาบันการเงินของไทยว่าจะมีความมั่นคงและปลอดภัย เชื่อว่าจากนี้ไปธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งจะเพิ่มน้ำหนักการดูแลระบบรักษาความปลอดภัยได้ดียิ่งขึ้น มีมาตรฐานระดับสากลมากขึ้น ซึ่งในส่วนของธนาคารฯนั้น มีการนำระบบรักษาความปลอดภัยทั้งในมาตรฐานไทยและมาตรฐานสากลมาใช้ ควบคู่กับการเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากต่างประเทศมาทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวของธนาคารฯอย่างต่อเนื่อง.... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 45 ไทยพาณิชย์พร้อมรับมือแฮกเกอร์ ยืนยันลงทุนระบบรักษาความปลอดภัยไม่น้อยกว่าเทคโนโลยี เชื่อฟินเทคเป็นเทรนด์ที่ทุกแบงก์ต้องนำมาให้บริการลูกค้า นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีแฮกเกอร์ต่างชาติเจาะฐานข้อมูลลูกค้าของระบบธนาคารพาณิชย์ ว่า เป็นสิ่งที่ธนาคารฯให้ความสำคัญอย่างที่สุด ต่อการสร้างระบบการป้องกันความปลอดภัย ทั้งต่อระบบฐานข้อมูลของธนาคารฯและของลูกค้า แม้ธนาคารฯจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาและนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเฉพาะดิจิทัลเทคโนโลยีมาให้บริการในรูปแบบของดิจิทัลแบงกิ้ง แต่ก็ไม่ละเลยที่จะลงทุนทางด้านเทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัย (ซีเคียวริตี้เทคโนโลยี) ไปพร้อมกันด้วย ทั้งนี้ ธนาคารฯตระหนักดีกว่าเทคโนโลยีที่ทันสมัย ย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาในอนาคต แต่จะพยายามควบคุมให้ความเสี่ยงทางด้านเทคโนโลยีให้มีหรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด ทั้งนี้ธนาคารฯได้ลงทุนทางด้านซีเคียวริตี้เทคโนโลยี ไปไม่น้อยไปกว่าที่ได้ลงทุนในระบบดิจิทัลเทคโนโลยีเพราะเป้าหมายของระบบสถาบันการเงินทุกแห่ง คือการนำเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) ที่ดีที่สุดมาให้บริการแก่ลูกค้าเพื่อความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยจึงต้องลงทุนพัฒนาและนำซีเคียวริตี้เทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้เพื่อสร้างระบบการป้องกันที่ดีและเหมาะสมที่สุดเช่นกัน.... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 70 กสิกรไทยพบแฮกเกอร์เจาะข้อมูลลูกค้า เผยได้แค่ข้อมูลพื้นฐานที่เอาไปขยายผลสร้างความเสียทางเศรษฐกิจไม่ได้ ระบุแจ้งแบงก์ชาติแล้ว พร้อมเป็นตัวกลางดึงทุกแบงก์วางมาตรการป้องกันสูงสุด วอนลูกค้าและประชาชนอย่ากังวลใจ ยืนยันพร้อมยกระดับการป้องกันความปลอดภัยสูงสุด นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย พร้อมด้วยuผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เปิดแถลงข่าวด่วนภายหลังหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กรณีมีกลุ่มแฮกเกอร์ต่างประเทศเข้ามาเจาะข้อมูลส่วนหน้าในส่วนที่เกี่ยวกับการให้บริการหนังสือค้ำประกันออนไลน์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หลังจากธนาคารฯทราบเรื่องจึงได้ดำเนินการปิดช่องโหว่ ด้วยการปิดระบบข้อมูลทันที ก่อนจะเปิดให้บริการใหม่อีกครั้งในอีก 1 ชม.ต่อมา ภายหลังมีความมั่นใจว่าระบบการป้องกันของธนาคารฯสามารถปกป้องการโจมตีจากแฮกเกอร์ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม จากนี้ธนาคารฯคงต้องเพิ่มระบบการป้องกันให้เข้มข้นขึ้น ทั้งการอhบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องและการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ตรวจสอบ รวมถึงเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาช่วยวางระบบป้องกัน เบื้องต้นพบว่าอาจมีรายชื่อของลูกค้าที่ใช้บริการหนังสือค้ำประกันออนไลน์ราว 3,000 คนที่ธนาคารฯจะต้องติดต่อและแจ้งให้ทราบ เพื่อมิให้เกิดความตื่นตระหนกกับสถานการณ์นี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่แฮกเกอร์กลุ่มนี้เจาะเข้า เป็นเพียงข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อบริษัท ประเภทธุรกิจ ที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ฯลฯ ซึ่งไม่สามารถนำไปใช้เพื่อสร้างความเสียหายใดๆ ได้ “ธนาคากสิกรไทยพร้อมจะเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะต้องการสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้าและสาธารณชน ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหาแนวทางช่วยเหลือและป้องกัน รวมถึงดึงเอาความร่วมมือของธนาคารต่างๆ มาเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการทำธุรกรรมออนไลน์ (ดิจิทัล แบงกิ้ง) ยังคงเป็นแนวทางที่ธนาคารทุกแห่งต้องดำเนินการต่อไป จึงไม่อยากให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปเกิดความวิตกกังวลใจ” นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ประธาน KBTG กล่าวว่า ธนาคารฯยังคงเฝ้าระวังความผิดปกติของบัญชีลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเบื้องต้น น่าจะเกิดจากกลุ่มแฮกเกอร์มีความพยายามจะเจาะข้อมูลเข้าระบบของหน่วยงานต่างๆ มาตลอด อย่างไรก็ตาม ธนาคารฯพร้อมจะยกระดับการป้องกันความปลอดภัยทางด้านนี้เพื่อให้ได้ตามมาตรฐานสากลต่อไป.... อ่านต่อ