NATIONAL

ดูแล้ว: 17 กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมลงพื้นที่ 4 จังหวัช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด พร้อมเปิดคลินิกอุตสาหกรรมเคลื่อนที่ “ทำทันที” ซ่อม... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 31 คปภ.พร้อมดันประกันอุบัติเหตุ (PA) นำร่องกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.6 ล้านคน หาก “คลัง-รัฐบาล” ไฟเขียวงบหลวงล็อตแรก 4,000 ล้านบาท ส่วนประกันสุขภาพ-ประกันชีวิต งบสูงอาจล่าช้า เหตุต้องให้ภาคเอกชนอยู่ได้ด้วย ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวถึงนโยบายเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.6 ล้านคน เข้าถึงระบบประกันภัย ตั้งแต่ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) การประกันชีวิต และประกันสุขภาพ ครอบคุมโรคร้ายแรงบางชนิด ว่า เป็นเรื่องดีและทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น คปภ.หรือธุรกิจประกันภัย ต่างเห็นด้วยในหลักการจากนโยบายของรัฐบาล เพียงแต่บางเรื่องต้องหารือในรายละเอียด ขณะที่บางเรื่อง โดยเฉพาะในส่วนของ PA หากนำมาใช้ร่วมกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่รัฐบาลมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว สามารถดำเนินการได้ทันทีที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณตามที่ได้เสนอไป “ผมได้เสนอโครงการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือ PA ไปให้ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้พิจารณาแล้ว ซึ่ง PA ถือเป็นการประกันภัยที่ไม่สลับซับซ้อนอะไรมากนัก หาก สศค.เห็นด้วยกับข้อเสนอของ คปภ. โดยเฉพาะงบประมาณที่เสนอไป ก็สามารถดำเนินการได้ทันที” สำหรับเบี้ยประกันฯที่ คปภ.ได้เสนอไปมีหลายแนวทาง แต่แนวทางที่มีความเป็นไปได้ คือ การกำหนดเบี้ยประกันฯขั้นต่ำที่ 60 บาท/ปี หรือ 5 บาท/เดือน เพียงแต่จะไม่ครอบคลุมการจ่ายเงินชดเชย กรณีเกิดอุบัติเหตุและต้องเข้ารับการรักษาตัว ซึ่งหากให้ครอบคลุมในส่วนนี้ ค่าเบี้ยประกันฯอาจขยับขึ้นเป็น 99 บาท/ปี หรือ 8 บาทเศษ/เดือน โดยครอบคลุมเงินชดเชยได้ 200-300 บาท/วัน เลขาธิการ คปภ.ย้ำว่า รูปแบบการทำ “พูลลิ่ง” หรือการประจายความเสี่ยงที่ใช้กับการทำประกันภัยข้าวนาปี จนประสบผลสำเร็จตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะถูกนำไปเป็นต้นแบบให้กับการทำประกันภัยอื่นๆ โดยเฉพาะ PA รวมถึงการประกันสุขภาพ การประกันชีวิต และประกันภัยใหม่ๆ ที่จะมีตามมาในอนาคต “ฝ่ายนโยบายที่เคยกังวลใจว่าการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการทำประกันภัยให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อาจทำให้ผลประโยชน์ไปตกอยู่กับบางบริษัทประกันภัยได้ แต่พอ คปภ.อธิบายถึงรูปแบบ “พูลลิ่ง ซิสเต็ม” ที่ประสบผลสำเร็จกับการประกันภัยข้าวนาปีมาแล้ว ทำให้ฝ่ายนโยบายรู้สึกเบาใจ และมีแนวโน้มจะสั่งการให้ดำดนินการขับเคลื่อนโครงการที่จะนำระบบประกันภัยไปสู่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและคนฐานรากของประเทศได้เข้าถึงสวัสดิการดีๆ เช่นนี้” ในส่วนของการประกันสุขภาพและประกันชีวิตนั้น จากการศึกษาพบว่าผลิตภัณฑ์ของทั้ง 2 ตัวมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกัยรายได้ของประชาชนและไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงมากนัก จำเป็นจะต้องสร้างระบบประกันสุขภาพและประกันชีวิตให้กับคนฐานรากผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ เพียงแต่ค่าเบี้ยประกันฯคงต้องเป็นราคาที่เหมาะสมและทุกฝ่ายยอมรับได้ ขณะที่กลุ่มคนที่มีความพร้อมทางการเงินก็ยังคงซื้อระบบประกันสุขภาพและประกันชีวิตระดับพรีเมี่ยมต่อไป... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 31 พีดีเฮ้าส์ หวั่นสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่โดยเฉพาะภาคอีสาน กระทบลูกค้ารับสร้างบ้านชะลอการตัดสินใจ พร้อมเดินหน้าปลุกกำลังซื้อหลังน้ำลด ชูแบบบ้านคอนเซปต์ “บ้านปกป้องน้ำท่วม”ตอบโจทย์ลูกค้า เผยยอดขายสิ้นปีตามเป้า1,200... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 29 ธ.ก.ส. พร้อมจ่ายเงินตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 62/63  ราคาประกันผลปาล์มทะลาย (คุณภาพน้ำมัน 18%) กิโลกรัมละ 4 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาผลผลิตปาล์มล้นตลาดและราคาตกต่ำ เริ่มโอนงวดแรก 1 ต.ค. นี้ กว่า 2.5 แสนราย เป็นเงิน 1,351 ล้านบาท นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวการจ่ายเงินประกันรายได้งวดแรกให้แก่เกษตรกรตาม “โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 62/63” โดยมีนายศรายุทธ ยิ้มยวน รอง ผจก.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้าร่วมงาน ณ บริเวณวงเวียนริมน้ำ ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์ ถ.นนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 1 ต.ค.62 ทั้งนี้ รอง ผจก. ธ.ก.ส. กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ส.ค.62 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 62/63 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรอันเนื่องมาจากปัญหาผลผลิตปาล์มล้นตลาดและราคาผลผลิตตกต่ำ โดยกำหนดรายได้ที่เหมาะสมที่เกษตรกรควรได้รับจากการขายผลปาล์มทะลาย (คุณภาพน้ำมัน 18%) ที่กิโลกรัมละ 4 บาท ซึ่งเกษตรกรที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ  กรมส่งเสริมการเกษตร มีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยตามพื้นที่ที่ปลูกจริง แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่ และเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้วมีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปี ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน ก.ย.62 – ก.ย.63 โดยคณะอนุกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 62/63 จะทำหน้าที่กำหนดราคาตลาดอ้างอิง เพื่อใช้ในการคำนวณเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างอัตราประกันรายได้ กับราคาตลาดอ้างอิง เพื่อแจ้ง ธ.ก.ส. ใช้เป็นข้อมูลในการคำนวณเงินชดเชยส่วนต่างและโอนเงินให้แก่เกษตรกรต่อไป สำหรับในวันนี้ราคาตลาดอ้างอิงผลปาล์มทะลาย (คุณภาพน้ำมัน 18%) กิโลกรัมละ 2.68 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างกิโลกรัมละ 1.32 บาท ในครั้งนี้จะมีเกษตรกรที่มีคุณสมบัติถูกต้องได้รับเงินทั้งสิ้น 254,730 ราย เป็นเงิน 1,351 ล้านบาท สำหรับขั้นตอนในการจ่ายเงินประกันรายได้ เมื่อ ธ.ก.ส. ได้รับข้อมูลจากกรมส่งเสริมการเกษตร   จะทำการประมวลข้อมูลพื้นที่การผลิต คำนวณปริมาณผลผลิต และเลขที่บัญชีเงินฝากของเกษตรกร เมื่อได้รับแจ้งราคาตลาดอ้างอิง  ธ.ก.ส.จะทำคำนวณเงินชดเชยตามสิทธิ์  และจะทำการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรโดยตรง โดยกำหนดเป็นงวด ๆ ละไม่น้อยกว่า 45 วัน เริ่มจ่ายเงินงวดแรกในวันที่ 1 ต.ค. 62 งวดต่อไปจ่ายในวันที่ 1 หรือ 16 หากตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะเลื่อนกำหนดจ่ายเร็วขึ้น (วันทำการก่อนวันหยุด) ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ที่ Link: http://chongkho.inbaac.com.... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 38 คปภ.หวังดัน “หัวไทร” เป็นต้นแบบประกันภัยข้าวนาปีของภาคใต้ ตั้งเป้าดันชาวนาทำประกันฯครบ 100% แจงเหตุที่ต้องลงพื้นที่ช่วงนี้ หวังเร่งทำประกันฯก่อนเกิดภัยธรรมชาติ ตั้งเป้าจ่ายสินไหมฯทั้งปี 2,000 ล้านบาท เผยอยากให้รัฐบาลวางแผนระยะยาว สร้างความเชื่อมั่นแก่ทุกฝ่าย ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวในการประชุมรับฟังความคิดเห็นเกษตรกร โครงการประกันข้าวนาปีฯ ประจำปี 2562 ณ หอประชุมที่ว่าการ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 ต.ค.62 ว่า อยากใช้กรณีการทำประกันภันข้าวนาปีของ อ.หัวไทร เป็น “ต้นแบบ” ให้กับพื้นที่อื่นๆ ในภาคใต้ นอกจากมีพื้นที่ทำนามากกว่า 80,000 ไร่ ใหญ่ที่สุดของภาคใต้แล้ว ที่นี่ยังมีสัดส่วนการทำประกันภัยข้าวนาปีสูงถึง 96.41% ในปี 61 โดยตั้งเป้าว่าปี 62 นี้ จะรณรงค์ให้เกษตรกรทำประกันภันข้าวนาปีให้ได้ถึง 99.99% -100% ทั้งนี้ จากพื้นที่เป้าหมายที่รัฐบาลต้องการทำประกันภัยข้าวนาปีในปีนี้ 30 ล้านไร่ และได้ทำมาแล้วในพื้นที่ภาคต่างๆ รวมกัน 27.99 ล้านไร่ ทำให้เหลือพื้นที่ในเป้าหมายอีกกว่า 2 ล้านไร่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพื้นที่การทำนาข้าวในภาคใต้มีไม่มาก คาดว่าจะมีการทำประกันภัยข้าวนาปีทั้ง จ.นครศรีธรรมราช, จ.ชุมพร, จ.พัทลุง และจ.นราธิวาส รวมกันประมาณ 800,000 ไร่ ซึ่งจะทำให้การทำประกันข้าวนาปีของทุกภาครวมกันราวมากกว่า 28 ล้านไร่ อย่างไรก็ตาม แม้จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ 30 ล้านไร่ แต่ก็สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา “การทำนาข้าวของภาคใต้ ล่าช้ากว่าทุกภาคของประเทศ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่แตกต่างออกไป ซึ่งจากประสบการณ์ที่ได้เห็นปัญหาของภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นวาตะภัยหรืออุทกภัย และมักจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.ของทุกปี ดังนั้นสำนักงาน คปภ.จึงต้องเร่งลงพื้นที่เพื่อเชิญชวนให้ชาวนาเร่งดำเนินจัดทำประกันข้าวนาปีโดยเร็ว อย่างน้อยก็เป็นการบรรเทาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต” เลขาธิการ คปภ.ย้ำ และว่า ที่ผ่านมาได้มีการจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้กับความสูญเสียที่เกิดจากภัยพิบัติทั้ง 8 ประเภทรวมกันกว่า 1,800 ล้านบาท คาดว่าทั้งปี 62 นี้ อาจต้องจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนรวมกัน 2,000 ล้านบาท “เรามาเตือนและเชิญชวนให้พี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนาเร่งทำประกันภัยข้าวนาปีในช่วงสุดท้ายของโครงการในปีนี้ เพราะเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อชาวนาเอง ทั้งนี้ เบี้ยประกัน (ในส่วนความคุ้มครองพื้นฐาน) ต่อไร่ที่ 85 บาท/ไร่นั้น รัฐบาลออกให้แล้ว 51 บาท ที่เหลือ 34 บาท/ไร่ หากเป็นลูกค้าของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทาง ธ.ก.ส.จะออกให้เอง โดยชาวนาไม่ต้องเสียเงินสักบาทเดียว แต่ได้รับความคุ้มครอง 1,260 บาท/ไร่ แต่ถ้าไม่ใช่ลูกค้าของ ธ.ก.ส. ชาวก็ต้องออกเงินในส่วนนี้เอง” เลขาธิการ คปภ. กล่าวอีกว่า ชาวนายังสามารถจะซื้อความคุ้มครองส่วนเพิ่มได้อีก ในราคา 25 บาท/ไร่ โดยจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มเติม 240 บาท/ไร่ กรณีเกิดความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และ 120 บาท/ไร่ กรณีเกิดความเสียหายจากศัตรูพืชหรือโรคระบาด ทั้งนี้ ในอนาคตอันใกล้ สำนักงาน คปภ.อาจนำ “ระบบประกันภัยแบบแพ็กเกจ” ซึ่งจะรวมสินค้าเกษตรที่มีกระบวนการผลิต การบำรุงรักษา และเก็บเกี่ยวที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน มารวมเป็นผลิตภัณฑ์ประกันเดียวกัน เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินการและการทำประกันภัยต่อไป... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 18 มั่นคงเคหะการฯ รุกตลาดไตรมาสสุดท้ายปลายปี 2562 ปั้น 4 โครงการ บ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม รวมมูลค่าทั้งหมด 4,560  ล้านบาท ประเดิม 2 โครงการแรก โซนฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก – ตะวันตก... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 24 รัฐบาลเดินหน้า “สถาบันการเงินประชาชน” หลังคลอด กม.และเริ่มบังคับใข้เมื่อปลายเดือน ส.ค.62 เผยคณะกรรมการพัฒนาระบบสถาบันการเงินประชาชนรับบูก เร่งออกประกาศกำหนดองค์กรการเงินชุมชน ธนาคารผู้ประสานงาน และหลักเกณฑ์การดำเนินงานเบื้องต้น หวังขับเคลื่อนเต็มที่ นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน และรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจาก พ.ร.บ.สถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. 2562 เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 ส.ค.62 ได้มีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบสถาบันการเงินประชาชน ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 29 ส.ค.62 และต่อมาคณะกรรมการฯ ได้ออกประกาศจำนวน 5 ฉบับ เพื่อกำหนดองค์กรการเงินชุมชน ธนาคารผู้ประสานงาน และหลักเกณฑ์การดำเนินงานเบื้องต้นของสถาบันการเงินประชาชนเพื่อให้สอดคล้องตาม พ.ร.บ.สถาบันการเงินประชาชน ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 25 ก.ย.62 มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.62 เป็นต้นมา ประกาศคณะกรรมการฯ จำนวน 5 ฉบับดังกล่าวมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ 1.กำหนดให้กลุ่มออมทรัพย์/กลุ่มสัจจะ กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต สถาบันการเงินชุมชน และวิสาหกิจชุมชนที่ให้บริการทางการเงินและไม่เป็นนิติบุคคล เป็นองค์กรการเงินชุมชนตาม พ.ร.บ.สถาบันการเงินประชาชน และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน เป็นธนาคารผู้ประสานงานตาม พ.ร.บ.สถาบันการเงินประชาชน 2. กำหนดกรอบอัตราดอกเบี้ย/ผลตอบแทน ค่าธรรมเนียม และค่าบริการโอนเงินและรับชำระเงินของสถาบันการเงินประชาชน  3.กำหนดให้สถาบันการเงินประชาชนพิจารณาฝากเงิน/กู้ยืมเงินในกรณีที่มีความจำเป็นกับธนาคารผู้ประสานงานเป็นอันดับแรก โดยในกรณีที่ไม่มีธนาคารผู้ประสานงานที่รับผิดชอบในพื้นที่หรือธนาคารผู้ประสานงานไม่อาจให้บริการได้อย่างเหมาะสม สถาบันการเงินประชาชนสามารถฝากเงินกับสถาบันการเงินแห่งอื่นได้ 4. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้บริการทางการเงินโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของสถาบันการเงินประชาชน ดังนี้... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 24 ผช.รมว.คลัง จับมือ “กรมบัญชีกลาง-กรุงไทย-ททท.” ลงพื้นที่สุ่มตรวจร้านค้าส่อขายวัตถุประสงค์ พร้อมเชิญร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ย้ำสั่งเร่งเคลียน์ทุกปัญหา... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 25 แบงก์กรุงไทยแจงเหตุ สั่งปิดแอปฯเป๋าตังช่วงตี 2 – ตี 5 ของคืนวันอาทิตย์นี้... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 18 คปภ.แจง “คนประกันภัย” เป็นปลื้ม! ตบเท้าเข้ารับรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร Prime Minister’s Insurance Awards ประจำปี... อ่านต่อ