ดูแล้ว: 25 ธนชาตยกทัพสินเชื่อ SME รุกตลาดปลายปี ประกาศพร้อมรองรับทุกความต้องการย้ำจุดยืน ให้ธุรกิจลูกค้า ก้าวหน้าได้ทุกวัน ธนาคารธนชาตยกทัพสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ SME รุกตลาดปลายปี ประกาศพร้อมรองรับทุกความต้องการด้วยแพ็คเกจ SME ที่ครอบคลุมทุกขนาดธุรกิจ ทั้ง SME ได้ใจ สำหรับไซส์เล็ก วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาท SME BizSmart วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท และ SME บัญชีเดียว หนุน SME ทำบัญชีเพียงเล่มเดียว ธุรกิจโตเต็มที่ ชูจุดเด่น ทีมงานมืออาชีพ อนุมัติไว ดูแลใกล้ชิด ตอกย้ำจุดยืนเป็นธนาคารที่ให้ธุรกิจของลูกค้า ก้าวหน้าได้ทุกวัน นายชัชวาลย์ เหลืองอ่อน ผู้อำนวยการอาวุโส สายธุรกิจสินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมการเจริญเติบโตของสินเชื่อ SME ในช่วงปลายปีชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศและปัจจัยลบจากภายนอกประเทศ ลูกค้าสินเชื่อหลายรายได้รับผลกระทบ มีลูกค้าสินเชื่อเพียงบางกลุ่มที่ธุรกิจยังสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ซึ่งมักจะเป็นธุรกิจที่เป็นปัจจัยหลักในชีวิตประจำวัน และตอบสนองไลส์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เช่น ธุรกิจอาหาร เกษตรแปรรูป ค้าส่ง ค้าปลีก และธุรกิจบริการ คาดว่าทิศทางการแข่งขันด้านการให้สินเชื่อ ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในปี 2563 อย่างไรก็ดี ธนาคารธนชาตได้ออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME บนพื้นฐานของการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) โดยมุ่งเน้นทำความเข้าใจลูกค้าตามสภาพธุรกิจ และขนาดของธุรกิจที่แตกต่างกัน และพร้อมรองรับทุกความต้องการ เพื่อให้ธุรกิจของลูกค้าสามารถเจริญเติบโต และขยายตัวต่อไป โดยปัจจุบันมี สินเชื่อที่เหมาะสมกับ SME ทุกกลุ่มทุกประเภท ครอบคลุมทุกขนาดธุรกิจ ได้แก่ สินเชื่อธนชาต SME ได้ใจ – กู้ง่ายได้ใจ ด้วยทีมที่ทุ่มเทเพื่อธุรกิจคุณ กู้ได้สูงสุดถึง 3 ล้านบาท ผ่อนได้นานสูงสุด 10 ปี พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ครบทั้งกลุ่ม ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจไซส์เล็กซึ่งมีข้อจำกัดด้านหลักฐานการเงินและตัวตนของธุรกิจ เพียงลูกค้าเป็นเจ้าของกิจการจริง มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป มีประสบการณ์ในธุรกิจที่ยื่นกู้มาอย่างน้อย 1 ปี และมีหลักประกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร เบเกอรี่ กาแฟ ร้านค้าปลีก ร้านซักรีด อู่ซ่อมรถ ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา (สัญชาติไทย) หรือนิติบุคคลก็สามารถสมัครได้ และสินเชื่อธนชาต Biz... อ่านต่อ
MONEY MOVEMENT
ดูแล้ว: 39 แบงก์ออมสิน ผนึก “กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน – มหา’ลัยทั่วไทย” รวมพัฒนาทักษะและส่งเสริมการประกอบอาชีพ เดินหน้าพัฒนาฝีมือแรงงานแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ... อ่านต่อ
BBLดึงคนต้นแบบวิถีเกษตรก้าวหน้า ยุคดิจิทัล
1 min read
ดูแล้ว: 33 ธนาคารกรุงเทพ สานต่อความสำเร็จ วิถีเกษตรก้าวหน้า ยุคดิจิทัล จัดสัมมนาพิเศษ-ดึงคนต้นแบบร่วมเวทีแชร์ประสบการณ์สู่ความสำเร็จ ธนาคารกรุงเทพ เดินหน้าสานต่อโครงการ ‘เกษตรก้าวหน้า’ สู่ยุคดิจิทัล หนุนเกษตรกรไทยปรับตัว ดึงนวัตกรรมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต-ลดความเสี่ยง สร้างโมเดลธุรกิจตนเอง อยู่รอดอย่างยั่งยืน พร้อมชวนเกษตรกรตัวอย่างร่วมเวที แชร์ประสบการณ์ประยุกต์เชื่อมเทคโนโลยีสู่วิถีเกษตร นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อวิธีการดำเนินธุรกิจในแบบเดิม หรือ Disrupt ในทุกวงการธุรกิจ รวมถึงภาคการเกษตรที่กำลังเผชิญกับความท้าทายนี้เช่นกัน ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งได้ร่วมสนับสนุนภาคการเกษตรของไทยมาอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการ ‘เกษตรก้าวหน้า’ ได้กำหนดแนวคิดหลักของการดำเนินโครงการในปีนี้ให้สอดคล้องกัน โดยมีความมุ่งหวังที่จะช่วยผลักดันให้เกษตรกรไทยสามารถปรับตัว โดยเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และเลือกสรรเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประยุกต์ให้เข้ากับแนวทางการดำเนินธุรกิจของตน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดความเสี่ยงลง ตลอดจนสามารถอยู่รอดในโลกดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน ธนาคารกรุงเทพได้ริเริ่มอำนวยสินเชื่อให้แก่เกษตรกรไทยมาตั้งแต่ปี 2505 และได้จัดตั้งโครงการ ‘เกษตรก้าวหน้า’ ขึ้นเมื่อปี 2542 โดยอดีตประธานกรรมการบริหาร “คุณโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์” ต่อเนื่องมาถึง “คุณเดชา ตุลานันท์” โดยการนำตัวอย่างความสำเร็จมาเป็นต้นแบบถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในทุกมิติ ทั้งด้านการเกษตร การจัดการตลาด การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกัน การบริหารจัดการการเงิน การใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายการผลิตกับการตลาดที่มีศักยภาพ รวมถึงจัดงานมอบรางวัล ‘เกษตรก้าวหน้าดีเด่น’ เพื่อเป็นเกียรติแก่เกษตรกรต้นแบบผู้ประสบความสำเร็จ เราพูดถึงเรื่องเกษตรก้าวหน้ามาร่วม 20 ปีแล้ว ด้วยความมุ่งหวังที่จะผลักดันให้เกษตรกรมีองค์ความรู้ที่กว้างขวางขึ้น ในหลากหลายมิติ ยิ่งมาถึงยุคดิจิทัลในปัจจุบันที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมเกิดขึ้นมากมายในวงการเกษตร ก่อให้เกิดเกษตรอัจฉริยะ และเกษตรแม่นยำขึ้น ไปจนถึงการสร้างแพลตฟอร์มเข้ามาช่วยเชื่อมโยงให้เกิดการสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันและการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เทคโนโลยีสามารถเข้ามาสนับสนุนได้ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการผลิตไปจนถึงการส่งมอบผลผลิตให้แก่ลูกค้า ดังนั้น นอกเหนือจากเทคโนโลยีแล้ว เกษตรกรจำเป็นที่จะต้องมี ความรู้เพื่อคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาปรับใช้สำหรับสร้างเป็นวิถีแนวทางของตนเองที่จะก่อให้เกิดความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 18 ธนาคารกรุงเทพ สานต่อความสำเร็จ วิถีเกษตรก้าวหน้า ยุคดิจิทัล จัดสัมมนาพิเศษ-ดึงคนต้นแบบร่วมเวทีแชร์ประสบการณ์สู่ความสำเร็จ ธนาคารกรุงเทพ เดินหน้าสานต่อโครงการ ‘เกษตรก้าวหน้า’ สู่ยุคดิจิทัล หนุนเกษตรกรไทยปรับตัว ดึงนวัตกรรมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต-ลดความเสี่ยง สร้างโมเดลธุรกิจตนเอง อยู่รอดอย่างยั่งยืน พร้อมชวนเกษตรกรตัวอย่างร่วมเวที แชร์ประสบการณ์ประยุกต์เชื่อมเทคโนโลยีสู่วิถีเกษตร นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อวิธีการดำเนินธุรกิจในแบบเดิม หรือ Disrupt ในทุกวงการธุรกิจ รวมถึงภาคการเกษตรที่กำลังเผชิญกับความท้าทายนี้เช่นกัน ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งได้ร่วมสนับสนุนภาคการเกษตรของไทยมาอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการ ‘เกษตรก้าวหน้า’ ได้กำหนดแนวคิดหลักของการดำเนินโครงการในปีนี้ให้สอดคล้องกัน โดยมีความมุ่งหวังที่จะช่วยผลักดันให้เกษตรกรไทยสามารถปรับตัว โดยเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และเลือกสรรเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประยุกต์ให้เข้ากับแนวทางการดำเนินธุรกิจของตน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดความเสี่ยงลง ตลอดจนสามารถอยู่รอดในโลกดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน ธนาคารกรุงเทพได้ริเริ่มอำนวยสินเชื่อให้แก่เกษตรกรไทยมาตั้งแต่ปี 2505 และได้จัดตั้งโครงการ ‘เกษตรก้าวหน้า’ ขึ้นเมื่อปี 2542 โดยอดีตประธานกรรมการบริหาร “คุณโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์” ต่อเนื่องมาถึง “คุณเดชา ตุลานันท์” โดยการนำตัวอย่างความสำเร็จมาเป็นต้นแบบถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในทุกมิติ ทั้งด้านการเกษตร การจัดการตลาด การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกัน การบริหารจัดการการเงิน การใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายการผลิตกับการตลาดที่มีศักยภาพ รวมถึงจัดงานมอบรางวัล ‘เกษตรก้าวหน้าดีเด่น’ เพื่อเป็นเกียรติแก่เกษตรกรต้นแบบผู้ประสบความสำเร็จ เราพูดถึงเรื่องเกษตรก้าวหน้ามาร่วม 20 ปีแล้ว ด้วยความมุ่งหวังที่จะผลักดันให้เกษตรกรมีองค์ความรู้ที่กว้างขวางขึ้น ในหลากหลายมิติ ยิ่งมาถึงยุคดิจิทัลในปัจจุบันที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมเกิดขึ้นมากมายในวงการเกษตร ก่อให้เกิดเกษตรอัจฉริยะ และเกษตรแม่นยำขึ้น ไปจนถึงการสร้างแพลตฟอร์มเข้ามาช่วยเชื่อมโยงให้เกิดการสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันและการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เทคโนโลยีสามารถเข้ามาสนับสนุนได้ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการผลิตไปจนถึงการส่งมอบผลผลิตให้แก่ลูกค้า ดังนั้น นอกเหนือจากเทคโนโลยีแล้ว เกษตรกรจำเป็นที่จะต้องมี ความรู้เพื่อคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาปรับใช้สำหรับสร้างเป็นวิถีแนวทางของตนเองที่จะก่อให้เกิดความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 11 ธนาคารไทยพาณิชย์ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ผนึกกำลังพันธมิตรที่เข้มแข็งส่งมอบถุงยังชีพน้ำใจไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์จัดเตรียม และส่งมอบถุงยังชีพ “น้ำใจไทยพาณิชย์” กว่า 5,000 ถุง ส่งถึงมือผู้ประสบอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนืออย่างรวดเร็วทันท่วงที พร้อมช่วยเหลือฟื้นฟูทำความสะอาดถนนและพื้นที่สาธารณะภายหลังน้ำลด ภายใต้โครงการ “ช่วยผู้ประสบภัยกับไทยพาณิชย์” ด้วยเป้าหมายสำคัญ คือ การบรรเทาทุกข์ เสริมสร้างขวัญ กำลังใจ และเติมรอยยิ้มให้แก่พี่น้องประชาชนเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้โดยเร็ววัน โดยผนึกกำลังกับภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง ได้แก่ กองทัพอากาศ กองทัพเรือ หน่วยงานราชการ มูลนิธิ เป็นต้น จับมือกับพนักงานสาขาของธนาคารฯ ในพื้นที่ประสบอุทกภัยดำเนินการ คุณอารยา ภู่พานิช รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานกิจกรรมเพื่อสังคม ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “ธนาคารไทยพาณิชย์ตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ด้วยศักยภาพเครือข่ายสาขาของธนาคารฯ ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ผู้บริหารและพนักงานได้ร่วมมือ เร่งให้ความช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ทั้งในระยะเร่งด่วน และการช่วยเหลือฟื้นฟู โดยในเบื้องต้นได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ “น้ำใจไทยพาณิชย์” ภายในประกอบด้วย อาหารพร้อมรับประทาน เครื่องอุปโภค บริโภค ของใช้จำเป็น และยารักษาโรค เป็นต้น และเพื่อให้การช่วยเหลือกระจายอย่างทั่วถึง จึงได้มอบถุงยังชีพผ่านภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นผ่านสำนักงานเหล่ากาชาดขอนแก่น นำไปช่วยเหลือที่อำเภอบ้านไผ่ และอำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น จำนวน 500 ถุง สมาชิกวุฒิสภานำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ อำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 300 ถุง ทีมกู้ชีพเสลภูมิ นำส่งมอบที่อำเภอเสลภูมิ และอำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 100 ถุง สำหรับในส่วนกลาง ณ ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ คณะผู้บริหาร พนักงานจิตอาสา SCB ชวนกันทำดี ยังได้ร่วมแรง ร่วมใจจัดกิจกรรมบรรจุถุงยังชีพ อีกจำนวน 4,000 ถุง เพื่อส่งมอบแก่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพอากาศ นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในอำเภอบางกะทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอเมือง อำเภอโพนเมือง อำเภอเหล่าเสือโก้ก อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม นำไปช่วยเหลือที่อำเภอโขงเจียม และอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี นอกจากการมอบถุงยังชีพแล้ว ผู้บริหารและพนักงานของธนาคารฯ ยังได้ร่วมทำความสะอาดฟื้นฟูถนน และพื้นที่สาธารณะที่อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานีภายหลังน้ำลด นอกจากนี้ พนักงานจิตอาสาของธนาคารไทยพาณิชย์ยังได้ร่วมกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดเตรียมถุงยังชีพ จำนวน 11,500 ถุง ณ กองการบินศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก (โรงเก็บเครื่องบิน) กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหาราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน กรุงเทพฯ เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยในภาคอีสานและเหนือ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ธนาคารฯ ได้บริจาคเงิน 8 ล้านบาท เพื่อบริจาคร่วมกับธนาคารสมาชิกอื่น ๆ ในนามสมาคมธนาคารไทย รวมเป็นเงิน 50 ล้านบาท ในงาน “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ซึ่งจัดโดยสำนักนายกรัฐมนตรี” เมื่อยามมีเหตุการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ถุงยังชีพ “น้ำใจไทยพาณิชย์” จะไปถึงทุกที่ที่ประสบภัย เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ด้วยเครือข่ายสาขาของธนาคารฯ ที่มีกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พร้อมกับภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง เพื่อให้สังคมไทยเกิดรอยยิ้ม เพื่อความสุข และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทั้งในระยะเร่งด่วนและการช่วยเหลือฟื้นฟู... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 41 กสิกรไทยจับมือช้อปปี้ พัฒนาโซลูชั่นการเงิน ครั้งแรกบนแพลตฟอร์มของช้อปปี้ ตอบโจทย์การเติบโตตลาดอีคอมเมิร์ซ ธนาคารกสิกรไทยและช้อปปี้ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ผนึกกำลังร่วมพัฒนาโซลูชั่นการเงินเพื่อตอบสนองการขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ประเดิมความร่วมมือด้วยการสานฝันพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้นด้วยการปล่อย “เงินกู้ธุรกิจออนไลน์” ให้ผู้ขายบนช้อปปี้ และเตรียมมอบของขวัญสุดพิเศษให้นักช้อปซื้อของได้สนุก และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นด้วยโปรโมชั่นพิเศษกว่าใครเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย ทำให้มีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจาก “เงินกู้ธุรกิจออนไลน์” (MADFUND) ของร้านค้าบนแพลตฟอร์มของช้อปปี้ ไม่ต้องยื่นเอกสาร ไม่ต้องมีหลักประกัน สมัครง่ายผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS คัดกรองผู้รับสินเชื่อจากข้อมูลรายได้ และพฤติกรรมการค้าขายอื่น ๆ ประกอบกัน ให้ผู้ขายขยายธุรกิจอย่างมั่นใจด้วยวงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 600,000 บาทและโอกาสสำหรับร้านค้าบนแพลตฟอร์มของช้อปปี้ในการใช้บริการ MADHUB ศูนย์รวมโซลูชั่นครบวงจรของคนกล้าฝันค้าออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการทำธุรกิจ โดยรวบรวมตัวช่วยที่จำเป็นสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไว้ให้ความช่วยเหลือในการทำธุรกิจ เช่น คำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหารจัดการ หลักสูตร พื้นที่ให้คำปรึกษา และอบรม สัมมนา ดีลส่วนลดพิเศษที่จะช่วยให้การทำธุรกิจคล่องตัวขึ้น ฯลฯ นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญกับการผนึกกำลังในรูปแบบ “Better Together” ร่วมกับพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อนำศักยภาพของธนาคารกสิกรไทยที่เป็นผู้นำทางด้านดิจิทัล แบงกิ้ง และมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการโซลูชั่นทางด้านการเงินอย่างครบวงจร และตอบโจทย์ทุกกลุ่มความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้ขายและผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ ไปผสานกับพันธมิตรขนาดใหญ่ในแต่ละอุตสาหกรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนหลากหลายกลุ่ม เพื่อสร้างโซลูชั่นหรือแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุคปัจจุบันให้ได้มากที่สุด ความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทยและช้อปปี้ในวันนี้เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับความแข็งแกร่งให้กับตลาดอีคอมเมิร์ซโดยในปีที่ผ่านมามีการเติบโตถึง 14% ภายใต้ความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย และช้อปปี้นี้ ธนาคารมีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบครบวงจร ผ่านศูนย์รวมโซลูชั่น MADHUB ให้กับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการติดอาวุธ และขยายโอกาสให้กับธุรกิจด้วยหลากหลายวิธีการ ซึ่งธนาคารกสิกรไทยมีความใกล้ชิด และเข้าใจในความต้องการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และธุรกิจออนไลน์เป็นอย่างดี โดยโซลูชั่นที่นำเสนอนั้นจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการสถาบันการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังจะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงองค์ความรู้สำคัญในการประกอบธุรกิจออนไลน์ ตลอดจนคำแนะนำ หลักสูตร และดีลพิเศษที่ถูกออกแบบมาเพื่อธุรกิจออนไลน์โดยเฉพาะ... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 49 ชมรมธุรกิจบัตรเครดิตยืนยันบัตรเครดิตที่ใช้ลายเซ็นยืนยันตัวตน ยังคงใช้งานได้ในยุโรป ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต-สมาคมธนาคารไทย ชี้แจงกระแสข่าวเกี่ยวกับการจำกัดการใช้บัตรเครดิตที่ไม่ใช่บัตรเครดิตแบบชิปและระบบ PIN (Chip & PIN) ในการซื้อสินค้าและใช้บริการในกลุ่มประเทศเขตเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Area... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 17 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดจีดีพีปี 63 ยังมีความเสี่ยงที่อาจจะโตต่ำกว่า 3.0% ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 ตัวเลขปรับผลค่อนข้างต่ำกว่าคาดการณ์หลักๆมาจากปัจจัยภายนอกมุมมองของศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าส่งออกไทยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและเศรษฐกิจโลกมีผลกระทบมากกว่าที่คิดเราจึงปรับคาดการณ์ลงมาอยู่ที่ 2.8% จากเดิม 3.1% ขณะที่คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีหน้าว่ามีความเสี่ยงที่จะโตต่ำกว่า 3.0% จากหลายปัจจัยลบ นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่าการปรับลดจีดีพีปี 2562 มาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ตัวเลขส่งออกของไทยในช่วง 8 เดือนแรกที่ผ่านมา หดตัวมากกว่าคาด โดยหดตัวในหลายกลุ่มสินค้าและเกือบทุกตลาดหลัก ซึ่งส่งผลให้ปรับลดประมาณการการส่งออกลงเหลือ -2.0% ถึง 0.0% จากเดิมที่ 0.0% สำหรับในปี 2563 ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่ยังมีอยู่มาก ทำให้การส่งออกยังคงหดตัว ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้จีดีพีมีโอกาสต่ำกว่า 3.0% อย่างไรก็ตาม ประมาณการนี้ตั้งอยู่บนเงื่อนไขแวดล้อมที่ประเมินได้ ณ ขณะนี้และยังไม่รวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยในปีนี้ คาดว่ามาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” จะช่วยหนุนจีดีพีราว 0.02% ส่วนในปีหน้าต้องรอติดตามว่าจะมีมาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งหากมี ก็ควรเน้นไปที่การดูแลแรงงานที่ไม่มีหลักประกันทางสังคมรองรับ อย่างเช่นกลุ่มอาชีพอิสระ รวมถึงเอสเอ็มอีที่ยอดขายชะลอตัวลง หลังผู้บริโภคระวังการใช้จ่าย ในส่วนของมาตรการทางการเงินนั้น มองว่า กนง.อาจลดดอกเบี้ยได้อีก เพียงแต่มาตรการทางการเงินต้องใช้เวลากว่าจะทยอยเห็นผลบวกต่อเศรษฐกิจ ด้าน ดร.ศิวัสน์ เหลืองสมบูรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงยืดเยื้อ จะกระทบการส่งออกของไทยในปี 2563 เพิ่มเติมอีก 1,000-2,500 ล้านดอลลาร์ฯ หลังต้องรับรู้ผลกระทบจากการเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าจีนต่อเนื่อง ขณะที่ในปี 2562 คาดการณ์ผลกระทบไว้ที่ 2,100-3,000 ล้านดอลลาร์ฯ นอกจากนี้ แม้ว่าไทยอาจได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตบ้าง แต่ก็จะเน้นไปที่ธุรกิจที่ไทยเป็นฐานการผลิตเดิม ส่วนสถานการณ์ Brexit คาดว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สหราชอาณาจักรคงต้องออกจากสหภาพยุโรปแบบ No Deal โดยขั้นตอนต่อไปคือการตกลงกันเรื่องรูปแบบและข้อตกลงทางการค้าระหว่างกัน รวมถึงประเด็นพรมแดนไอร์แลนด์เหนือซึ่งพัฒนาการเหล่านี้จะมีผลกระทบต่อตลาดเงิน และเศรษฐกิจของอังกฤษในปีหน้ามีโอกาสถดถอย ประเด็นเศรษฐกิจของประเทศอังกฤษกับประเทศไทยมีผลกระทบทั้งหมดไม่ถึง 2% เพราะฉะนั้นผลกระทบอาจไม่กระทบเยอะในการส่งออกแต่ผู้ประกอบการที่ส่งออกไปประเทศอังกฤษอาจจะต้องระมัดระวังตัวให้ดีแม้ว่าผลกระทบของ Brexit ต่อเศรษฐกิจไทยจะมีไม่มากนัก ด้าน Trade... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 38 กรุงไทยผนึก ขสมก. รับชำระค่าโดยสารรถเมล์ทุกคันแบบไร้เงินสด ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ ขสมก.เปิดให้บริการรับชำระค่าโดยสารประจำทาง แบบไร้เงินสด (ส่วนต่อขยาย) ในทุกเส้นทางเดินรถทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้วยบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ร่วม ขสมก. สแกน QR Code เพื่อชำระเงินผ่าน กรุงไทย NEXT หรือ Mobile Banking รวมทั้งบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตของทุกธนาคาร ที่มีสัญลักษณ์ Contactless และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านเครื่อง EDC โดยมี นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน พร้อมด้วย นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นายกิตติพัฒน์ เพียรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย ร่วมงาน ที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ถนนวัฒนธรรม ห้วยขวาง นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล เปิดเผยว่า ขสมก.ได้ขยายผลการดำเนินโครงการรับชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสดบนรถโดยสารของ ขสมก.ทุกคัน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป ผู้ใช้บริการสามารถชำระค่าโดยสาร ผ่านเครื่อง EDC ด้วยบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (ชำระค่าโดยสารเป็นรายเที่ยว) บัตรโดยสารล่วงหน้าอิเล็กทรอนิกส์ (ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว) บัตรนักเรียน นักศึกษาอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเดบิต-เครดิตที่มีสัญลักษณ์ Contactless ของทุกธนาคาร และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งสแกน QR CODE เพื่อชำระค่าโดยสารผ่านกรุงไทย NEXT หรือ Mobile... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 24 ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดชูไทยและอาเซียนเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตด้านการค้า ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เปิดตัวรายงาน Trade20 เผยประเทศไทยติดอันดับที่ 8 ใน 20 ประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตด้านการค้ามากที่สุด โดยมีปัจจัยหนุนจากความพร้อมในด้านการค้า และการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในด้านอีคอมเมิร์ซ รายงาน Trade20 เป็นการสำรวจ 66 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมุ่งวิเคราะห์ศักยภาพการเติบโตด้านการค้าของแต่ละตลาด โดยมีตัววัด 12 ด้านภายใต้แกนหลัก 3 ด้านคือ พลวัตทางเศรษฐกิจ ความพร้อมด้านการค้า และความหลากหลายของการส่งออก ประเทศไทยไม่ติดใน 20 อันดับแรกในด้านความหลากหลายของการส่งออก เนื่องจากดัชนีให้น้ำหนักกับพัฒนาการของตลาดในแง่ความหลากหลายของการส่งออก ซึ่งวัดจากความหลากหลายของสินค้าส่งออกและรายได้จากการส่งออกที่มาจากความหลากหลายของสินค้าเหล่านั้น ตลาดที่ทำคะแนนได้ดีในด้านนี้ คือตลาดที่มีพัฒนาการอย่างมากในแง่การกระจายการส่งออก ซึ่งน่าจะช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้การเติบโตทางการค้าและลดความผันผวนต่อแรงกดดันของตลาด นายพลากร หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า รายงานดัชนี Trade20 เป็นการประมวลดาวรุ่งในด้านการค้า โดยวิเคราะห์ตลาดที่มีภาวะการค้าและศักยภาพการเติบโตทางการค้า ที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่เพียงแต่เป็นเป้าหมายการค้าการลงทุนของต่างประเทศเท่านั้น แต่บริษัทไทยจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มีการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอย่างเข้มแข็งเช่นกัน จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2561 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการลงทุนไปยังต่างประเทศสูงที่สุดในรอบ 8 ปี ที่ 199,000 ล้านบาท ไม่รวมเงินลงทุนในประเทศ ซึ่งเติบโตขึ้นร้อยละ 15 จากปี 2560 มาอยู่ที่ 818,000 ล้านบาท ยังมีโอกาสในด้านการค้าระหว่างประเทศอยู่อีกมาก ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) มีเครือข่ายทั่วโลกและนวัตกรรม การเพิ่มการใช้ระบบอัตโนมัติ เพื่อให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นไป” นายพลากร กล่าว “นอกจากความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทยในโครงการอินทนนท์แล้ว เรายังให้บริการออกหนังสือค้ำประกันบนระบบบล็อกเชน (eGuarantee) โดยเมื่อไม่นานมานี้ ธนาคารประสบความสำเร็จในการทดสอบธุรกรรม Letter of Credit ผ่านระบบ Blockchain เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมน้ำมัน ท่ามกลางกระแสการกีดกันทางการค้าและการเติบโตของโลกที่ชะลอตัวลง ตลาดที่แสดงพัฒนาการที่น่าสนใจเหล่านี้ นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับองค์กรที่กำลังมองหาทางเลือกในการลงทุน ช่องทางการนำเข้า และคู่ค้าในระบบห่วงโซ่อุปทานใหม่ๆ... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 61 SAM สร้างโอกาสลงทุนย่านเมืองนนท์ คัดทรัพย์สิน NPA ทั้ง “นนทบุรี – กรุงเทพฯ” เกือบ 1,000 รายการ กว่า 3,500 ล้านบาท ออกบูธจำหน่ายในงาน “ทรัพย์มือสองต้อง SAM ครั้งที่ 6” กลางห้างฯ ชื่อดังย่านบางใหญ่ เริ่ม 1-7 นี้ พร้อมรับโปรโมชั่น 3 ต่อลุ้นทองคำแท้ นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ กก.ผจก. บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM กล่าวถึงการ เปิดบูธงาน “ทรัพย์มือสองต้อง SAM ครั้งที่ 6” ระหว่างวันที่ 1- 7 ต.ค.62 ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. บริเวณ ชั้น 1 (หน้าร้านวิคตอเรียซีเคร็ท) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต จ.นนทบุรี ว่า นับเป็นการยกขบวนทรัพย์สินรอการขาย (NPA) มากถึง 922 รายการ มูลค่ารวม 3,586 ล้านบาท โดยมีทรัพย์ที่อยู่อาศัยในเขตบางใหญ่ จ.นนทบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ บ้านเดี่ยว เนื้อที่ 31.6 ตร.ว. โครงการมณฑล 4 อ.บางใหญ่ ห่างจากถ.กาญจนาภิเษก 1.5 กม.เดินทางสะดวกไปรถไฟฟ้าสถานี สามแยกบางใหญ่ อยู่ไม่ไกลจากเซ็นทรัลเวสต์เกต โฮมโปร บิ๊กซี และรพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ราคาขาย 1.79 ล้านบาท บ้านเดี่ยว เนื้อที่ 64 ตร.ว. และ เนื้อที่ 56 ตร.ว. โครงการเพอร์เฟค พาร์ค พระราม 5 – บางใหญ่ อ.บางใหญ่ เชื่อมต่อถ.บางม่วง-วัดส้มเกลี้ยง ออกไปศาลายาได้ อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าสถานี สามแยกบางใหญ่ และห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง เหมาะกับการอยู่อาศัย ราคาขาย 4.29 ล้านบาท และ 4.19 ล้านบาทตามลำดับ บ้านเดี่ยว เนื้อที่ 85.5 ตร.ว. โครงการมัณฑนา-ราชพฤกษ์ อ.เมืองนนทบุรี อยู่ห่างจากถ.ราชพฤกษ์เพียง 250 ม. ไม่ไกลจาก รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ บางใหญ่ การคมนาคมสะดวก ราคาขาย 5.99 ล้านบาท ห้องชุดพักอาศัย พื้นที่ 32.52 ตร.ม. ... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 48 บอร์ด ธพว. มีมติแต่งตั้ง “นารถนารี รัฐปัตย์” รอง กก.ผจก. รักษาการแทน กก.ผจก. เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป รายงานข่าวจาก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D BANK แจ้งว่า คณะกรรมการ ธพว. มีมติอนุมัติแต่งตั้ง น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ รอง กก.ผจก. ธพว. เป็น รักษาการแทน กก.ผจก. โดยที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ให้ความเห็นชอบแล้ว โดยให้มีอำนาจกระทำการแทน กก.ผจก.ในกิจการของธนาคารฯ ตามความในมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2545 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 เป็นต้นไป สำหรับ น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ ปัจจุบัน อายุ 49 ปี มีประวัติการทำงานดังนี้ เริ่มทำงานกับ ธพว. ตั้งแต่ปี 46 – ปัจจุบัน... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 402 ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวบริการ BeDigiPass จีบตลาดนักศึกษา-มหาวิทยาลัยจับมือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สร้างบัตรนักศึกษา-บุคลากรแบบดิจิทัล KMUTT Mod D Passสะดวกกว่า ไม่ต้องพกบัตรพลาสติก พร้อมจัดการเรื่องการเรียนรู้และชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้ด้วยตนเอง ชำระเงินค่าลงทะเบียนผ่าน mBanking ได้ในตัว มั่นใจตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ยุคสังคมไร้เงินสด นางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดตัวบริการ BeDigiPass ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างบัตรประจำตัวแบบดิจิทัล (Pass) เพื่อใช้ระบุตัวตนของผู้ถือบัตรได้เหมือนบัตรประจำตัวปกติ โดยล่าสุดธนาคารได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เปิดตัวบริการ KMUTT Mod... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 20 กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 30.35-30.70 มองกระบวนการถอดถอนทรัมป์กดดันสินทรัพย์เสี่ยง กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.35-30.70 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 30.64 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.50% ตามคาด ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 4.2 พันล้านบาท และ 4.9 พันล้านบาท ตามลำดับ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจข้อมูลภาคบริการและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ส่วนความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ กลับมาเป็นประเด็นรุมเร้าบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงหลังสภาผู้แทนราษฎรจะเริ่มต้นการไต่สวนอย่างเป็นทางการเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและค่าเงินหยวนในไตรมาสสุดท้ายของปีหลังมีกระแสข่าวล่าสุดว่าสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเพิกถอนหุ้นบริษัทจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งขัดแย้งกับท่าทีประนีประนอมจากทั้งสองฝ่ายช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย.จะชะลอลง ขณะที่กนง.ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2562 เหลือ 2.8% จากเดิมเคยคาดไว้ที่ 3.3% และปรับลดประมาณการส่งออกเป็นหดตัว 1.0% จากที่เคยคาดไว้ 0% สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้เราคือมติที่เป็นเอกฉันท์ในรอบนี้หลังจากทางการปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% อย่างเหนือความคาดหมายในเดือนส.ค. อย่างไรก็ดี เราคาดว่ามีโอกาสที่กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.25% ในการประชุมเดือนพ.ย.ซึ่งเรามองว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของวัฎจักรผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทั้งนี้ กนง.ระบุว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ โดยประเมินแนวโน้มการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐเป็นไปในเชิงลบทั้งหมด นอกจากนี้ ทางการยังกังวลต่อเงินบาทที่แข็งค่าและกล่าวว่าจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดรวมทั้งพิจารณามาตรการที่เหมาะสมหากจำเป็น... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 31 ไทยพาณิชย์ และ สภาอุตสาหกรรม นำเทรนด์รักษ์สุขภาพจัดงาน “SCB-FTI Well Being”... อ่านต่อ