ญี่ปุ่นระบาดรอบใหม่หนักกว่าเดิม
มีความแตกต่างระหว่างสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในระลอกล่าสุดกับที่ผ่านมา ทำให้ทางการญี่ปุ่นมีการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนักพุ่งสูงเกินช่วงพีคในฤดูร้อนที่ผ่านมา
“ เรามีประเด็นเร่งด่วนเกี่ยวกับความจริงที่ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้ออาการหนักเพิ่มขึ้นเกือบ 500 ราย” โนริฮิสะ ทามุระ รมว.สาธารณสุขระบุเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. โดยจำนวนที่เพิ่มขึ้นทำให้ทางการกังวลว่าจะมีเตียงผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์เพียงพอที่จะรับมือกับสถานการณ์การติดเชื้อในระลอกนี้
การแพร่ระบาดในปัจจุบันของญี่ปุ่นเกิดขึ้นใน 4 พื้นที่ของมหานครที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นคือ เมืองซัปโปโรในจังหวักฮอกไกโด ซึ่งเป็นเมืองเดียวกับที่เกิดการแพร่ระบาดขึ้นครั้งแรกในเดือนก.พ. , จังหวัดไอจิ เมืองอุตสาหกรรมซึ่งเป็นที่ตั้งของบ.โตโยต้ามอเตอร์ จังหวัดโอซากา และกรุงโตเกียว
ในหลายพื้นที่เหล่านี้ เตียงผู้ป่วยอาการหนักกำลังลดน้อยลง โดยกรุงโตเกียวมีเตียงผู้ป่วยห้องไอซียูเหลือเพียง 50% รัฐบาลกรุงโตเกียวจะขอให้โรงพยาบาลเพิ่มเตียงให้อีก 50 เตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก จากรายงานข่าวของ NHK เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.
ทั้งนี้ คำจำกัดความของ “ผู้ป่วยอาการหนัก ” แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยกรุงโตเกียวระบุว่าเป็นผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือเครื่อง ECMO ขณะที่คำจัดความระดับประเทศยังรวมถึงผู้ป่วยในห้องไอซียูด้วย
สาเหตุที่ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการหนักเพิ่มขึ้นยังคงเป็นปริศนา รวมถึงจำนวนผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุ (ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ) ที่เพิ่มขึ้นมากในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้ เมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดในช่วงฤดูร้อน
การติดเชื้อโดยรวมในญี่ปุ่นพุ่งสูงถึง 2,000 รายต่อวัน รัฐบาลท้องถิ่นทั่วประเทศเรียกร้องให้มีช่วงเวลาในการคุมเข้มการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนานาน 3 สัปดาห์ ขณะที่ใน 4 มหานครที่มีการติดเชื้อสูง ทางการขอให้บาร์และร้านอาหารปิดให้บริการเร็วขึ้น
“ 3 สัปดาห์ข้างหน้าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด” นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซึงะกล่าวให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา “ เราจะเอาชนะสถานการณ์การแพร่ระบาดไปด้วยกัน”
อย่างไรก็ตาม ยังมีสัญญาณที่ดีบ้าง โดยในกรุงโตเกียว มีตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว พื้นที่อื่นๆ รวมทั้งฮอกไกโดเริ่มมีผู้ติดเชื้อลดลง หรือหากไม่ลดลง ก็มีความหวังว่าการระบาดระลอกนี้ได้ผ่านจุดพีคมาแล้ว
แม้จะมีความกังวลว่า ประชาชนอาจมีความเหนื่อยล้าจากสถานการณ์การแพร่ระบาด แต่ข้อมูลชี้ว่า การขอความร่วมมือให้ปิดบาร์และร้านอาหารเร็วขึ้นส่งผลในแง่บวกช่วยลดจำนวนการเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืนลงในหลายพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นต้งเตรียมพร้อมที่จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 กว่า 2,000 รายทั่วประเทศ กว่า 50% เป็นผู้ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงอายุมีอัตราการเสียชีวิต 14% จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีจำนวนประชากรผู้สูงอายุในกลุ่มนี้กว่า 11.6 ล้านคน นับเป็นประเทศที่มีผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก