บี.กริม กู้เงิน ADB พัฒนาโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม
BGRIM ลงนามเงินกู้สีเขียว (Green Loan) กับ เอดีบี วงเงิน 5,677 ล้านบาท รองรับพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มในเวียดนาม
เมื่อเร็วนี้ ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank:ADB) และ บริษัท Phu Yen TTP (Phu Yen JSC) ได้ลงนามเงินกู้ 5,677 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 257 เมกะวัตต์ ใน ฮว่า ฮอย จังหวัดฟูเอี้ยน ประเทศ เวียดนาม ซึ่งเป็นเงินกู้สีเขียวที่ได้รับการรับรองครั้งแรกของประเทศเวียดนาม
ทั้งนี้ Phu Yen JSC ถือหุ้นโดย บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนร้อยละ 80 และ Truong Thanh Viet Nam Group Joint Stock Company (TTVN) ในสัดส่วนร้อยละ 20 โดยการจัดหาเงินทุนประกอบด้วยเงินกู้ 27.9 ล้านดอลลาร์จากเอดีบี และ เงินกู้รวม 148.8 ล้านดอลลาร์จาก (เงินกู้ B loan) ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารเกียรตินาคิน Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) จากประเทศจีน และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ รวมไปถึงการจัดสรรเงินกู้ 9.3 ล้านดอลลาร์จาก Private Infrastructure Fund (LEAP)
ทั้งนี้เงินกู้ดังกล่าวยังได้รับการรับรองจาก Climate Bonds Initiative หรือ CBI ซึ่งเป็นองค์กรอิสระระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม นับเป็นเงินกู้สีเขียวรายแรกในภูมิภาค และเป็นหนึ่งในเงินกู้พลังงานทดแทนที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม
นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า การสนับสนุนเงินกู้สีเขียวของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 257 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม โดยโครงการนี้ได้เปิดจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้แก่ Electricity of Vietnam (EVN) เป็นที่เรียบร้อยแล้วและเริ่มรับรู้รายได้ภายใต้สัญญาการรับซื้อไฟฟ้าในอัตรา Feed-in-Tariff (FiT) ที่ 9.35 เซ็นดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 20 ปี ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญอย่างยิ่งในการกระตุ้นการใช้พลังงานทดแทนในประเทศเวียดนาม รวมทั้งกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเวียดนามอีกด้วย
ด้าน นายแจ็คกี้ บี. ซูตานิ ผู้อำนวยการแผนกการเงินโครงสร้างพื้นฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก สำนักปฎิบัติการภาคเอกชนของเอดีบี กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นี้เป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 123,000 ตันต่อปี และโรงไฟฟ้าจะรองรับความต้องการไฟฟ้าของเมือง กว๋างหงาย และญาจาง รวมทั้งพื้นที่โดยรอบในภูมิภาคซึ่งนับเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเวียดนาม