ยุโรปติดเชื้อใหม่ทะลุแสนคนครั้งแรก
ลอนดอน : เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ยุโรปมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งขึ้นทะลุ 1 แสนรายเป็นครั้งแรก หลังจากหลายประเทศ เช่น รัสเซียและสเปนมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในรอบ 5 วันที่ผ่านมา
มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับประเทศที่ได้รับผลกระทบย่ำแย่จากโควิด-19 อย่างอินเดีย และบราซิลที่กลับมีสัญญาณว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อค่อยๆลดลง
จนถึงตอนนี้ ศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ในยุโรปเคลื่อนตัวมาอยู่ที่สหราชอาณาจักร รัสเซีย สเปน และฝรั่งเศส ซึ่งมีรายงานผู้ติดเชื้ออย่างน้อยเกิน 10,000 รายในรอบ 3 วันที่ผ่านมา
โดยรัสเซียรายงานสถิติตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดในวันเดียวเมื่อวันที่ 9 ต.ค. นับตั้งแต่สถิติเดิมในเดือนพ.ค. ทำให้ทางการรัสเซียต้องคิดทบทวนเรื่องปิดบาร์และไนท์คลับ
สหราชอาณาจักรมีผู้ติดเชื้อกว่า 17,000 รายในวันที่ 8 ต.ค. โดยแมตต์ ฮันค็อก รมว.สาธารณสุขเตือนว่า ประเทศกำลังอยู่ใน “ช่วงเวลาอันตราย”
หลายพื้นที่ทางตอนเหนือของอังกฤษ เวลส์และสก็อตแลนด์มีมาตรการคุมเข้มมากขึ้นกับการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเนื่องจากพยายามจะควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อนี้
สหราชอาณาจักรกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เหมือนโชคร้ายซ้ำซ้อน เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีอัตราผู้เสียชีวิตถึง 7% คือมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6 รายต่อประชากรทุก 10,000 คน
โดยอัตราการเสียชีวิตของสหราชอาณาจักรตรงข้ามกับสหรัฐฯ ที่มีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 2.8% เท่านั้น แม้สหรัฐฯจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่าสหราชอาณาจักรถึง 4 เท่าก็ตาม
จนถึงตอนนี้ ยุโรปมีตัวเลขผู้ติดเชื้อคิดเป็นกว่า 16% จากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก และคิดเป็นเกือบ 22% ในส่วนผู้เสียชีวิต จากตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคติดต่อนี้ทั่วโลก เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่มีรายงานผู้ติดเชื้อทะลุ 100,000 ราย พื้นที่ยุโรปตะวันออกเป็นพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกว่า 33,600 ราย
ในบรรดา 10 ประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันออก รวมทั้งยูเครน รัสเซีย และสาธารณรัฐเช็ก มี 8 ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงทุบสถิติในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในกลุ่มประเทศยุโรปเหนือ สหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่สถานการณ์หนักหนาที่สุด การติดเชื้อใหม่ในประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 2.5 เท่าตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.และยังไม่มีสัญญาณว่าจะลดลง
ขณะที่อิตาลี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของยุโรป มีผู้ติดเชื้อกว่า 4,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นมาที่ประเทศเริ่มมีการแพร่ระบาดของไวรัส จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมานาน 3 เดือน
โดยอิตาลีมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากเป็นอันดับสองในทวีป ด้วยตัวเลข 36,083 รายนับตั้งแต่มีการระบาดอุบัติขึ้นในประเทศ
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. รัฐบาลสเปนประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อล็อกดาวน์กรุงมาดริดบางส่วน จากตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ถึง 850 รายต่อประชากร 100,000 ราย ทำให้พื้นที่กรุงมาดริดมีอัตราการติดเชื้อสูงที่สุดในยุโรป
ในยุโรปตะวันตก ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงกว่า 18,000 รายต่อเนื่องกันสองวันในวันที่ 8 ต.ค. โรงพยาบาลปรับเข้าสู่โหมดฉุกเฉิน และเมืองใหญ่ที่สุดปิดสถานประกอบการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส
ในยุโรป มีผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยประมาณ 78,000 รายตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. เมื่อเทียบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 47,500 รายต่อวันในเดือนก.ย.
