“เบทาโกร” ยันผลิตอาหารคุณภาพ-ปลอดภัย
“เบทาโกร เดินหน้ายกระดับห่วงโซ่การผลิตอาหารคุณภาพและปลอดภัย พร้อมรับมือสถานการณ์ใหม่ ผ่านแนวคิดเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน”
สถานการณ์โควิด-19 นับว่าเป็นวิกฤตที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจทั่วโลกและทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มธุรกิจอาหาร สำหรับเครือเบทาโกร ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงของประเทศ ได้ตระหนักถึงความมั่นคงทางอาหารของประชาชนและประเทศชาติ มุ่งมั่นเดินหน้ายกระดับคุณภาพและความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การผลิตอาหาร เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้บริโภค
นายสมศักดิ์ บุญลาภ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร เปิดเผยว่า ช่วงสถานการณ์ โควิด-19 เครือเบทาโกรได้ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวดสูงสุดตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิตอาหาร โดยจัดตั้งคณะทำงานกว่า 93 ทีม ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบและควบคุมทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิตอาหารให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนดได้อย่างเคร่งครัด เพื่อเป้าหมายการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อถึง ในปี 2563 ธุรกิจอาหารมีสัดส่วนยอดขายประมาณ 70% ของยอดขายเครือเบทาโกร และปีนี้ตั้งเป้ายอดขายโต 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากการขยายกำลังการผลิต เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย และการร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจกับคู่ค้า รวมถึงออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลากหลายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร โดยแยกตามกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ดังนี้
- กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป (Process Food)
ตลาดอาหารพร้อมทานมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2563 คาดการณ์มูลค่าตลาดรวมที่ 20,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2562 ถึง 5% (ที่มา: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, ธันวาคม, 2562) ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีวิถีชีวิตแบบสังคมเมืองที่มีความเร่งรีบ จึงผลักดันให้เบทาโกรมุ่งมั่นในการพัฒนาและผลิตอาหารพร้อมทานที่สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคทั้งด้านความสะดวก อร่อย มีคุณภาพ และปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีนี้สถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความตระหนักถึงคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารมากยิ่งขึ้น เครือเบทาโกรจึงมุ่งมั่นเดินหน้าขับเคลื่อนอาหารพร้อมทาน ตั้งเป้าเติบโต 40% เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน พร้อมออกผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน แบรนด์เอสเพียว ชูจุดเด่นอาหารเพื่อสุขภาพที่ผลิตจากวัตถุดิบและส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่มีการเติมสารปรุงแต่งใด ๆ ผ่านการคิดค้นและพัฒนาสูตรอาหารโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพโดยเฉพาะ เช่น โจ๊กไข่ขาว ไข่ลวก เป็นต้น
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน แบรนด์เบทาโกร ยังได้เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ภายใต้ 7 หมวดสินค้า ได้แก่ 1) อาหารทานเล่นและสินค้าทอด (Appetizer) ประเภทหมู ไก่ 2) ผลิตภัณฑ์ไข่ไก่ปรุงสุก (Processed Egg) 3) ข้าวกล่องพร้อมรับประทาน (Ready Meal) 4) กับข้าวสำเร็จรูป (Cuisine) 5) สินค้าหมักพร้อมปรุง (Marinade) 6) เบเกอรี่ (Bakery) และ 7) ผลิตภัณฑ์ปรุงรส (Seasoning)
- กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสด
เครือเบทาโกร ยังคงมุ่งเน้นเรื่องความสด สะอาด ปลอดภัย สำหรับแบรนด์เบทาโกร ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาดเนื้อปลาสด ได้แก่ ปลาดุก ปลานิล และปลากะพงขาวซึ่งผู้บริโภคสามารถนำไปปรุงอาหารได้สะดวกหลากหลายเมนู มีวางจำหน่ายที่เบทาโกรช็อปทุกสาขาทั่วประเทศ และขยายช่องทางจัดหน่ายไปยังโมเดิร์นเทรด ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ เครือเบทาโกร ยังรุกตลาดระดับพรีเมียม ด้วย 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ ไก่โคราช ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่คุณภาพสูงจากไก่สายพันธุ์ใหม่ที่ผ่านการพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์จากไก่พ่อพันธุ์พื้นเมืองแท้และแม่พันธุ์ชั้นเลิศ จึงให้รสชาติอร่อยกว่าด้วยเนื้อสัมผัสที่แตกต่างจากเนื้อไก่ทั่วไป มีไขมันน้อยกว่าเนื้อไก่ทั่วไปถึง 62% และอุดมด้วยกรดอะมิโนอิสระ (Free Amino Acid) ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบรสชาติและเนื้อสัมผัสของไก่พันธุ์พื้นเมืองที่ให้ทั้งความอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และเดลิช พอร์ค (Delish Pork) ผลิตภัณฑ์เนื้อหมูระดับพรีเมียมจากหมูพันธุ์ดูร็อคเจอร์ซี่สายพันธุ์แท้จากแคนาดาที่ให้เนื้อแน่น นุ่ม อันเป็นเอกลักษณ์
สำหรับแบรนด์เอสเพียว ผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ที่ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะในทุกขั้นตอนการเลี้ยงตั้งแต่วันแรก หรือ RWA (Raised Without Antibiotics) รับรองโดย NSF เป็นรายแรกของโลก ทางเครือเบทาโกรยังคงมุ่งมั่นในการขยายช่องทางจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงในวงกว้างมากขึ้น
- กลุ่มผลิตภัณฑ์ไส้กรอก
เครือเบทาโกรยังเดินหน้ารุกตลาดไส้กรอก ตั้งเป้าเติบโตถึง 10% จากการขยายตลาดในทุกช่องทาง ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์เอสเพียว อิโตแฮม และเบทาโกร เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ต้องการอาหารที่สะดวก รวดเร็ว แต่ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพและความอร่อยที่หลากหลาย โดยขยาย แบรนด์เอสเพียว เข้าสู่ตลาดกลุ่มซูเปอร์ พรีเมียม ด้วยผลิตภัณฑ์ไส้กรอกสไตล์โฮมเมด ที่ผลิตจากเนื้อหมูเอสเพียว บรรจุในไส้ธรรมชาติ ไม่ใส่ไนไตรท์ ผงชูรส และสารกันเสีย สำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่มีความอร่อยชั้นเลิศมาพร้อมความปลอดภัย เตรียมวางจำหน่าย 4 รสชาติ ได้แก่ นูเร็มเบิร์ก ไวส์เวิสท์ (Nürnberg Weisswurst), โชริโซ่ บ็อกเวิร์สท์ (Chorizo Bockwurst), ชีสคาบานอส (Cheese
Kabanos) และมุนเชินไวส์เวิสท์ (München Weisswurst) ขณะที่ แบรนด์อิโตแฮม ไส้กรอก พรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่น ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบรับความนิยมบริโภคไส้กรอกเนื้อบดหยาบ 2 รายการ ได้แก่ มิกซ์กริลล์ อะระบิกิ (Mixed Grill Arabiki) ไส้กรอกรวมรสชาติ หลากหลายความอร่อยในแพ็คเดียว และไส้กรอกจัมโบ้ สเต็ก อะระบิกิ (Jumbo Steak Arabiki) ไส้กรอกชิ้นใหญ่ เต็มคำกว่าเดิม นอกจากนี้ แบรนด์เบทาโกร ออกผลิตภัณฑ์ไส้กรอก เบทาโกร เอ็กซ์ตร้ามีท (Betagro Extra Meat) ทั้งไส้กรอก แฮม และโบโลญ่า สูตรเพิ่มชิ้นเนื้อบดหยาบเพื่อเพิ่มสัมผัสความอร่อยแน่นแบบเต็มคำ หอมกลิ่นรมควัน และเครื่องเทศสไตล์ บาร์บีคิว พร้อมเสิร์ฟแล้ว 4 รสชาติ ได้แก่ บาร์บีคิวชังค์ซอสเซจ (BBQ Chunk Sausage), บาร์บีคิวชังค์แฮม (BBQ Chunk Ham), สโม้คชังค์ซอสเซจ (Smoked Chunk Sausage) และสโม้คชังค์โบโลญ่า (Smoked Chunk Bologna) วางจำหน่ายในร้านค้าชั้นนำต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้แก่ บิ๊กซี, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, กรูเมต์ มาร์เก็ต, โฮมเฟรชมาร์ท, แม็กซ์แวลู, ยูเอฟเอ็ม ฟูจิ, วิลล่า มาร์เก็ต, แฟมิลี่มาร์ท, เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส, ลอว์สัน108, ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต, จิฟฟี่, ร้านเบทาโกร ช็อป และร้านเบทาโกร เดลี่
สำหรับตลาดส่งออกในปี 2563 เครือเบทาโกรยังคงเดินหน้าส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารสดและปรุงสุก ทั้งแบรนด์เอสเพียว และแบรนด์เบทาโกร ไปยังตลาดยุโรป ตะวันออกกลาง แคนาดา และเอเชีย ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ถึงส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน แบรนด์ เบทาโกร ไปยังประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ และเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ในประเทศฟิลิปปินส์ภายในปีนี้ด้วย
สำหรับงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2020 ระหว่างวันที่ 22 – 26 กันยายน เครือเบทาโกร ร่วมออกบูธจัดแสดงสินค้าอาหารคุณภาพสูง ภายใต้แนวคิด “Sustainable Life” เพื่อสื่อถึงความมุ่งมั่นในการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงเพื่อชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนของทุกคน โดยใช้ภาพเชิงสัญลักษณ์ (Graphic Device) ที่ช่วยสะท้อนตัวตนองค์กรให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และปีนี้ผู้ประกอบการ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพ และผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายรายการจากเครือเบทาโกร ทั้งอาหารสด อาหารแปรรูป อาหารพร้อมปรุง และอาหารพร้อมทาน และผลิตภัณฑ์อาหารส่งออก ณ บูธเครือเบทาโกร หมายเลข W01 และ V01 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และสำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมงาน สามารถติดตามรับชมวิดีโอคลิปพาเยี่ยมชมบูธและสินค้าอาหารของเครือเบทาโกรได้ที่ Facebook Betagro Brand อีกหนึ่งช่องทาง