‘จอห์นสัน’ คุมเข้มสกัดระบาดรอบสอง
ลอนดอน – เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันแห่งสหราชอาณาจักรขอความร่วมมือประชาชนให้ทำงานอยู่ที่บ้านหากเป็นไปได้ และสั่งให้บาร์และร้านอาหารปิดเร็วขึ้นเพื่อรับมือกับการระบาดในระลอกสองของโควิด-19 โดยมาตรการคุมเข้มเหล่านี้อาจจะบังคับใช้นานถึง 6 เดือน
หลังจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของรัฐบาลออกโรงเตือนว่า อาจมีผู้เสียชีวิตมากขึ้นหากไม่มีมาตรการรับมืออย่างเร่งด่วน โดยจอห์นสันพยายามไม่ล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเหมือนกับช่วงเดือนมี.ค. แต่ระบุว่า อาจมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้น หากการแพร่ระบาดยังไม่ลดลง
ไม่กี่สัปดาห์หลังจากเขากระตุ้นให้ประชาชนเริ่มกลับไปทำงานตามปกติ นายกฯ จอห์นสันแนะนำให้พนักงานบริษัททำงานที่บ้านหากสามารถทำได้ โดยเขาสั่งให้ผับ บาร์ ร้านอาหาร และโรงแรมปิดในเวลา 22.00 น.ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. และบริการอาหารโดยใช้บริกร
“ ผมขออภัย หากมาตรการจะกระทบกับธุรกิจที่เพิ่งกลับมาฟื้นตัว” เขาระบุ
ยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการเหล่านี้จะเพียงพอในการรับมือกับการระบาดระลอกสองในสหราชอาณาจักร ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 50,000 รายต่อวันช่วงกลางเดือนต.ค. แต่จะส่งผลกระทบอย่างหนักกับเศรษฐกิจของประเทศ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก
จอห์นสันระบุว่า มีการกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยในหลายสถานที่ มีกฎข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้น และอาจมีการนำกำลังทหารเข้ามาช่วยตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่
โดยธุรกิจที่ละเมิดกฎในการควบคุมโควิด-19 จะมีโทษปรับ 10,000 ปอนด์ หรือถูกปิด ขณะที่บุคคลอาจถูกปรับถึง 200 ปอนด์หากไม่สวมหน้ากากอนามัย หรืออยู่รวมกันเกิน 6 คน โดยพนักงานร้าน คนขับรถแท็กซี่และผู้โดยสารต้องสวมหน้ากาก รวมถึงลูกค้าในร้านอาหาร
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนและมหาวิทยาลัยยังคงเปิดทำการเรียนการสอนอยู่
จอห์นสันระบุว่า เป็นเรื่องน่าผิดหวังสำหรับคนส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติตัวตามกฎ และต้องเห็นคนส่วนน้อยที่ละเมิดกฎ
เมื่อถูกส.ส.ถามในสภาว่าทำไมตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหราชอาณาจักรจึงเลวร้ายกว่าเยอรมนีและอิตาลี จอห์นสันตอบว่า “ มีความแตกต่างสำคัญระหว่างประเทศของเราและประเทศอื่นทั่วโลก และประเทศของเราเป็นประเทศรักอิสระ เป็นเรื่องยากมากที่จะขอให้ประชาชนเชื่อฟังกฎที่จำเป็น”
สหราชอาณาจักรมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในยุโรปคือ 41,788 ราย ขณะที่ต้องกู้เงินสูงเป็นประวัติการณ์เพื่ออัดฉีดงบประมาณฉุกเฉินเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ
Andrew Bailey ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษเตือนว่า โชคร้ายมากที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 พุ่งขึ้นจนส่งผลกระทบกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และระบุว่าธนาคารกลางกำลังดำเนินการเพื่อหาหนทางในการสนับสนุนเศรษฐกิจให้มากขึ้น
จอห์นสันยังกล่าวว่า สหราชอาณาจักรควรมีการเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดในระลอกสองของโควิด-19 ที่ดีกว่าการระบาดในระลอกแรก