“PRIME” เดินหน้าโซลาร์ฟาร์มกัมพูชา 78 MV
PRIME มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้น 52% เร่งเดินหน้าโครงการโซลาร์ฟาร์มกัมพูชา กำลังการผลิต 78 เมกะวัตต์ คาดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ไตรมาส 2 ปี 65
นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘เผยว่า บริษัทฯ มีความยินดีที่หลักทรัพย์ PRIME ได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี 2 กลุ่ม คือ FTSE Micro Cap และ FTSE Total Cap ซึ่งเป็นดัชนีหลักทรัพย์ระดับนานาชาติ หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพียง 10 เดือนเท่านั้น
ส่วนประกอบการในครึ่งปีแรกของปี 2563 เติบโตสวนสถานการณ์โควิดกว่า 50% โดย บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีรายได้รวม 357 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากรายได้รวม 337 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2563 และมีกำไรเบ็ดเสร็จ 242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.3% จากกำไรเบ็ดเสร็จ 161 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปี 2562 โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิสูงประมาณ 49%
อย่างไรก็ดี บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้ อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 52% จากรายได้ 658 ล้านบาทในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 400 ล้านบาท เติบโตขึ้น 51% จากกำไรสุทธิ 265 ล้านบาทในปีก่อน
และตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้าเป็น 400 เมกะวัตต์ปีนี้ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดรวม 287 เมกะวัตต์ ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้ ได้จำหน่ายไฟฟ้าแล้วจำนวน 179 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่าง พัฒนาและก่อสร้าง 108 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าทั้งหมด ที่มีอยู่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งอยู่ในประเทศไทยจำนวน 132.3 เมกะวัตต์ ในประเทศญี่ปุ่นจำนวน 68.2 เมกะวัตต์ ในประเทศ ไต้หวันจำนวน 8.5 เมกะวัตต์
ส่วนความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศกัมพูชาที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดกัมปงชนัง มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 78 เมกะวัตต์ และมีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้า 60 เมกะวัตต์ มีกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในไตรมาส 2 ปี 2565
และล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจรับเหมาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ บนหลังคา (Solar Rooftop EPC) โดย ตั้งเป้าภายในปีนี้ จะทำสัญญาให้ได้มูลค่ารวม 300 ล้านบาท แต่อาจจะก่อสร้างแล้วเสร็จและรับรู้รายได้ภายในปี 2564 ปัจจุบันมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วกับโครงการที่กำลังจะทำสัญญา รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
นอกจากนั้นบริษัทยังเตรียมพร้อมสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (ควิกวิน) ของภาครัฐ และยังลุยซื้อ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่จ่ายไฟแล้วเข้ามาปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อเสริมความแกร่งของพอร์ต บริษัทฯ อีกด้วย
“บริษัทยังได้ใช้กลยุทธ์ Go Inter มุ่งขยายการลงทุนไปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งในประเทศ ที่ลงทุนไปแล้ว อย่างญี่ปุ่น ไต้หวัน และกัมพูชา และประเทศใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น มาเลเซีย เวียดนาม พม่า และอุซเบกิสถาน เป็นต้น”นายสมประสงค์ กล่าว