นักลงทุน ByteDance ใช้หุ้นหนุน Tik Tok
นักลงทุนในบริษัท ByteDance อยู่ในระหว่างการพูดคุยเพื่อใช้หุ้นที่ถือครองในบริษัทช่วยหนุนสถานะการเงินในแอปพลิเคชั่นยอดนิยม Tik Tok อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในประเด็นนี้
โดย ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจาขายกิจการของ Tik Tok ในอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ให้กับผู้ขอซื้อที่มีศักยภาพ ทั้งไมโครซอฟต์และออราเคิล โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งให้บริษัทจีนแยกกิจการ Tik Tok ในสหรัฐฯ โดยชี้ว่ามีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน Tik Tok ในสหรัฐฯ
แหล่งข่าวระบุว่า นักลงทุนหลายรายใน ByteDance รวมทั้งบริษัทลงทุนเจเนรัล แอตแลนติก กำลังแข่งกันถือหุ้นใหญ่ในสินทรัพย์ของ Tik Tok เพื่อขาย โดยภายใต้แผนปรับโครงสร้างของพวกเขา ไมโครซอฟต์ หรือ ออราเคิลอาจได้ถือหุ้นเป็นส่วนน้อยในสินทรัพย์
สินทรัพย์เพื่อการขายของ Tik Tok อาจมีมูลค่าระหว่าง 25,000 – 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากข้อมูลของแหล่งข่าว เพื่อช่วยหนุนฝ่ายของตัวเอง นักลงทุน ByteDance กำลังพูดคุยเพื่อเจรจาแลกเปลี่ยนหุ้นบางส่วน หรือหุ้นทั้งหมดในบริษัทจีน พร้อมเงินในบัญชีจากสินทรัพย์ของ Tik Tok
แผนการของนักลงทุน ByteDance เผชิญกับอุปสรรคกีดขวางสำคัญ จากข้อมูลของแหล่งข่าว โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์ระบุว่า พวกเขาคาดการณ์ว่าบริษัทรายใหญ่ชั้นนำของสหรัฐฯ จะได้ทำข้อตกลงกับ Tik Tok และเป็นเจ้าของแอปยอดนิยมจาก ByteDance
โดยหน่วยงานที่กำกับดูแลของรัฐบาลสหรัฐฯ คือ Committee on Foreign Investment in the United States (CFIUS) ต้องอนุมัติดีลที่ Bytedance ตกลงทำ
อย่างไรก็ตาม แรงผลักดันจากนักลงทุนบางรายของ ByteDance เพื่อให้มีบทบาทมากขึ้นในดีล Tik Tok เน้นให้เห็นถึงความพยายามของพวกเขาที่จะทำให้บริษัทจีนมีทางเลือกมากขึ้นและหลีกเลี่ยงการขายสินทรัพย์ในราคาถูกเกินไป
โดยมีนักลงทุนบางรายที่พยายามโน้มน้าว จางอี้หมิง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ ByteDance ให้วางมือจาก Tik Tok จากรายงานของแหล่งข่าว
ไมโครซอฟต์ยังคงเป็นผู้ซื้อที่มีโอกาสมากที่สุดในสินทรัพย์ Tik Tok เพราะกระเป๋าหนักและมีศักยภาพด้านเทคโนโลยีในการออกแบบอัลกอริธึมใหม่สำหรับ Tik Tok
แหล่งข่าวเสริมว่า ไมโครซอฟต์กำลังทำงานร่างพิมพ์เขียวว่า Tik Tok จะแยกการดำเนินการจาก ByteDance อย่างไรหลังจากบรรลุข้อตกลง ซึ่ง เรดมอนด์ บริษัทในวอชิงตันระบุว่า หวังว่าจะลงนามได้ภายใน 15 ก.ย. โดย CFIUS จะจับตามองการทำข้อตกลงภายในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่นานขึ้นเป็น 90 วัน
แหล่งข่าวขอไม่เปิดเผยนามเพราะประเด็นนี้เป็นความลับ Tik Tok และเจเนรัล แอตแลนติกปฏิเสธที่จะให้ความเห็น รวมทั้ง ByteDance ไมโครซอฟต์และออราเคิลด้วย
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีนตกต่ำลงจากประเด็นการค้า , การปกครองตนเองของฮ่องกง , ความมั่นคงทางไซเบอร์ และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดย Tik Tok กลายเป็นประเด็นความขัดแย้งล่าสุดระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ
เนื่องจาก Tik Tok ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในบรรดาวัยรุ่นอเมริกัน ทางการสหรัฐฯแสดงความกังวลว่าข้อมูลของผู้ใช้งานจะตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ของจีนได้
ทรัมป์ระบุว่า เขาจะสนับสนุนไมโครซอฟต์ให้ซื้อกิจการ Tik Tok หากรัฐบาลสหรัฐฯ จะได้เงินก้อนใหญ่เข้าคลัง แต่ระบุว่ายังมีผู้ซื้อที่มีศักยภาพรายอื่นอีก เช่น ออราเคิล
ByteDance เข้าซื้อแอป Musical.ly จากบริษัทในเซี่ยงไฮ้ด้วยมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2560 และเปิดตัวใหม่ในชื่อ Tik Tok ในปีต่อมา โดย ByteDance ไม่ได้รับการอนุมัติในการเข้าซื้อกิจการจาก CFIUS ซึ่งมองว่าดีลอาจมีความเสี่ยงด้านความมั่นคง สื่อรอยเตอร์รายงานในปีที่แล้วว่า CFIUS เริ่มเปิดการสอบสวน Tik Tok
ในสัปดาห์ก่อน Tik Tok ระบุว่ามีแผนจะยื่นฟ้องคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ในวันที่ 6 ส.ค.ที่ห้ามทำธุรกรรมกับแอปและ ByteDance
ก่อนหน้านี้ในปีนี้ ByteDance มีมูลค่าสูงถึง 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อผู้ถือหุ้นรายหนึ่งคือชีตาห์โมไบล์ ขายหุ้นจำนวนไม่มากในดีลส่วนตัว จากรายงานของรอยเตอร์ โดยหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนใน ByteDance ยังมีซอฟต์แบงค์กรุ๊ปจากญี่ปุ่นด้วย