“เวียงจันทน์” ประตูสู่สปป.ลาว
หากเอ่ยถึงเมืองเวียงจันทน์หลายๆ คนคงจะนึกถึงภาพประตูที่จะทำให้รู้จักประเทศลาวมากกว่าเดิม
แต่ทว่าความสนใจของเมืองเวียงจันทน์ ไม่ได้มีเพียงการเป็นเมืองหลวงของลาวเท่านั้น หากแต่เป็นหมุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับผู้ที่ถวิลหาการใช้ชีวิตเรียบง่ายในแบบฉบับของคนลาว พร้อมชมความน่ารักและไมตรีจิตที่ดีของคนประเทศนี้ โดยความโดดเด่นของเมืองเวียงจันทน์ที่หากได้ไปเยือนแล้วไม่ควรมองข้ามจะเป็นที่ใดบ้าง หาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
ชื่นชมความงามแห่งนครหลวงเมืองลาว เวียงจันทน์เป็นนครหลวงของประเทศลาวที่ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ โดยส่วนหนึ่งของเมืองเวียงจันทน์ติดกับเขตจังหวัดหนองคาย และมีเส้นทางการเดินทางติดต่อกันอย่างสะดวก เพียงข้ามสะพานมิตรภาพไทย- ลาวก็สามารถข้ามเขตประเทศสู่นครเวียงจันทน์ ทั้งนี้ เวียงจันทร์เป็นเขตการปกครองที่มีความเจริญและทันสมัยมากที่สุดของประเทศลาว สภาพแวดล้อมโดยรอบเต็มเปี่ยมไปด้วยความเรียบง่าย แต่ทว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวครบครัน
สักการะศูนย์รวมจิตใจของชาวลาว ศูนย์รวมแห่งจิตใจของชาวลาวคือพระธาตุหลวง ซึ่งมีชื่อที่เรียกขานอย่างเป็นทางการว่า พระเจดีย์โลกะจุฬามณี สถานที่แห่งนี้เป็นปูชนียสถานอันสำคัญมากที่สุดของนครเวียงจันทน์มายาวนานนับกว่าสหัสวรรษ เทียบเทียมความสำคัญแล้วก็ไม่แพ้วัดพระแก้วของเมืองไทย โดยสถานที่แห่งนี้เปรียบดังเอกลักษณ์ของประเทศลาว ซึ่งสามารถสังเกตได้จากตราสัญลักษณ์ของแผ่นดินลาวที่ปรากฏชัดเจนที่เจดีย์แห่งนี้นั่นเอง ทั้งนี้ ค่าเข้าชมพระธาตุหลวงจะอยู่ที่ท่านละ 5,000 กีบ หรือประมาณ 25 บาทเท่านั้น
ชมพระพุทธรูปที่วัดศรีสะเกษ สำหรับวัดแห่งนี้เป็นวัดที่เปรียบดั่งศาสนสถานและพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเอาพระพุทธรูปจำนวนมากไว้ในที่เดียวกัน โดยนับรวมทั้งหมดแล้วจะมีพระพุทธรูปทั้งสิ้นอยู่ 16,000 องค์ และขนาดขององค์พระจะมีตั้งแต่สูงไม่กี่เซนติเมตรไปจนกระทั่งระดับความสูงกว่า 2 เมตร นอกจาก นักท่องเที่ยวจะตระการตาด้วยองค์พระมากมายที่ไม่มีที่ใดเสมอเหมือนแล้ว สวนดอกไม้โดยรอบเองก็ยังสร้างความสดชื่นได้ไม่น้อย จากจำนวนดอกไม้สดงดงามที่ปลูกประดับไว้อย่างลงตัว เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดินเล่นชมความงามของศาสนสถานแห่งนี้ พร้อมทั้งยังเป็นการสงบจิตใจในบรรยากาศที่ร่มรื่นซึ่งหากได้ยากในปัจจุบัน ทั้งนี้ ค่าเข้าชมความงดงามของวัดศรีสะเกษจะอยู่ที่ท่านละ 5,000 กีบ หรือประมาณ 25 บาทเท่านั้น
ท่องตลาด ชมบรรยากาศเวียงจันทน์ ตลาดเวียงจันทน์แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามกับป้ายรถเมล์อันเป็นเส้นทางไปประตูชัย ซึ่งลักษณะของตลาดจะอยู่ในอาคารเก่าและมีความกว้างเพียงหนึ่งบล็อกเท่านั้น หากพิจารณาดูสภาพแวดล้อมภายนอกอาจจะไม่สะดุดตานักท่องเที่ยวสักเท่าใดนัก แต่หากว่าลองชมความงดงามภายในจะเห็นได้ถึงเอกลักษณ์ของตลาดแห่งนี้ที่ยากจะหาตลาดใดในโลกเสมอเหมือน บริเวณชั้นล่างเป็นสินค้าประเภทของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับต่างๆ หากแต่เมื่อนักท่องเที่ยวเดินต่อไปยังชั้น 2 ของที่นี่ ก็จะพบกับสินค้าที่สร้างความอัศจรรย์ใจหลายต่อหลายชนิด บางชิ้นเป็นของสะสมที่หาได้ยากจากที่อื่น สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการของฝากและชมบรรยากาศตลาดแห่งเมืองลาว ตลาดแห่งนี้นับเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุด
ประตูชัยเมืองลาว สัญลักษณ์แห่งเอกราช ประตูชัยเมืองลาว หรือในภาษาลาวเรียกว่า ประตูไซ นับเป็นการสร้างเลียนแบบกับประตูชัยที่ประเทศฝรั่งเศสอย่าง L’Arc De Triomphe แม้จะมีลักษณะโดยรวมที่คล้ายคลึงกัน แต่ทว่าที่มาของประตูชัยเมืองลาวนั้นสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการหลุดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกอย่างเต็มรูปแบบ ประวัติความเป็นมาของประตูชัยนี้เกิดจากเหตุการณ์ในช่วงที่ลาวหลุดจากการเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส จากนั้นสหรัฐอเมริกาก็เข้ามายึดครองประเทศลาวต่อในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะถอนทัพกลับออกไป ทิ้งไว้เพียงปูนซีเมนต์จำนวนมากซึ่งเดิมตั้งใจใช้สร้างสนามบิน คนลาวจึงนำปูนซีเมนต์เหล่านั้นมาสร้างเป็นอนุสรณ์แห่งการหลุดพ้นจากประเทศฝรั่งเศส ความโดดเด่นของประตูชัยแห่งนี้คือลายปูนปั้นที่อยู่บริเวณด้านข้าง ด้านบน และด้านหน้าอันอ่อนช้อยสวยงาม แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ศิลปะของคนลาวได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันก็ผสมผสานรูปทรงแบบยุโรปไว้ได้อย่างลงตัว ชวนให้ผู้ที่ได้ชมรู้สึกประทับใจในความเป็นเอกราชของคนลาวอย่างยิ่ง โดยรอบของประตูชัยแวดล้อมด้วยสวนสาธารณะที่จัดตกแต่งไว้อย่างสวยงามชวนมอง พร้อมกันนั้นก็ยังมีน้ำพุที่ช่วยสร้างบรรยากาศสงบและสดชื่นให้กับผู้ที่มาท่องเที่ยวในสถานที่แห่งนี้อีกด้วย โดยไม่มีค่าบริการในการเข้าชม
รู้จักกับลาวให้มากขึ้นที่ COPE Visitor Centre สถานที่แห่งนี้จัดเป็นสถานที่ให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ความเป็นมาของประเทศลาวได้ดีมากที่สุด เพราะภายในสถานที่แห่งนี้ผู้เข้าชมจะได้ศึกษาเรื่องราวของประเทศลาวในห้วงเวลาที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงคราม ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกสะท้อนใจกับความโหดร้ายของสงครามเวียดนามที่เกิดขึ้น และทำให้ผู้เข้าชมได้ตระหนักว่าสงครามไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับชาติใดเลยไม่ว่าจะเป็นชาติที่แพ้หรือชนะก็ตามที COPE centre สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของคนลาวได้อย่างลึกซึ้งถึงความเจ็บปวดจากสงครามและบาดแผลจากการที่ชนชาติที่ได้ชื่อว่าเจริญกว่ามารุกราน นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งควรค่าแก่การเข้าชม เพื่อรับรู้ความเป็นมาของประเทศเพื่อนบ้านให้มากกว่าที่เคยรู้ พร้อมทั้งรู้สึกถึงความรักชาติและกล้าหาญของคนลาวมากขึ้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้ไม่คิดค่าบริการเข้าชมใด ๆ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการรู้จักกับประเทศลาวให้มากกว่าที่เคยรู้จัก พร้อมกับต้องการสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลาวอย่างใกล้ชิด การเลือกเดินทางไปยังนครเวียงจันทน์นับเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุด เพราะนอกจากจะได้เปิดโลกทัศน์ของประเทศลาวนอกเหนือจากที่เคยได้รู้แล้ว นักท่องเที่ยวยังจะประทับใจกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของคนลาวอีกด้วย
ที่ตั้ง : นครเวียงจันทน์ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศลาวในเขตลุ่มน้ำโขง และมีที่ตั้งตามหลักภูมิศาตร์พิกัดสากลที่ 17°58′ เหนือและ 102°36′ ตะวันออก มีพรมแดนบางส่วนติดกับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองไทย
การเดินทาง : เดินทางได้โดยเครื่องบินจากกรุงเทพมหานครสู่นครเวียงจันทน์โดยตรง หรือนั่งเครื่องบินราคาถูกมายังอุดรธานีแล้วนั่งรถโดยสารต่อไปยังเมืองเวียงจันทน์ก็ได้เช่นกัน
ค่าที่พักในเวียงจันทน์ : เริ่มต้นที่ 500 บาทต่อห้องต่อท่าน